แนวหลังม็อบ! 'ธนาธร' ตรวจการรบ 'ปิยบุตร' กุนซือกลศึก 'ช่อ' หน่วยจรยุทธ์
จับประเด็นร้อน แนวหลังม็อบ! "ธนาธร" ตรวจการรบ "ปิยบุตร" กุนซือกลศึก "ช่อ" หน่วยจรยุทธ์
"รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" คือมหาปราชญ์ "ซุนวู" ผู้เขียนตำราพิชัยสงคราม เคยกล่าวไว้ยังใช้ได้ทุกสมรภูมิความขัดแย้ง กรณีการชุมนุมของแกนนำกลุ่มปลดแอก มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องเกิดแนวร่วมมวลชนเพิ่มขึ้น จากประชาชน นักศึกษาและนักเรียนออกมาขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขณะเดียวกัน เริ่มเห็นภาพของ "เอก" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, "ป๊อก" ปิยบุตร แสงกนกกุล และ "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช ปรากฎเด่นชัด ท่ามกลางสถานการณ์ต่างฝ่ายต่างเปิดแนวรุกระหว่าง "เจ้าหน้าที่รัฐ" กับ "แกนนำม็อบ"
การเปิดยุทธการฝ่ายรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (19 ส.ค.) ตำรวจนครบาลควบคุมตัวแกนนำตามหมายจับ อย่าง อานนท์ นำภา , บารมี ชัยรัตน์ , สุวรรณา ตาลเหล็ก , กรกช แสงเย็นพันธ์ ซึ่งคัดค้านประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยทั้ง 4 ราย มีชื่อใน 31 หมายจับ จากเหตุชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 และในเช้านี้ (20 ส.ค.) จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดา
น่าสนใจว่า เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากตำรวจนำตัวแกนนำม็อบไปสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม มี รังสิมันต์ โรม , เบญจา แสงจันทร์ , อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา และ ชัยธวัช ตุลาธน พร้อมบรรดา ส.ส. พรรคก้าวไกล เดินทางมาเพื่อทำหน้าที่ ใช้ตำแหน่ง ส.ส. เป็นนายประกัน ขณะที่ สน.สำราญราษฎร์ มี "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช เดินทางมาเพื่อขอพบบารมี แต่ตำรวจไม่อนุญาต และเวลาต่อมา "เอก" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เดินทางมาถึงขอพบผู้ต้องหาแต่ตำรวจไม่อนุญาตเช่นกัน จึงนั่งพูดคุยร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุม
"ช่อ" พรรณิการ์ ทวิตข้อความระบุว่า ธนาธร มาให้กำลังใจ บารมี ชัยรัตน์ ที่ถูกจับกุมมาที่ สน.สำราญราษฎร์ จากการร่วมชุมนุมเยาวชนปลดแอก แต่ตำรวจไม่ให้ขึ้น สน. เลยเกิดวงธรรมชาติ นั่งคุยกับน้องๆนิสิตนักศึกษาที่มารวมกันที่หน้าสน. คุยเรื่องอนาคตของชาติ และการแก้รัฐธรรมนูญ
"มีคนถามเขาว่าคุณธนาธรอยู่เบื้องหลังม็อบนักศึกษา ธนาธรตอบว่า โอ๊ยย ผมเนี่ยอยู่เบื้องหลังแน่ เพราะพวกเขาไปไกลไปเร็วมาก ผมวิ่งตามไม่ทัน เลยอยู่ข้างหลัง"
ขณะที่ "ป๊อก" ปิยบุตร ทวิตข้อความช่วงเวลาใกล้เคียงกันว่า วิธีที่รัฐบาลนำมาใช้จัดการผู้ชุมนุม 1. ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ตั้งข้อหากวาดไว้หลายๆข้อหา ขอออกหมายจับแกนนำ เลือกจับตามช่วงเวลา นวดแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้อ่อนล้า โดยไม่ต้องใช้อาวุธ ไม่ต้องสลายการชุมนุม แต่ใช้ “กฎหมาย” แทน
ส่วนนายกฯ และ รมต. ก็ทำท่าทางใจกว้าง รับฟัง และบอกว่าผู้ชุมนุมบริสุทธิ์ แต่อีกด้านก็ไล่จับแกนนำ โยงเรื่องวาดผังท่อน้ำเลี้ยง มีคนชักใย พร้อมกันนั้น ก็ส่งสัญญาณพร้อมแก้ รธน. โดยให้มี ส.ส.ร. เพื่อลดกระแสการชุมนุม ทำทีว่าแก้ปัญหาให้แล้ว แต่จริงๆเป็นเพียงการ เตะถ่วง-ซื้อเวลาเท่านั้น เพราะไม่รู้ใช้เวลาร่าง รธน. ใหม่อีกเป็นปีหรือไม่ ส่วนรัฐบาลก็อยู่ต่อ มีกลไกการสืบทอดอำนาจ มี ส.ว. 250 คนอยู่ต่อ
นี่คือการใช้วิธี ไม่ใช้อาวุธปราบปราม ไม่สลายการชุมนุม ปล่อยให้ชุมนุมไป แต่ใช้ “กฎหมาย” เป็นเครื่องมือ ยัดคดีให้เรื่อยๆ เพื่อลดทอนพลังของการชุมนุมให้อ่อนล้า แข่งความอึด ซึ่งรัฐบาลมีกลไกสนับสนุนทุกอย่าง ส่วนการแก้ รธน. ก็จะบอกว่า ทำแล้วไง แต่มันมีขั้นตอน ต้องรอหน่อย ต้องถามไปยังเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย ว่าจะยอมพลีตนเป็นกลไกให้เขาใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายอนาคตของชาติแบบนี้หรือ? ทำไมไม่อยู่ข้างที่ถูกต้อง?
อย่างไรก็ตาม แม้การปรากฎตัวของ "เอก ป๊อก ช่อ" และส.ส.ก้าวไกลหลายคน ในการช่วยและให้กำลังใจ 4 แกนนำ แต่มวลชนที่จะไปเติมคนหน้า สน. มีไม่มากนัก อาจเพราะมีหลายพื้นที่จัดกิจกรรมชุมนุม จึงแบ่งกำลังคนมาช่วยเสริมแรงกดดันไม่ทันเวลาแม้จะข้าวข้ามเที่ยงคืนไปแล้ว
ประเมิน "แนวรุก" ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐแล้ว ไม่ผิดไปจาก "ปิยบุตร" วิเคราะห์อ่านเกมออก การที่ "ช่อ พรรณิการ์" เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ไปในพื้นที่สมรภูมิที่ไม่มีคนไปดูแลมวลชนถูกจับ เพื่อไม่ให้เสียขวัญและเหมือนเป็นการแจ้งข่าวผ่านทวิตให้มวลชนรับรู้หากเกิดเหตุด่วน ตามด้วย "เอก ธนาธร" ไปให้กำลังใจตรวจการว่าสถานการณ์จริงเป็นเช่นไร จะได้ให้คำแนะนำได้ถูกต้อง
แต่แน่นอน ฝ่ายม็อบและฝ่ายรัฐบาล ต่างติดตามความเคลื่อนไหวของกันและกัน อย่างที่บอก "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" ซึ่งการที่ "เสี่ยโป้" อภิรักษ์ ชัยอานนท์ เดินทางมาที่ สน.สำราญราษฎร์ เวลา 5 ทุ่ม เพื่อจะคุยกับ ธนาธร เรื่องแนวทางการเมืองที่จะไม่สร้างความขัดแย้ง ทำให้ ธนาธร เดินกลับออกจาก สน.สำราญราษฎร์ โดยไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด
ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า "ยุทธการเผชิญหน้า" ของ "เสี่ยโป้" จนทำให้ "ธนาธร" ต้องหลบ เกรงจะเกิดภาพปะทะอารมณ์ เกิดความขัดแย้ง ซึ่งการที่ "เสี่ยโป้" โผล่มาแบบนี้ ใครจะเชื่อว่าเหตุบังเอิญ?
เหนืออื่นใด แนวรบ "ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ" ในการจัดการม็อบ ย่อมเขย่าขวัญแนวร่วมนักเรียนและนักศึกษา พร้อมๆ กับใช้ "ตัวป่วน" ช่วยปั่นกระแสเพิ่มเงื่อนไขให้กลายเป็น "ม็อบก้าวร้าว" ย่อมทำลายความชอบธรรมของอีกฝ่ายด้วย
เกมนี้วางเดิมพันสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว.. พิสูจน์กึ๋น "แม่ทัพเอก-กุนซือป๊อก-ช่อจรยุทธ์" ทัพหลังม็อบสู้ฝ่ายรบ. ใครจะพลาด ใครจะอึดกว่ากัน!?