'ปรับแผน-เพิ่มกำลัง' รับมือชุมนุมวันนี้ ตร.ตรึง 1 หมื่นนาย ม็อบลั่นปิดเกมก่อนเที่ยง 20 ก.ย.

'ปรับแผน-เพิ่มกำลัง' รับมือชุมนุมวันนี้ ตร.ตรึง 1 หมื่นนาย ม็อบลั่นปิดเกมก่อนเที่ยง 20 ก.ย.

ตร.ปรับแผนรับมือม็อบ เพิ่มกำลังเป็นหมื่นนาย กำชับห้ามใช้ความรุนแรง ด้านแกนนำปลุกมวลชนร่วมชุมนุมเย้ยตัวเลขมั่นคง ลั่นปิดเกมก่อนเที่ยง 20 ก.ย.

ความเคลื่อนไหวการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุมในวันนี้ (19 ก.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะใช้แผนรักษาความสงบชุมนุมสาธารณะ หรือ แผนชุมนุม63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำกับดูแลการชุมนุมและการชุมนุมจากนี้ตลอดไป แทนแผนกรกฎ52 ที่ใช้มานานกว่า 10 ปี จึงไม่ทันสมัย เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง และมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา

“ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาปรับปรุงแผนขึ้นมาใหม่ให้มีความทันสมัย เหมาะสม สอดคล้องเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และรองรับ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะที่บังคับใช้เมื่อปี 2558 ซึ่งแผนได้ทำเสร็จและ ผบ.ตร. ลงนามบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา พรุ่งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่จะมีการนำ“แผนชุมนุม63” ใช้กับสถานการณ์ชุมนุมจริง”รองโฆษก ตร. กล่าว

สำหรับแผนชุมนุม63 ยังยึดแนวทางปฏิบัติกับผู้ชุมนุมจากมาตรการเบาไปหาหนักเหมือนแผนกรกฎ 52และเป็นแผนที่ไม่มุ่งเน้นการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ แต่เน้นเรื่องการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลการชุมนุม เช่น ขอศาลให้การชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย

“กำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งตำรวจหญิง รวมกว่า 10,000 นายจะเริ่มเข้าพื้นที่ประจำจุดเพื่อรักษาความปลอดภัยตั้งแต่คืนนี้ ยืนยันการข่าวยังไม่พบการพยายามสร้างสถานการณ์ของมือที่ 3” รองโฆษก ตร. กล่าว

รายงานข่าว ระบุว่า ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในนี้ มีคำสั่งห้ามพกพาอาวุธ อย่างเด็ดขาด

ผบ.ตร.กำชับห้ามใช้ความรุนแรง

เช่นเดียวกับพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เปิดเผยว่า การชุมนุมในวันที่ 19-20 ก.ย. สถานการณ์โดยทั่วไปยังไม่น่าเป็นห่วง และยอมรับว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องการขออนุญาตจัดการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ส่วนกรณีเปลี่ยนแผนการดูแลความสงบเรียบร้อยที่จากเดิมมีการกำหนดใช้แผนกรกฎ52 มาเป็นแผนชุมนุม 63 ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพิ่งลงนามอนุมัติคำสั่งใช้ไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ชี้แจงว่าแผนที่ปรับเปลี่ยนไป เป็นเพียงกรอบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในสถานการณ์ต่างๆ เท่านั้น เป็นเรื่องภายในของตำรวจ โดยยืนยันว่าในการปฏิบัติก็จะดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับไม่ให้ใช้ความรุนแรงและเน้นย้ำดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไปอย่างเข้มงวด

ผบช.น. ยังกล่าวว่า การชุมนุมอาจมีการเคลื่อนขบวนไปยัง ทําเนียบรัฐบาล เพื่อความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านการจราจร เพื่อประกอบในการเดินทางของประชาชน ดังนี้ 11 เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุม และควรหลีกเลี่ยงดังนี้ ถนนราชดําเนินใน ถนนราชดําเนินกลาง ถนนราชดําเนินนอก ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ถนนจักรพรรดิพงษ์ ถนนหลานหลวง ถนนดินสอ ถนนตะนาว สะพานพระราม 8 สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า

จัดกำลัง 3 กองร้อยคุมทำเนียบ

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล มีการรายงานว่า มีการประชุมรับมือสถานการณ์การชุมนุมโดยใช้พื้นที่ ร.1 รอ. เป็นสถานที่ที่ใช้ประเมินสถานการณ์รับมือการชุมนุม และสั่งจับตาแกนนำ กลุ่มมือที่สาม ที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ในการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ โดยในช่วงเย็นได้เคลียร์รถที่มาจอดในทำเนียบให้ออกไปทุกคันเพื่อป้องกันความเสียหาย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท ได้นำรถดับเพลิง 2 คัน และรถดับเพลิงที่มาจากสถานีดับเพลิงสามเสน อีก 2 คัน มาจอดในทำเนียบรัฐบาล และมีกำลังเจ้าหน้าที่ 3 กองร้อย เข้ารักษาพื้นที่

“อภิรัชต์” สั่งวางกำลังรับมือม็อบบุก

ที่กองบัญชาการกองทัพ (บก.ทบ.) รายงานข่าวเปิดเเผยว่า พล.อ.อภิรัชต์​ คงสมพงษ์​ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.​ ของฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประกาศจะเดินมาที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเส้นทางของ​กลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องผ่านมาบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ​ทางผบ.ทบ. จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนตั้งรับ​ป้องกันสถานที่ราชการ​ โดยเฉพาะพื้นที่ภายในบก.ทบ. ซึ่งถือเป็นสถานที่สำคัญล่อแหลมต่อการบุกรุกสถานที่

ทั้งนี้ ได้นำรถประชาสัมพันธ์​ ปฏิบัติการด้านจิตวิทยามวลชน​ ติดโทรโข่ง​ พร้อมรถบรรทุกฉีดน้ำ​ และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารส่วนหนึ่ง​ในการปฏิบัติการจิตวิทยา​ เหมือนในอดีตซึ่งเคยมีกลุ่มผู้ชุมนุม​กปปส.ได้พังประตูบุกเข้ากองทัพบกมาแล้ว​ หากครั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะพยายามใช้พลังมวลชน บุกเข้ามาในพื้นที่ก็จะมีเจ้าหน้าที่ใช้โทรโข่งชี้แจงให้เกิดความเข้าใจในเบื้องต้นโดยปฏิบัติการนี้จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ บริเวณประตูด้านหน้ากองทัพบก​และด้านหลัง​ได้ติดตั้งเครื่องกีดขวาง​แบริเออร์​ ป้องกันรถบุกเข้ามา พร้อมติดตั้งลวดหนามรอบพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่​ 18​ ก.ย.เป็นต้นไป

แกนนำปลุกม็อบเย้ยมั่นคง

ส่วนความเคลื่อนไหวมาจากแกนนำอาทิ นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการกลุ่มเยาวชนปลดแอก ทวิตข้อความประกาศเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมระบุว่ารับสมัครคนไปม็อบครับจำนวน 2000++ เพื่อไม่ให้ฝ่ายความมั่นคงหน้าแหก

วันเดียวกัน.มีการเผยแพร่แผนการทำงานการชุมนุมในวันที่ 19 -20 ก.ย.รายละเอียดโดยสรุป ในวันที่ 19 ก.ย.กลุ่มแกนนำพร้อมทีมงาน จะมารวมตัวกันที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ก่อน (ประตูฝั่งสนามหลวง ทางเข้าตึกนิติศาสตร์) จากนั้นเวลา 13.00 น. จะมีการปราศรัยไปเรื่อยๆเพื่อรอมวลชน ซึ่งทางแกนนำจะประเมินสถานการณ์ หากมวลชนคนเยอะจึงจะเริ่มการเจรจาเคลื่อนเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่หากการเจรจาไม่เป็นผล ก็จะทำตามแผนที่เตรียมไว้ ก่อนใช้รถเครื่องขยายเสียงนำขบวนเข้าไปที่สนามฟุตบอล จากนั้นจะใช้รถเครื่องขยายเสียงเป็นเวทีเล็ก หันหน้าไปทางหอประชุม เพื่อปราศรัยรอมวลชน

เมื่อจำนวนคนมากพอ จึงจะใช้รถนำเคลื่อนขบวนออกจากม.ธรรมศาสตร์ มาที่สนามหลวง เข้าประตูสนามหลวงฝั่งหน้าหอใหญ่ ถ้าตำรวจไม่ให้เข้าจะเจรจาก่อน คาดว่าช้าสุดจะเข้าสนามหลวงได้ประมาณ 20.00 น. สำหรับช่วงไฮไลต์จะเป็นตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไป จะพูดทุกเรื่องที่ทุกคนรอ รวมถึงข้อเรียกร้อง 10 ข้อ และกำหนดยุทธศาสตร์ที่จะทำต่อไป

ลั่นปิดเกมไม่เกินเที่ยงวัน20ก.ย.

สำหรับวันที่ 20 ก.ย. แกนนำจะประกาศว่าจะไปที่ไหน และเคลื่อนพลออกจากสนามหลวง เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง 10 ข้อ แต่ไม่ไปทำเนียบรัฐบาลส่วนจะไปที่ไหน จะแจ้งในคืนวันที่ 19 ก.ย. และเช้าวันที่ 20 ก.ย.

ทั้งนี้แกนนำได้ประเมินสถานการณ์ เตรียมแผนรับมือไว้เพราะสถานที่ที่ไป อาจถูกบล็อกไว้ อาจมีการปะทะ แต่จะจัดชุดทีมเจรจา เบื้องต้นมี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง กับ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และเพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆ บริเวณที่ใช้รถเครื่องขยายเสียง นำมวลชน ไม่มีการตั้งเวทีและพยายามจบกิจกรรมไม่เกิน 12.00 น. ทั้งนี้หากฝ่าแนวตำรวจไปไม่ได้ และมีการใช้แก๊สน้ำตา การ์ดที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ย้ำว่า!! ทุกภารกิจหากฝนตก ทุกอย่างจะรันต่อไปทั้งนี้จะมีคนที่มาร่วมชุมนุม100 กลุ่ม ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน

นายกฯปัดแถลงการณ์ข่มขู่นศ.

วันเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า เพราะมีความเป็นห่วงสถานการณ์โควิดระบาดรอบ2ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้ห่วงตรงนี้เพื่อไปกดดันตรงนู้นโดยต้องมองเจตนารมณ์นายกฯที่มีแต่ความห่วงใยขณะเดียวกันที่พูดเมื่อวานห่วงใยจริงๆโดยไม่ได้ต้องการไปข่มขู่ใครเพราะเป็นเรื่องจริงซึ่งผู้ใหญ่ก็ต้องห่วงใยลูกหลานเพราะถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะรับมือกันไหวหรือไม่เนื่องจากคนจำนวนมากถึงแม้เราจะมีความพร้อมก็ตาม

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลสถานที่สำคัญในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ ที่จะมีการนัดชุมนุมใหญ่ว่าไม่ต้องห่วงตนทำไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบฯและเดินต่อไปยังลานพระบรมรูปทรงม้าก็ต้องป้องกันเขามีทางอื่นก็เลี่ยงไปที่อื่นอย่าไปลานพระบรมรูปทรงม้า ยอมรับว่ามีข้อมูลกรณีการระดมพลมาจากหลายจังหวัดและมีการปล่อยคลิปต่างๆไม่เป็นอะไรก็ปล่อยให้เขาว่ากันไปยืนยันว่าไม่กังวลดูแลได้อยู่แล้ว