'ผบ.ทบ.' ลั่นไม่ค้านแก้ รธน. ไม่คิดเป็นศัตรูประชาชน
"พล.อ.อภิรัชต์" แจง กมธ. ไม่ค้านแก้รัฐธรรมนูญ ปัดเป็นศัตรูประชาชน เผยแก้ปัญหาร้องเรียนผ่านสายตรง ผบ.ทบ. แล้ว 500 เรื่อง ยื่นตรวจสอบเองเป็นความลับ พบส่วนใหญ่เป็นเรื่องสวัสดิการ
พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ชี้แจง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ถึงได้ตอบคำถามของกรรมาธิการ เรื่องความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้แจงถึงการทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ในตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ต้องทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาด้วย ยังระบุว่าได้กล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชาว่าการเป็นทหารที่มีประชาธิปไตยต้องคิดใหม่ ยืนยันไม่คิดที่จะเป็นศัตรูกับประชาชน เพราะทหารก็ถือเป็นประชาชนคนหนึ่ง
รวมถึงอธิบายว่าเมื่อเรากลับไปบ้านก็เจอกับครอบครัวที่เป็นประชาชน จึงทำให้เข้าใจถึงความเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในถึงภายนอก แม้จะมีบางครั้งอาจจะมีวาทะหรือคำพูดบางอย่างออกไปก็ถือเป็นบทบาทหน้าที่ และในฐานะประชาชนและการเป็นข้าราชการ ไม่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าเป็นกลไกทางการเมือง ที่สภาผู้แทนราษฎรจะต้องเสนอผ่านกระบวนการตามกฏหมาย โดยอ้างความเห็นของนายกรัฐมนตรีที่เปิดให้การแก้ไขเป็นไปตามกฏหมาย
ผู้บัญชาการทหารบก ยังชี้แจงถึงการจัดสรรงบประมาณที่สอดคล้องกับการปฏิรูปกำลังพลเรื่องสวัสดิการ สิทธิขั้นพื้นฐาน รด.ไม่จำเป็นขัดรองเท้าหรือหัวเข็มขัด ไม่จำเป็นต้องตัดผม ย้ำว่ายุคนี้ยืดหยุดมากสุดแล้ว เพราะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก
ขณะเดียวกัน ยังชี้แจงการเบิกกองทุน อทบ. ที่ประกาศขีดเส้นจะทำให้สำเร็จก่อนเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ สำหรับการออมทรัพย์ อทบ. จะแก้เงื่อนไขการเบิกกองทุน โดยทำเอ็มโอยูกับธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ทหารเบิกที่ธนาคารได้แทนจากเดิมทำที่ส่วนกลางกองทัพบก ยังชี้แจงกิจการสวัสดิการของกองทัพทั้ง 4 แห่งอยู่ระหว่างการปฏิรูปที่อาจต้องใช้เวลา พร้อมยืนยืนก้าวต่อไปกองทัพบกตรวจสอบได้จากองค์กรภายนอก
พร้อมยืนยันสายตรง ผบ.ทบ. เป็นความลับ รับเรื่องมากว่า 500 เรื่องจัดการปัญหาไปแล้ว และพบว่าร้อยละ 70-80 เป็นเรื่องสวัสดิการ เช่น ลาออกแล้วมีเงินกองทัพค้างจ่ายแต่ไม่รับเงิน หรือไม่ได้เงินค่าชดเชยทุลพลภาพ และย้ำว่าโทรหาแม่ทัพด้วยตัวเองเพื่อดำเนินการตามคำร้อง ซึ่งมีดำเนินการตรวจสอบและลงโทษที่มีทั้งปัญหาค้ายาเสพติด และมีการตั้งด่านตรวจ
ขณะที่ พลโทชนาวุธ บุตรกินรี เจ้ากรมยุทธการทหารบกกองทัพบก ยังตอบคำถามของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมาธิการ ในประเด็นเรื่องการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน ในการทำปฏิบัติข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ ว่า เป็นเพียงการบริหารสื่อที่ประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อ แนวความคิดของฝ่ายตรงข้ามสนามรบ ส่วนกรณีประชาชนเพื่อรับทราบข้อมูลข่าวสารถึงการแจ้งเตือนภัยพิบัติ เพื่อเตรียมรับมือภัยธรรมชาติเท่านั้น ยืนยันไม่มีการดำเนินการในลักษณะเป็นการการโจมตีให้เกิดความแตกแยกในสังคม พร้อมปฏิเสธข้อสังเกตการประมาณการดำเนินการไอโอ มีแต่เพียงโครงการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ
ภาพ-เนชั่นทีวี