เปิด ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ ข้อห้าม VS ข้อปฏิบัติ ที่ประชาชนควรรู้!

 เปิด ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ ข้อห้าม VS ข้อปฏิบัติ ที่ประชาชนควรรู้!

สรุปข้อปฏิบัติหรือขอบเขตที่ประชาชนสามารถทำได้ และไม่สามารถทำได้ตามการประกาศไว้ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

หลังจากที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน .. 2548 หรือ ...ฉุกเฉิน เพื่อจัดการโรคระบาดโควิด-19 ที่จะมีผลในวันที่ 26 มีนาคม 2563 นี้

ประชาชนส่วนใหญ่เกิดการวิตกกังวลถึงการปฏิบัติตัว และตั้งคำถามว่า สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิมหรือไม่ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์จึงสรุปข้อปฏิบัติหรือขอบเขตที่ประชาชนสามารถทำได้ และไม่สามารถทำได้ตามการประกาศไว้ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 

ทั้งนี้ข้อปฎิบัตินี้เป็นเพียงข้อปฎิบัติเบื้องต้นที่ระบุไว้ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เท่านั้น โดยข้อปฎิบัติตนที่จะถูกประกาศใช้เป็นทางการสำหรับโรคระบาดโควิด-19 ยังคงต้องรอนายกรัฐมนตรีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในครั้งต่อไป 

อย่างแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จะถูกใช้ในกรณีสถานการณ์ฉุกเฉินมีการก่อการร้าย การใช้กำลังประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำที่มีความรุนแรงกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล และมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้ยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที

  • มาตรการของ ... ฉุกเฉิน จะแบ่งเป็น  

ระดับที่ 1 สถานการณ์ฉุกเฉินทั่วไป

- ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งกระแสข่าวระบุว่า จะระบุ เคอร์ฟิว เวลา 19.00-07.00 . อย่างไรก็ตาม ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

- ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ที่ใด  

- ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ

- ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใด ๆ

-ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด


ระดับที่ 2 สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง 

- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวผู้ใดซึ่งต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อระงับความรุนแรงโดยไม่ชักช้า

- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงาน ตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเรียกมาให้ถ้อยคำ 

- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งยึดหรืออายัดอาวุธ สินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใดได้ 

-ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจค้น รื้อ ถอน หรือทำลายซึ่งอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งกีดขวาง ตามความจำเป็น 

- ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดออกไปนอกราช อาณาจักรได้ 

- ออกคำสั่งให้ใช้กำลังทหารเพื่อเข้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำรวจระงับ เหตุการณ์ร้ายแรงหรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วนได้

ข้อปฏิบัติตนที่ประชาชนสามารถทำได้ และไม่สามารถทำได้ คือ 

(1) ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ เป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น

(2) ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ที่ใด หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

(3) ห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน

(4) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ

(5) ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใด

(6) ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด

ทั้งนี้ต้องย้ำว่าข้อปฎิบัตินี้เป็นเพียงข้อปฎิบัติเบื้องต้นที่ระบุไว้ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 เท่านั้น ข้อปฎิบัติตนที่จะถูกประกาศใช้เป็นทางการสำหรับโรคระบาดโควิด-19 ยังคงต้องรอนายกรัฐมนตรีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในครั้งต่อไป