'หมอชลน่าน' ฉะ 'ประยุทธ์' ฮุบเหมืองทองอัครา-เงินครู 2 หมื่นล้าน
"หมอชลน่าน" ฉะ "ประยุทธ์" ฮุบเงินครู 2 หมื่นล้าน-ฮุบเหมืองทองอัครา จี้ให้ลาออก-พรรคร่วมถอนตัว
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 ก.พ.63 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยพฤติกรรมการเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ต่อกรณีการเข้าสู่อำนาจที่ฉ่อฉลผ่านกลไกที่กำหนดขึ้น และใช้อำนาจที่ขัดหลักนิติธรรม ทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชน, สื่อมวลชน
นอกจากนั้น ยังพบว่ามีพฤติกรรมฮุบเงินครู ที่มีสมาชิก กว่า 1.2 ล้านบาท ในกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ของบุคลกรทางการศึกษา จำนวนกว่า 20,237 ล้านบาท ที่ยึดเงินส่วนดังกล่าวเป็นของรัฐโดยใช้มาตรา 44 ดำเนินการเมื่อ 17 เมษายน 2558 เพื่อยกเลิกกรรมการ 3 คณะ คือ คณะกรรมการคุรุสภาฯ, คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สก.สค.) และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาเป็นประธาน ซึ่งตนขอกล่าวหาว่าใช้อำนาจยึดเงินกองทุน รวม 13,000 ล้านบาท เพื่อให้หน่วยงานรัฐ ทั้งที่เงินกองทุนดังกล่าวเป็นเงินของบุคคลไม่ใช่ของรัฐ
“การยึดผลประโยชน์ของบุคคลเป็นของรัฐ คือ การเอื้อประโยชน์ ตีความตามกฎหมายคือทุจริตต่อหน้าที่ เข้าข่ายขัดคุณสมบัติของการเป็นนายกฯ จงใจฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งเงินจำนวนที่ยึดดังกล่าวแม้จะตั้งคณะกรรมการบริหารได้ แต่ไม่ใช่การอนุมัติให้เงินกองทุนครู ใช้หนี้องค์การค้า ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง กว่า 2,000 ล้านบาท ผมขอเรียกร้องให้ติดตามคนกระทำผิดลงโทษ และคืนเงินที่ยึดไปให้ครู” นพ.ชลน่าน อภิปราย
นพ.ชลน่าน อภิปรายด้วยว่าพล.อ.ประยุทธ์ และเครือข่าย โดยเฉพาะ "พล.อ.ว.” ที่ใกล้ชิด มีพฤติกรรมฮุบเหมืทองทองอัครา ผ่านการออกคำสั่งมาตรา 44 ปิดเหมืองทองของเอกชน และฮุบเป็นของรัฐ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นเข้าสู่กระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ แม้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องระบุว่ารัฐไทยไม่เสียค่าโง่ 30,000 ล้านบาท แต่ตนเชื่อว่าไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งนี้เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นประเทศต้องไม่มีนายกฯชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเปิดทางให้มีรัฐบาลชุดใหม่เข้าสู่การเจรจาลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งนี้หากสภาฯ ไว้วางใจให้พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศคือความวิบัติของราชอาณาจักรไทย
“หากท่านไม่ไป ด้วยมือส.ส.ในสภาฯ ต้องไปด้วยอำนาจของประชาชน พล.อ.ประยุทธ์จะเดินอยู่ในบ้านเมืองด้วยความไม่มีความสุขมากที่สุด ทั้งนี้กระบวนการทางสภาฯ อาจเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เป็นไปได้ คือ ท่านต้องลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะท่านเป็นคนดี เป็นชายชาติทหาร ทั้งนี้โดยลักษณะของนายกฯ ปัจจุบันไม่เหมือนกับคนที่เป็นนายกฯ แต่เหมือนกับมิสเตอร์บีน ขณะที่ทางออกของความสูญเสียประเทศ อื่นๆ คือ นายกฯ ต้องบอกว่าจะนำเงินส่วนใดเพื่อชดใช้ความเสียหาย และขอให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหากยังมีจิตสำนึก อย่างไรก็ตามหากนายกฯ ไม่ดำเนินการใดๆ อาจถูกเปลี่ยนชื่อเป็น พล.อ.ปรายุทธ จุนตร้า” นพ.ชลน่าน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ นพ.ชลน่าน อภิปรายซึ่งกล่าวถึงบุคลิกภาพของนายกฯ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้นั่งฟังในห้องประชุมและมีสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลุกประท้วงการอภิปราย ว่าพาดพิงเสียดสี
อย่างไรก็ตาม เมื่อนพ.ชลน่าน อภิปรายแล้วเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกชี้แจงต่อประเด็นที่ถูกกล่าวหาทันที