กมธ.ศาล ซัด สปส.แจงเงินลงทุนศรีพันวาไม่ชัดเจน
กมธ.ศาล ซัด สปส.แจงเงินลงทุนศรีพันวาไม่ชัดเจน หวั่นทำเงินประชาชนเสียหาย เหตุจนท.ไม่มีความรู้เรื่องลงทุน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฏร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาถึงกรณีที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) นำเงินของกองทุนไปลงทุนใทรัสต์เพื่อการลงทุนในธุรกิจต่างๆที่มีความเสี่ยงสูง และมีความเสี่ยงปกติ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยที่ประชุมได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงแรงงาน รองอธิบดีกรมที่ดิน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาชี้แจง ซึ่งได้สอบถามเบื้องต้นในเรื่องของราคาที่ดินว่าหากเป็นราคาไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะมีราคาถูกหรือไม่ ซึ่งรองอธิบดีกรมที่ดินได้ชี้แจงโดยตอบข้อสงสัยในหลายประเด็นไม่ได้ โดยเฉพาะกรณีที่ดินมีการแบ่งขายแบบแปลงว่าเข้าข่ายกระบวนการจัดสรรที่ดินหรือไม่ และการขายใช้กรรมวิธีอย่างไร และ2.เรื่องที่ลาดชัน และการแบ่งแปลงโฉนด นส.3ก. และ สค.1 ว่ายังแบ่งออกเป็นหลายแปลง แต่จากการสอบถามเป็นเจ้าของคนเดียวกัน มีเจตนาหลีกเลี่ยงกระบวนการทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ซึ่งกรรมาธิการจะเรียกเอกสารเพิ่มเติมมาเปรียบเทียบ ซึ่งทางกรมที่ดินจะขอส่งเป็นเอกสาร เนื่องจากหลายประเด็นเป็นข้อมูลใหม่
นายจิรายุ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการได้ตรวจสอบว่าการี่จะไปซื้อหุ้นหรือลงทุนในกิจการใดๆ มีการตั้งราคาสูงเกินจริงหรือไม่ จากการตรวจสอบวันนี้พบว่าโรงแรมศรีพันวามีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท แต่ตั้งราคาไว้เกือบ4 พันล้านบาท เมื่อเป็นเช่นนี้เงินกองทุนประกันสังคมจะมีประมาณ 3 พันล้านบาท อีก1 พันล้านบาทใช้วิธีกู้เงิน จึงเป็นที่มาของราคาที่ไปลงทุน โดยกรรมาธิการจะตรวจสอบต่อไป ซึ่งผู้แทนจากกลต.ให้ความเห็นว่าเรื่องนี้จะต้องลงไปตรวจสอบเนื่องจากมีกฎระเบียบอย่างถูกต้องอยู่ ส่วนวิธีในการพิจารณาจะมีผลออกมาอย่างไรคงต้องรอเอกสาร
นอกจากนี้ จากการสอบถามพบว่ากองทุนประกันสังคมมีเงินลงทุนประมาณ 2.1ล้านล้านบาท โดย40 เปอร์เซนต์ เอาไปลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง คิดเป็นวงเงินประมาณเกือบ 4 แสนล้านบาท ซึ่งกรรมาธิการฯได้ซักถามหลายหน่วยลงทุน เช่นกรณีของกองทุนศรีพันวาที่ระบุว่าซื้อกันในราคา10บาทกว่า แต่วันนี้เหลือในราคา7 บาทกว่าขาดทุนทางบัญชีอย่างไร อีกทั้งกรรมาธิการฯยังสอบถามถึงหน่วยลงทุนที่กองทุนประกันสังคมไปลงทุน เช่นอสังหาริมทรัพย์ ตอนซื้อใหม่ๆราคาเกือบ10บาท ตอนนี้เหลือประมาณ 80สตางค์ เพื่อเป็นอย่างนี้เงินที่ประชาชนถูกหักเข้าประกันสังคมแล้วนำเงินไปบริหารจัดการคุ้มค่า ได้ผลตอบแทนที่เป็นประโยชน์หรือไม่
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า กรรมาธิการฯยังสอบถามถึงผลตอบแทนตลอด5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการชี้แจงว่า ที่ผ่านมามีทั้งขาดทุนและกำไร แต่ประมาณการหลังจากปี63 ต่อเนื่องถึง64 หลังโควิด-19ระบาด คาดว่าจะติดลบ3.5 เปอร์เซนต์ ซึ่งกรรมาธิการฯตั้งข้อสังเกตว่ากองทุนประกันสังคม โดยเจ้าหน้าที่ไม่มีความรัดกุม อาจจะไม่มีความรอบคอบ ประสบการณ์ในการเข้าไปตรวจสอบหรือมอบเงินให้คนอื่นไปลงทุนในกิจการต่างๆยังไม่มีความสามารถเท่าที่ประชาชนจะไว้ใจได้หรือไม่ แต่ทางสำนักงานประกันสังคมชี้แจงว่ามีการอบรมและคัดเลือกบุคคลากรเข้าไปทำงานในกองทุนประมาณ 60 คน ซึ่งดูแลเงินประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท
“โดยสรุปแล้วเราพบข้อสงสัยใน3 ประเด็นคือ 1.เรื่องของที่ดินถ้ามาชอบด้วยกฎหมายหุ้นก็อีกราคาหนึ่ง แต่ถ้ามาโดยไม่ชอบกฎหมายก็อีกราคาหนึ่ง 2. การไปลงทุนเรามั่นใจได้อย่างไรว่ากองทุนประกันสังคมมีความรอบรู้ และจะนำเงินของประชาชนที่ถูกหักไปนั้นไปแก้ไขได้ 3. อนาคตของเงินกองทุนประกันสังคมจะดำเนินการอย่างไร โดยกรรมาธิการฯจะทำความเห็นดังกล่าว ว่าถ้าคดีมีมูลก็จะส่งไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อหาคำตอบว่าใครบกพร่อง ผิดพลาด และใครเป็นคนตั้งราคาที่สูงเกินจริงหรือไม่ “นายจิรายุกล่าว