รับน้อง 'พิธา' เลือดไหลไม่หยุด
แม้จะแปลงร่างเป็น “พรรคก้าวไกล” มี ส.ส.หนุ่มอนาคตไกล “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แต่สถานการณ์ภายในรังส้มหวานเก่า กลับมาปั่นป่วนอีกครั้ง
คำว่า “ไปไหนไปกัน 55 คน” ชักเสียงไม่ดัง ไม่หนักแน่นเหมือนเก่า
เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2563 ที่ศูนย์ประสานงานอดีตพรรคอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรี “ทิม พิธา” นำทีม ส.ส.รุ่นใหม่แถลงเปิดตัวพรรคก้าวไกล และหนึ่งในนั้น มีทนายคนดัง “คารม พลพรกลาง” ร่วมนั่งโต๊ะแถลงข่าวอยู่ด้วย
ล่าสุด อดีตทนายเสื้อแดง ได้ออกจากไลน์กลุ่มอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ และให้สัมภาษณ์สื่อบางสำนักว่า “การทำงานทางการเมือง เป็นคนละเรื่องกันกับหน้าตา เหมือนสามีภรรยา สามีไม่ใช่ว่าจะต้องอยู่กับภรรยาที่เป็นคนสวย แต่จะอยู่กับคนที่เข้าใจเขา และมีความเห็นอกเห็นใจกันเพื่อสร้างครอบครัวให้แข็งแรงมั่นคง”
สรุปว่า “คารม” ยอมรับ พิธาเป็นคนดี รูปหล่อ มีความรู้ แต่บทบาทการเป็น “หัวหน้าพรรค” พิธายังไม่มีบารมีมากพอ
กลางเดือนกรกฎาคม 2561 คารม พลพรกลาง ทิ้งพรรคเพื่อไทย และตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากสนามร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยไม่มีพื้นที่ให้ตัวเขาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้
ถ้าฟังคำให้สัมภาษณ์ของทนายคารม ช่วงที่มี ส.ส.อดีตอนาคตใหม่ 9 คน ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยเขาบอกว่า ไม่อยากให้การย้ายพรรคของ 9 ส.ส.ในครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็น “งูเห่า” เนื่องจากเป็นเพียงการเปลี่ยน “จุดยืนทางการเมือง” เท่านั้น
จริงๆ แล้ว ทนายคารมมีพรรคใหม่สังกัดเป็นที่เรียบร้อย เหลือแต่พิธีกรรมแสดงตน อีกอย่างยังมีเวลาเหลือเวลาอีก 1 เดือนกว่า และทนายคารมยืนยันว่า สามารถตอบคำถาม และมีคำอธิบายให้ประชาชนได้หมด
นอกจากทนายคารม ก็มี สมัคร ป้องวงศ์ ส.ส.สมุทรสาคร เขต 3 ที่ไม่ไปต่อกับพรรคเก่าแล้ว แต่ยังไม่เปิดตัวว่าจะไปสังกัดพรรคไหน รวม ส.ส.ไหลออกล็อตนี้ 11 คน
คาดว่า จะมี ส.ส.ส้มเก่าอีก 10 กว่าคน ที่ตัดสินใจจะไม่ไปแสดงตัวในวันที่ 14 มีนาคมนี้ หรือหากว่าไป ก็ยังจะไม่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล
ส.ส.กลุ่มนี้ได้ยื่นข้อเสนอต่อ “พิธา” ให้แก้ปัญหาการดูแล ส.ส. ไม่ใช่ปล่อยให้ “กัดก้อนเกลือกิน” โดยอ้างเรื่องอุดมการณ์ และต้องให้ ส.ส.มีส่วนร่วมในการบริหารพรรคมากขึ้นกว่าเดิม
พรรคการเมืองไม่ใช่บริษัท ส.ส.มีแค่สถานะ “ลูกจ้าง” ไม่น่าจะใช่พรรคการเมืองตามอุดมการณ์ประชาธิปไตย