ขุมอำนาจ-ขุมทรัพย์ ‘ครูโอ๊ะ’ ทายาทบ้านใหญ่‘วิลาวัลย์’

“เลขาธิการคุรุสภา ที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารโรงเรียน รวมทั้งครู รวมถึงเรื่องในประกอบวิชาชีพครู ขอให้ท่านสบายใจได้ ไม่มีมวยล้ม”

สิ้นเสียงประกาศกร้าวของ “ครูโอ๊ะ” กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ในประเด็น “ครูจุ๋ม” รวมถึงเพื่อนครูที่ทำร้ายเด็กนักเรียน บรรดาผู้ปกครองที่รอฟังคำตอบจากทางโรงเรียนต่างปรบมือ ตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ

ขั้นตอนหลังจากนี้ ต้องไปรอฟังคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จะมีมาตรการในการล้อมคอกปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรต่อไป

ทว่า นอกเหนือการสะสางปัญหาครูทำร้ายเด็กที่เกิดขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่านาทีนี้ “สปอร์ตไลท์” กำลังส่องไปที่บทบาทรวมถึงโปรไฟล์ของ “ครูโอ๊ะ” ว่าเป็นใครมีที่มาที่ไปอย่างไร

“ทีมข่าวการเมืองกรุงเทพธุรกิจ” จะพาไปล้วงลึกโปรไฟล์ ที่มาที่ไป รวมถึงขุมทรัพย์ของ “ครูโอ๊ะ” ไล่เรียงตั้งแต่ประวัติส่วนตัว โดยปัจจุบันเธออายุ 54 ปี และยังเป็นบุตรสาวของ “สุนทร วิลาวัลย์” อดีตส.ส.หลายสมัย และอดีต รมช.สาธารณสุข ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

 "กนกวรรณ" เข้าสู่สนามการเมืองครั้งแรกในปี 2543 โดยได้ลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี เขตอำเภอกบินทร์บุรี ต่อมาในปี 2547 ก็มีตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปราจีนบุรี

  กระทั่งปีต่อมา 2547 ได้เป็น ส.ส.ครั้งแรกในพื้นที่เขต 1 จ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคไทยรักไทยและเป็น ส.ส.สมัยถัดมาในปี 2549 แต่การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ

ด้วยความที่เป็นทายาทของ “สุนทร วิลาวัลย์” นักการเมืองผู้กว้างขวางในพื้นที่ และยังถูกจัดลำดับอยู่ในลิสต์ผู้มีอิทธิพล รวมทั้งเป็นนายทุนคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย จึงไม่แปลกที่ตั้งแต่เริ่มจัดโผ “ครม.ประยุทธ์ 2/1” ชื่อของ “ครูโอ๊ะ” จะถูกเสนอเข้าไปอยู่ในโผแบบเงียบๆ เป็นรายชื่อแรกๆ

แม้จะมีการทักท้วงในเรื่องของคุณสมบัติ รวมถึงคดีความต่างๆ ทั้งในส่วนของ “สุนทร” ผู้เป็นบิดา ซึ่งถูกตรวจสอบปมรุกเขตอุทยานฯเขาใหญ่ รวมทั้งคดีความในส่วนของ “บังอร วิลาวัลย์” อดีตนายกอบจ.ปราจีนบุรี ผู้เป็นอา ที่ถูกป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีทุจริตโครงการก่อสร้างของ อบจ.ปราจีนบุรี 15 โครงการ เมื่อปี 2555 วงเงิน 52,522,000 บาท ว่าอาจมีส่วนได้เสียในคดี

แต่ด้วยยี่ห้อ “บ้านใหญ่วิลาวัลย์” รวมถึงเป็นนายทุนพรรค ซึ่งมี 3 เก้าอี้ ส.ส.ในการต่อรองแล้ว ว่ากันว่า ครอบครัววิลาวัลย์ ถึงขั้นกับประกาศกร้าวให้คนปราจีนฯ ได้รับรู้กันว่า "เก้าอี้รัฐมนตรี" ในสัดส่วนภูมิใจไทยได้ถูกล็อคเอาไว้ให้รัฐมนตรีที่ชื่อ “กนกวรรณ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนขุมทรัพย์ของ “ครูโอ๊ะ” ซึ่งถูกเปิดเผยล่าสุด ผ่าน รายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พบว่ารัฐมนตรีกนกวรรณ และคู่สมรส "ปกรณ์ ศรีจันทร์งาม" มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,400,015,154 บาท หนี้สิน 63,624,361 บาท มีทรัพย์สินมากว่าหนี้สิน 1,336,390,792 บาท

โดยจำนวนนี้มีทรัพย์สินที่เป็นของ “ครูโอ๊ะ” มากถึง 1,249,382,850 บาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดินใน จ.ปราจีนบุรี รวม 295 รายการ นอกจากนี้ ยังมีที่ดินในพื้นที่ กทม.และปริมลฑล โดยเฉพาะที่ดินในซอยประชามิตร ถนนประดิพัทธ์ กทม. มูลค่ารวม 64 ล้านบาท ขณะที่คู่สมรส มีทรัพย์สิน 87,444,935 บาท 

สำหรับหลังบ้านรัฐมนตรีกนกวรรณ  ชื่อ “ปกรณ์” เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงราชการ และยังเป็นอดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (รองเลขาฯ สมช.) โดยได้รับการแต่งตั้งตามคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคำสั่ง คสช. ที่ 21/2558 ขึ้นขึ้นมาแทน พล.ท.พงศกร รอดชมภู ที่พ้นจากตําแหน่งรองเลขาฯ สมช.จากคำสั่งเดียวกัน ไปที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจํา

กระนั้น ขึ้นชื่อว่า “ครูโอ๊ะ” ทายาทการเมืองยี่ห้อ “วิลาวัลย์” แล้ว แม้ก่อนหน้าหน้านี้ในครม.ประยุทธ์ 2/1 จะไม่ค่อยเห็นภาพเธอปรากฏตามหน้าสื่อ จนถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “6 รัฐมนตรีที่โลกลืม”

แต่ด้วยคอนเนคชั่นการเมืองนับตั้งแต่รุ่นบิดา เครือข่าย ยันเครือญาติ ที่กุมอำนาจการเมืองท้องถิ่นอีกชั้น จึงไม่แปลกที่ ครม.ประยุทธ์ 2/2 ชื่อของ รมช.ศึกษาธิการ “กนกวรรณ” จึงไม่มีโผใดๆ เข้ามาเสียบแทน 

และจากบทบาท “ปะ-ฉะ-ดะ” เคลียร์จบ ไม่ต้องพูดเยอะ ในกรณีครูจุ๋มนี้เอง ที่ทำให้ชื่อของ “ครูโอ๊ะ” กนกววรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง!