"อัครเดช" ย้ำ อนุกมธ.ศึกษากฎหมาย-ประชามติ ไม่มีธงประวิงเวลา

หลัง ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน มองประเด็นตั้ง อนุกมธ.ศึกษาข้อกฎหมาย-ประชามติ แก้รธน.ก่อนรับหลักการ คือ ประวิงเวลา ล่าสุดมีคำชี้แจงจากโฆษกกมธ.พิจารณาแก้รธน.ก่อนรับหลักการ
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกกมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ระบุว่า กมธ.มีมติให้ทำประชามติก่อนรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติเพื่อประวิงเวลาว่า ยืนยันว่า กมธ.ยังไม่ได้มีมติให้ทำประชามติก่อนรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติ แต่อย่างใด การประชุมนัดแรกมีเพียงมติให้ตั้งอนุกมธ.ขึ้นมาเพื่อเสนอความเห็นในประเด็นข้อกฏหมายเท่านั้น เพื่อความชัดเจนของข้อกฏหมาย โดยมีการเชิญนักกฏหมายที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยกันให้ความเห็นในประเด็นที่สมาชิกรัฐสภาร่วมกันตั้งข้อสังเกตว่า จะต้องทำประชาตมติหรือไม่ แล้วถ้าทำต้องทำแล้วจะทำเมื่อไหร่ ก่อนหรือหลังการพิจารณาของรัฐสภา แล้วถ้าต้องทำ ต้องทำกี่ครั้งกันแน่ เป็นต้น โดยยังไม่มีมติแต่ประการใดออกมาเลย ซึ่งขณะนี้ยังเหลือการประชุมอีก 9 นัด กมธ.จะต้องเร่งศึกษาให้เสร็จภายในวันที่ 22 ตุลาคม เพื่อให้ทันเปิดสมัยประชุมในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ดังนั้น ข้อเสนอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อรับหลักการก่อนวันที่ 14 ตุลาคม จึงไม่น่าเป็นไปได้ และไม่มีประโยชน์ในช่วงจองเงื่อนเวลาที่สั้นเพียงแค่ 1 เดือน
“ตามเงื่อนเวลาปิดสมัยประชุม แค่ 1 เดือน กว่าจะล่าชื่อเสนอประธาน เพื่อส่งให้ครม. มีกระบวนการที่ต้องใช้เวลา กว่าจะเสร็จก็อาจจะใกล้เปิดสมัยประชุมพอดี ยืนยันได้ว่า ไม่ใช้การประวิงเวลา ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องประวิงเวลา เพราะแค่ เวลา 30 วันมันสั้นนิดเดียว การใช้ข้อบังคับการประชุม ข้อ 121 วรรสามก็เพื่อให้เกิดความรอบครอบรัดกุม ตามข้อทักท้วงจากหลายฝ่าย ซึ่งขณะนี้ทางส.ว.ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมแล้ว หลังจากที่ผ่านมาสภาฯไม่ได้เปิดโอกาสให้ส.ว.เข้าร่วมศึกษาในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่มีนายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ดังนั้น ขณะนี้ถือว่า เป็นสัญญาณที่ดี มี 15 ส.ว. เข้ามาเป็นตัวแทนร่วมหารือ เพื่อนำไปผลักดันกับเพื่อน ส.ว.อีก 250 คนก่อนที่จะมารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงเปิดสมัยประชุมที่จะถึงนี้” นายอัครเดช กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะอนุกมธ.พิจารณาเสนอความเห็นในประเด็นข้อกฏหมาย จำนวน 15 คน ตามที่คณะกมธ. พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ได้มีมติแต่งตั้งนั้น มีนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานอนุกมธ. และมีอนุกมธ.ฯ ได้แก่ 1.นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา 2.นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย 3.นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ สมาชิกส.ว. อดีตเลขานุการกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ 4.นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกส.ว. อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง
5.นายคมสัน โพธิ์คง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต 6.นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 7.นายบรรเจิด สิงคะเนติ คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ 8.นายบุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง 9.นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชานาญการ สถาบันพระปกเกล้า 10.นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 11.นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ 12.นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อดีตกรรมการร่างรัฐธธรรมนูญ (กรธ.) เป็นต้น โดยมีการเรียกประชุมนัดแรก ในวันอังคารที่ 6 ตุลาคมนี้ เวลา 09.30 น. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย ทั้งนี้ในส่วนของอนุกมธ.ฯ นั้นไม่ปรากฎตัวแทนหรือส.ส.ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน.