ไทยจะไม่ชนะ กับสัญญาณ 'การ์ดตก'
“อยู่ห่างไว้ ใส่แมสก์กัน หมั่นล้างมือ ถือหลักสะอาด ปราศจากแออัด เคร่งครัดไทยชนะ” หลัก 6 ข้อ ปลอดโควิด-19 ที่ หมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. พยายามจะเน้นย้ำบ่อยๆ ปลุกให้คนไทยไม่การ์ดตก
ที่ต้องย้ำแล้วย้ำอีกเพราะ ศบค. เห็นสัญญาณการ์ดตกนี้มาพักใหญ่แล้ว หลังจากตัวเลขผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิดในบ้านเรา พบเพียงในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้เท่านั้น ประกอบกับการคลายล็อกระยะที่ 4 มีกิจการ/กิจกรรม เปิดทำการได้มากขึ้น ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น ทำให้หลักการ 6 ข้อที่ว่าไปข้างต้น เริ่มลดน้อยลงไป
ความเป็นปกติในชีวิต มีกระทั่งมีชาวบ้านส่งคำถาม มาถาม ศบค.ว่า สามารถจัดงานบวช งานแต่งงาน งานเลี้ยง รวมทั้งเลี้ยงที่มี “โต๊ะจีน” ได้หรือยัง คำตอบที่ได้กลับไปคือ ศบค.ไม่ได้มีข้อห้ามการจัดเลี้ยงโต๊ะจีน แต่ต้องมีการเว้นระยะห่าง เน้นการกินแบบมีช้อนกลางที่เป็นของส่วนตัว และอย่าลืมเช็คอินด้วย แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ตามสถานที่จัดงานด้วย
วงในจาก ศบค.บอกว่า ตอนนี้ระบบไทยชนะ มีคนเข้าไปใช้งานมากกว่า 27.5 ล้านคน มีกิจกรรมหรือกิจการที่ลงทะเบียน มากกว่า 1.9 แสนร้าน มีผู้ลงทะเบียนใช้แอพพลิเคชั่น ทั้งระบบแอนดรอยด์ และ ไอโอเอส 3.3 แสนราย สัดส่วนเช็คอิน-เช็คเอาท์ ผ่านแพลตฟอร์ม 51% ส่วนเช็คอิน-เช็คเอาท์ ผ่านแอพพลิเคชั่น 92%
ข้อมูลเหล่านี้ ดูเหมือนว่าจะได้รับความร่วมมือในระดับที่น่าพอใจ แต่ความจริงแล้ว ไส้ในของข้อมูล มีการวิเคราะห์ในเชิงลึก ที่มาจากการกดรายงานของผู้เข้าไปรับบริการใน ร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ภัตตาคาร ศูนย์อาหาร ร้านค้าปลีก ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ร้านอะไหล่มือถือ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก-ส่ง ตลาดนัด ตลาดค้าส่ง หาบเร่ แผงลอย และรถเข็น
มีรายงานโชว์ในระบบของไทยชนะว่า บางแห่งการ์ดเริ่มตก ทั้งไม่เว้นระยะห่าง ไม่มีการเช็คอิน ผู้ค้า ผู้ซื้อ ไม่สวมหน้ากากอนามัยจากผ้า หรือหน้ากากอนามัย การทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส และจุดบริการล้างมือ/แอลกอฮอล์ ตามมาตรการควบคุมโรค
และมีการรวบรวมข้อมูลการใช้ “ไทยชนะ” ครบ 1 เดือน พบว่า มีกิจการ 5 อันดับแรก ที่มียอดผู้เข้าใช้งานสูงสุด ได้แก่ 1.ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ภัตตาคาร ร้านอาหาร 2.ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก-ส่ง 3.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ 4.ที่ทำการหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ และ 5.การให้บริการ (รวมถึงบริการนวดและสปา)
ขณะที่ในกลุ่มของตลาดนัด ตลาดค้าส่ง หาบเร่ แผงลอย และรถเข็น ได้ผลประเมินการจัดการตามมาตรการ 5 ข้อและการใช้แพลตฟอร์ม/แอพพลิเคชั่นไทยชนะ น้อยกว่ากิจกรรมอื่นๆ
แต่จุดที่ ศบค.มีความเป็นห่วงกับการ์ดที่กำลังตก คือ กลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร มีแนวโน้มว่า การจัดการตามมาตรการได้น้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีในกรณีที่อาจเกิดการระบาดรอบสอง หรือ Second Wave
ขณะที่ข้อมูลสถานการณ์โลกยังไม่นิ่ง มีคนป่วยและเสียชีวิตเพิ่มทุกวัน และมีตัวอย่างให้เห็นในบางประเทศกลับมาระบาดซ้ำสองหลังคลายล็อก...