เปิดประวัติ 'ต.' แห่ง 'บ่อนพระราม 3' ไม่ธรรมดา ไต่เต้าเดินตามรอยรุ่นพี่

เปิดประวัติ 'ต.' แห่ง 'บ่อนพระราม 3' ไม่ธรรมดา ไต่เต้าเดินตามรอยรุ่นพี่

บ่อนพนัน “ต.” ตกเป็นข่าวโด่งดังชั่วข้ามคืนหลังมีการยิงกัน 4 ศพ หนึ่งในนั้นมีตำรวจยศพันตำรวจตรีรวมอยู่ด้วย สาเหตุมาจากเรื่องเงินการพนัน ชื่อของ “ต.” เป็นที่สนใจของคนในวงกว้าง ว่าเป็นใครมาจากไหน

วันนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบ่อนการพนันวีไอพี ย่านพระราม3 ที่มีเจ้าของ คือ “ต.” แท้จริงแล้ว เจ้าของสถานที่ คือ “เฮีย จ” โดยสถานที่แห่งนี้เปิดเป็นบ่อนมานานกว่า 8 - 9 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้มี “เจ้ใหญ่” รายหนึ่ง เคยมาเช่าเปิดบ่อนเช่นกัน แต่เปิดได้เพียง 6 - 7 เดือน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมทำให้ต้องปิดตัวลง ต่อมามีชาวต่างชาติ เข้ามาเช่าทำบ่อนต่อ แต่ก็ถูกสั่งปิดเช่นเดียวกัน หลังเปิดได้ 3 - 4 เดือน จากนั้นสถานที่แห่งนี้ก็ปิดตัวลงยาวนานกว่า 5 ปี และมีการกลับมาลักลอบเปิดใหม่อีกครั้งเมื่อช่วงกลางปี 2562 โดยมีเฮียเป็นผู้สานต่อการทำบ่อน ซึ่งเปิดมายาวนานจนพิษโควิด-19 จึงได้ปิดตัวลง และกลับมาเปิดใหม่ได้ไม่นานก็เกิดเรื่องยิงกันตายตามที่เป็นข่าว

“ต.ได้บริหารงานบ่อนในรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้ลงทุนเองเพียงคนเดียว แต่จะแบ่งโต๊ะการพนันให้เจ้ามือรายอื่น ๆ เข้ามาเช่า ซึ่งภายในบ่อนแห่งนี้มีทั้งหมด 14 โต๊ะ โดยเฮียจะคุมเองเพียง 4 โต๊ะ ส่วนที่เหลือปล่อยเช่า สำหรับค่าเช่านั้นคิดเป็นโต๊ะ โต๊ะละ 300,000 บาท ต่อ 8 ชั่วโมง ส่วนห้องวีไอพี นั้นจะมีราคาสูงกว่าปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ “เฮีย” จะมีรายได้ทั้งหมดต่อวันประมาณ 5 - 7 ล้านบาท ถือว่าเป็นรายงานได้ที่สูงมากพอที่จะส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เบื้องลึกล่าสุด! ยิงกันดับ 4 ศพ ตร.ตายคาบ่อนพระราม 3

ออกหมายจับมือยิง 'เฮียถาวร' คา 'บ่อนพระราม 3' เตรียมเรียกเจ้าของตึกสอบ

มาแล้ว! 'ชูวิทย์' แฉ 'บ่อนพระราม 3' ดับ 4 รายมีตำรวจด้วย

ประวัติ “ต.” ไม่ธรรมดาก่อนที่จะเติมโตทุกวันนี้ เคยเป็น ลูกน้องเก่าของอดีตเจ้าพ่อวงการบ่อนการพนันในเมืองกรุง ไต่เต้าเรียนรู้ จนขยับมาทำบ่อนเองชื่อว่า “ซาหลักเก้า” หรือ 369 ตั้งอยู่ย่านเยาวราช บ่อนแห่งนี้มีชื่อเสียงคนย่านนั้นรู้กันดี แต่ก็ไม่ยืดยาวก็ปิดตัวลง อย่างไรก็ดีในช่วงนั้น “เฮีย” เริ่มมีความสนิทสนมกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน รวมไปถึงญาติของนัการเมืองระดับชาติ จากนั้นก็มาเปิดบ่อนที่พระราม 3 โดยอดีตเจ้าพ่อวงการบ่อนเมืองไทยมีหุ้นส่วนเล็กน้อย

ในส่วนกระแสข่าวที่มีบิ๊กตำรวจอักษรย่อ “ซ” นั้น ทางตำรวจยังใช้เวลาในการตรวจสอบว่ามีการเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร แต่ในทางข้อมูลพบว่านายตำรวจรายนี้ มีความเกี่ยวข้องกับวงการพนันโดยเฉพาะพนันออนไลน์ ที่กำลังเป็นที่นิยมในเมืองไทยในยุคนี้่

 

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุยิงกันในบ่อนครั้งนี้ทำให้วงการบ่อนเมืองไทยต้องสะเทือน และคงมีอันต้องทยอยปิดตัวลงชั่วคราวก่อน แต่กลับกันในโลกออนไลน์ การพนันนั้นกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยี เข้าถึงได้ง่าย รวมไปถึงการโฆษณาดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ อาทิ โฆษณาออนไลน์ ที่มีเน็ตไอดอล เป็นผู้ชักชวน รวมไปถึงบุคคลในสายกีฬาที่ผันตัวมารับงานเสริมโกยเม็ดเงินจากบ่อนการพนันเพื่อนบ้าน โดยรับหน้าที่โปรโมทเว็บไซด์ ให้ทีเด็ดลูกค้า ออกโปรโมทดึงดูดต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาในรอบ 3 ปี มีข่าวการแจ้งข้อหากับ เน็ตไอดอล , ผู้คร่ำหวอดในวงการกีฬา นักพากษ์กีฬาฟุบอล หลายราย แต่เรื่องก็เงียบหายไปตามกาลเวลา

สำหรับพนันออนไลน์ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคาสิโน จากประเทศเพื่อนบ้าน มีการปรับเพิ่มช่องทางการพนันมาในระบบออนไลน์ ซึ่งมีเจ้าใหญ่อยู่ประมาณ 3 แห่ง ประกอบด้วย พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ , ปอยเปต , เกาะกง ซึ่งทั้ง 3 แห่งนี้มีผู้มีอิทธิพลและบุคคลสำคัญอยู่เบื้องหลัง

ขณะที่เว็บพนันออนไลน์ดาวรุ่ง ที่มีการพูดถึงกันแวดวงการพนันขณะนี้ คือเว็บไซต์ “sagame” (ซาเกมส์) โดยมีเว็บลิ้งค์ และมีเอเจนซี่ เข้าไปเชื่อมต่อเป็นจำนวนมาก โดยการพนันในเว็บไซต์จะมีการถ่ายทอดสด พร้อมกันสี่โต๊ะ ซึ่งจะมีการวางเงินรอบละ 1 ล้านบาทต่อโต๊ะ ในหนึ่งชั่วโมงมีเงินหมุนเวียน 240,000,000 ล้านบาท