เบื้องหลังยึดพรรค พปชร. 'เสธ.อ้น' พล.อ.กนิษฐ์ เปิดใจ ทำตามที่นายสั่งก็แค่นั้น

เบื้องหลังยึดพรรค พปชร. 'เสธ.อ้น' พล.อ.กนิษฐ์ เปิดใจ ทำตามที่นายสั่งก็แค่นั้น

ชื่อของ เสธ.อ้น หรือ พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะคนใกล้ชิดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

 ถูกเปิดขึ้นมาในเกมเปลี่ยนตัวผู้นำพรรค พปชร. โดยเขาถูกจับจ้องว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญ ในการเดินเกมครั้งนี้

เสธอ้น เปิดใจถึงกระแสข่าวร้อนนี้กับเครือเนชั่นว่า “ขอพูดตรงๆไม่มีอะไรเลย สื่อไปเขียนกันเอง ก็ทราบกันดีว่าผมทำงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถ้านายจะอะไร ยังไง เราก็ทำตามที่นายต้องการ ตามที่นายสั่ง ก็แค่นั้น”

เสธอ้น ยังเปิดเผยถึงความสัมพันธ์กับ “นาย” ด้วยว่า “ผมช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร มาตลอด ตั้งแต่รับราชการทหาร เนื่องจากอยู่ ร.21 กับ พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานด้วยกันมาตลอด แต่หลังจากนั้นมาช่วย พล.อ.ประวิตร ในฐานะดูแลงานด้านความมั่นคง ผมดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหาร จากนั้นก็อยู่กับ พล.อ.ประวิตร มาตลอด พอ พล.อ.ประวิตร มาดูแลเรื่องการเมืองเต็มตัว ผมก็มาช่วยงาน”

ถามเข้าเรื่องร้อน ถึงความเคลื่อนไหวในพรรค พปชร.ที่มีการกดดันให้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.ประวิตร เข้าไปบริหารจัดการภายใน พปชร.เอง เสธอ้น ชี้แจงว่า จะไปกดดันอะไรเขาได้ ทางท่านอุตตม เคยพูดว่างานในกระทรวงการคลังมีมาก ไม่มีเวลา

 

เมื่อถามถึงว่า ข้อมูลวงในที่ระบุว่า มีการนำใบลาออกจากหัวหน้าพรรค ไปให้นายอุตตมเซ็น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เสธอ้น ปฏิเสธว่า ไม่ทราบ เพราะตนเองไม่ได้อยู่ในจุดนั้น แต่คิดว่าไม่น่าจะมี

"พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มาสั่งอะไรแบบนี้ เพราะว่าเท่าที่ผมฟังมา ทางพรรคต้องมีคนมาดูแล และมีการคุยกันเหมือนกับว่า ทาง นายอุตตม เองบอกว่าเขาไม่มีเวลามาดูแลพรรค บางทีประชุม ส.ส.ท่านก็ไม่ได้เข้ามา ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาฯพรรค ส.ส.ก็รู้สึกว้าเหว่ เหมือนกับไลน์ ส.ส. 24 คนที่หลุดออกไป สะท้อนความรู้สึกตรงนั้น การดูแล ส.ส.ของหัวหน้าพรรค กับ เลขา พรรค เวลาที่ลูกพรรคต้องการอยากให้มาดูแล เป็นความรู้สึก บางครั้งคนเราไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเอาอะไรมาให้ แต่เป็นความรู้สึกอยากได้ความอุ่น”

           “นี่คือสิ่งที่ พล.อ.ประวิตร อาจจะมีการคุยกัน แต่ไม่ถึงขนาดที่บอกให้ นายอุตตม ลาออก แต่มีคำพูดออกมาจากนายอุตตมเองว่า ไม่มีเวลา เพราะว่าการทำงานในฐานะ รมว.คลัง ก็เยอะอยู่แล้ว และอยู่ในสถานการณ์ระบาดของโควิด ที่ต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ก็รับภาระหนัก ที่บอกว่า การเอาใบลาออกไปยื่นให้เซ็น ไม่น่าจะใช่ และพี่ก็ไม่ได้มาอะไรยังไง เราก็งงกับข่าว พี่ทำงานเพื่อประเทศชาติ”

เมื่อถามว่า ถ้าหัวหน้าพรรคดูแลเอาใจใส่ลูกพรรคมากขึ้น การทำงานของส.ส.จะได้ดีขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.กนิษฐ์ ตอบว่า “ใช่ ความรู้สึกของ ส.ส.เป็นอย่างนั้น ผมก็อยู่ใกล้ชิดกับ ส.ส. เขาจะรู้สึกเหมือนกับว้าเหว่ ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค ส.ส.ทุกคนก็โอเค และเข้าไปหาความอบอุ่นจากนาย จึงมีการมองถึงบทบาทของหัวหน้าพรรค กับเลขาฯพรรค ตรงนี้ท่านเองน่าจะทำให้ ส.ส.รู้สึกอบอุ่น มี ส.ส.ไปนั่งบ่นให้นายฟังบ้าง ผมก็อยู่ในเหตุการณ์”

ผมเชื่อว่า ส.ส.จะอุ่นใจขึ้น เพราะว่า พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่อบอุ่น และมีความเมตตา มีบารมี ชอบดูแลลูกน้องอย่างทั่วถึง และฟังทุกความคิดเห็นของ ส.ส. ไม่เคยโกรธใคร ส.ส.สามารถเข้ามาหาท่านได้ตลอดเวลา มาคุยกับท่านอยู่เรื่อยๆ”           

 เมื่อถามว่ามี ส.ส.มากแค่ไหน ที่อยากให้เปลี่ยนหัวหน้าพรรค พล.อ.กนิษฐ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ว่าเยอะหรือไม่ แต่ความรู้สึกของคนที่ไม่พูดก็มี แต่ถ้าความเป็นหัวหน้าพรรค แล้วการบริหารพรรค การดูแล เป็นตัวชี้วัด การกระทำบ่งบอก บางคนพูดว่า หัวหน้าพรรค รู้จักชื่อ ส.ส.เขตในพรรคหมดทุกคนหรือไม่ เอารูปมาให้ดู แล้วบอกได้หรือไม่ คนนี้ชื่ออะไร อยู่จังหวัดไหน

“คือความสัมพันธ์ที่มีต่อลูกพรรคห่างเหิน อันนี้คือเรื่องจริง ความรู้สึกตรงนี้ทำให้ลูกพรรคว้าเหว่ มีหัวหน้าพรรค แต่ก็เหมือนไม่มี ส่วนจะมี ส.ส. รู้สึกแบบนี้ มากแค่ไหน ผมก็ไม่ทราบ เพียงแต่ผมมีความสัมพันธ์กับ ส.ส.ในทุกภาค ทั้งภาคเหนือ อีสาน ใต้ กลาง ไปพบเจอกัน แต่เราก็ไม่ได้นับจำนวนว่ามากน้อยแค่ไหน บางสิ่งที่รู้ แต่ไม่ชัด ก็ไม่อยากพูด เพราะบาป ผมไม่อยากไปปรักปรำใครในสิ่งที่เป็นเรื่องไม่จริง” พล.อ.กนิษฐ์ กล่าว

ต่อข้อถามถึง เรื่องที่เป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้ส.ส.รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ทั้งที่ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ระบาดโควิด ที่ต้องช่วยกันขับเคลื่อนงานรัฐบาล พล.อ.กนิษฐ์ กล่าวว่า “พล.อ.ประวิตร ก็รู้ว่าขณะนี้ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องโควิด และไม่คิดจะปรับเปลี่ยนในช่วงนี้ และไม่ควรจะทำ แต่ทางนั้นมองว่า พล.อ.ประวิตร พูดมีนัย อยากให้ออก ส่วนจะให้ไปปรับปรุงดูแล ส.ส.มากขึ้น หรือให้ลาออกนั้น อาจเป็นได้ 2 ทาง ผมก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เชื่อว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ไปบังคับเขา เรื่องเหล่านี้ต้องประชุมพรรค อย่างเร็วที่สุดก็เดือนมิถุนายน และจะประชุมได้หรือไม่ ยังไม่รู้เลย”

เมื่อถามถึงการแบ่งขั้วระหว่างคนของนายกฯ กับคนของ พล.อ.ประวิตร เสธอ้น ยืนยันว่า ไม่มี “พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร เป็นเนื้อเดียวกันแบบตายแทนกันได้”

เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าทั้งสองท่านได้ปรึกษากันเรื่องปัญหาหัวหน้าพรรค พปชร. พล.อ.กนิษฐ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ การเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เรื่องที่นายกฯ จะไปคุยกับ พล.อ.ประวิตร ไม่มีหรอก แต่เป็นเสียงสะท้อนของ ส.ส.ที่ รู้สึกกับหัวหน้าพรรคเท่านั้นเองที่มาคุยกับ พล.อ.ประวิตร

สำหรับความสัมพันธ์ ระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ นาย อุตตม ไม่ถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติด ใช่หรือไม่ พล.อ.กนิษฐ์ กล่าวว่า คงไม่มีหรอก และพล.อ.ประวิตร เป็นคนมีเมตตา ขนาดคนไม่ดีมาหา ผมบอกไปว่า ระวังคนนี้นะ แต่ พล.อ.ประวิตร บอกว่า “เฮ้ย อ้น คนไม่ดีมาหาเรา ก็ดีแล้ว เราจะได้ช่วยเขาให้ดีขึ้น แต่ถ้าไปหาคนไม่ดี ก็พากันลงเหว”ท่านคิดแบบนี้

ผมมองว่าเดี๋ยวข่าวก็ซาไปเอง ที่มีข่าวว่า วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล พี่เฮ้ง (นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส.พรรคพปชร.) เสธอ้น มีแต่ ส.ส.เบือนหน้า ทั้งที่เราไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย จะมาเบือนหน้าทำไม มีความพยายามตีว่า 3 คนนี้ จะทำให้พรรคแตกแยก ก็ว่ากันไป ถามว่าวันนี้ ส.ส.อยู่ภายใต้การดูแลของพี่เฮ้ง ก็ดูแลทั้งหมด แต่พี่เฮ้งใกล้ชิด ส.ส.ภาคกลางมากกว่า และอยู่ด้วยกันด้วยความรัก ดูแลกัน ส่วนพี่วิรัช ก็เข้าได้กับ ส.ส.ทุกคน เพราะเป็นประธานวิปรัฐบาล และเขามีวิธีคิด และมีความโอบอ้อมอารี มีมนุษยสัมพันธ์ดี เขาไม่ได้กระทืบใครมา พี่วิรัช ถือเป็นพี่ใหญ่คนหนึ่ง ส่วนพี่ก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรอยู่แล้ว” เสธอ้น ทิ้งท้าย

++ “อุตตมไม่เคยพูด! ไม่มีเวลาดูแลส.ส." ++

       ขณะที่ ธนกร วังบุญคงชนะ” เลขานุการ นายอุตตม สวานายน รมว.คลัง และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงถึงการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคของนายอุตตมว่า “ท่านอุตตม ไม่เคยพูดสักครั้งเดียวว่าไม่มีเวลาไปดูแล ส.ส.พรรค แม้ว่างานในกระทรวงการคลัง มีเป็นจำนวนมาก แต่ท่านก็ทำงานเยอะแยะได้ ในขณะเดียวกันการทำงานภายในพรรค คิดว่า ส.ส.ทราบดี ว่าท่านเป็นคนที่เข้าใจง่าย แล้วตั้งใจทำงานมาก และ ส.ส.ทุกคนก็เข้าถึง ในการประชุมพรรคในแต่ละสัปดาห์ หากไม่ติดประชุมที่สำคัญ ท่านจะไปร่วมประชุมแทบทุกครั้ง

“ที่ท่านสั่งการผมเสมอ สิ่งที่ส.ส.ประสานงานมา ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และผมต้องประสานงานช่วย ส.ส. เชื่อว่า ส.ส.ภายในพรรคเข้าใจดี และสิ่งนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่า ท่านหัวหน้าพรรค มีความใส่ใจลูกพรรคทุกคน และสิ่งสำคัญที่สุด การทำงานที่ผ่านมาท่านอุตตมทำงานด้วยความมุ่งมั่น ทั้งในฐานะหัวหน้าพรรค และ รมว.คลัง ผมเชื่อว่าบรรดาแกนนำของพรรค ได้มีการประสานงานกับท่านอุตตมมาโดยตลอด และเป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย" ธนกร ระบุ

เมื่อถามว่าการประสานงานระหว่างหัวหน้าพรรคกับ ส.ส.ที่ผ่านคนกลาง ทำให้ความสัมพันธ์ดูห่างเหินหรือไม่ เขาบอกว่า คงไม่ แม้ตนจะเป็นคนกลางประสานงาน แต่ ส.ส. ทุกคน ก็ประสานงานกับนายอุตตม โดยตรงอยู่แล้ว เพียงแต่ท่านได้มอบหมายให้ตนดำเนินการต่อ เชื่อว่า เรื่องตรงนี้ไม่น่าจะทำให้เกิดปัญหา อีกทั้ง ที่ผ่านมา แกนนำส.ส. ก็ทำงานด้วยดี กับนายอุตตมมาโดยตลอด

เมื่อถามว่าย้ำว่า นายอุตตม ดูแล ส.ส. ได้ทั่วถึง ทุกกลุ่มหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ผมมั่นใจและเชื่อมั่นว่าท่านอุตตม สามารถประสานงานกับกลุ่มส.ส ได้ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน ซึ่งสามารถไปสอบถามกับแกนนำส.ส. แต่ละกลุ่มได้เลย

ส่วนความรู้จักมักคุ้นกับ ส.ส.ในแต่ละเขต แต่ละพื้นที่ของพรรคพลังประชารัฐ ธนากร ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐมี ส.ส. 100 กว่าคน ต้องรู้จักส.ส.อยู่แล้ว ซึ่งแกนนำ ส.ส.แต่ละกลุ่ม ท่านอุตตม รู้จักมักคุ้นและพูดจากันได้ทุกกลุ่ม สามารถประสานงานได้หมด ซึ่งจะเห็นได้จากการทำงานตั้งแต่ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐมา ไม่มีใครเคยตำหนิหรือมองว่าท่านอุตตมเป็นคนที่เข้าถึงยาก”

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเป็นเสียงสะท้อนของ ส.ส. ในพรรคพลังประชารัฐที่อยากจะเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เพราะรู้สึกว้าเหว่ ไม่ได้รับการเอาใจใส่ โดยเฉพาะส.ส.ในกลุ่มภาคกลาง ธนกร ชี้แจงว่า ส.ส.แต่ละท่านก็มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง และมีมุมมองที่แตกต่างกันไป แม้แต่นายสุชาติ ชมกลิ่น ประธานส.ส.พรรค ก็รู้จักมักคุ้นกับนายอุตตม และประสานงานพูดคุยกันโดยตลอด

 

หาก ส.ส.บางท่านรู้สึกว้าเหว่ ต้องเข้าใจว่า การบริหารพรรคจะต้องเป็นระบบ การเมืองหากมีอะไร ก็สามารถประสานมาได้โดยตรงอยู่แล้วซึ่งนายอุตตมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย

เมื่อถามว่านายอุตตมน้อยใจหรือไม่หลังมีกระแสข่าวเกิดขึ้น นายธนกร กล่าวว่า ความน้อยใจคงไม่มีเพราะนายอุตตมยืนยันมาโดยตลอดว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่จะต้องทำงานให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 และไม่ได้คิดเรื่องการเมือง มีแต่คิดล่วงหน้า ถึงทิศทางของประเทศไทยในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ คงไม่มีเวลามาน้อยอก น้อยใจอะไร และนายอุตตมก็เคารพในความคิดเห็นของส.ส.ทุกคน พร้อมทั้งรับฟัง สังเคราะห์ข้อคิดเห็นของทุกคนเช่นกัน หากมีการพูดคุยกัน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ท่านบอกว่าไม่ได้น้อยใจ พล.อ.ประวิตร และยังเคารพเสมอ และท่านอุตตมก็เป็นลูกผู้ชาย และตั้งใจอาสาทำงานให้กับประชาชน และไม่เคยมีประวัติเสียหายอะไร เพราะฉะนั้น ผมเชื่อว่าความมุ่งมั่นของท่านในการทำงานให้กับประเทศชาติ ประชาชน ท่านคงไม่ได้รู้สึกท้อหรือบั่นทอนอะไร

เมื่อถามว่าในเดือนมิถุนายนนี้ จะมีการประชุมพรรคพลังประชารัฐ หากมีเรื่องการขอเปลี่ยนหัวหน้าพรรค นายอุตตมจะดำเนินการอย่างไร นายธนากร กล่าวว่า “สถานการณ์ขณะนี้ เชื่อว่ายังไม่สามารถประชุมอะไรได้ แต่ในอนาคตการปรับเปลี่ยนภายในพรรค ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะต้องหารือและมาทำความเข้าใจพูดคุยกัน คงไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรในอนาคต