'อัศวิน' สั่งเตรียมรับมือ 'น้ำท่วม-ฝุ่น-ไวรัส RSV'
"อัศวิน" ลงพื้นที่กรุงเทพฯ ตะวันออก สั่งหน่วยงานรับมือ "น้ำท่วม-ไวรัสอาร์เอสวี" เตรียมนัดถกแก้ฝุ่นพิษ 17 พ.ย.นี้
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจความก้าวหน้างานขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ สำหรับการเกษตรและป้องกันน้ำท่วม ตรวจการเตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอาร์เอสวี(RSV) และสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในโรงเรียน และตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพตะวันออก โดยคณะผู้บริหาร กทม.ได้ลงเรือบริเวณท่าน้ำวัดเสนานนท์ เขตคลองสามวา เพื่อตรวจความก้าวหน้าการขุดลอกคลองลำบ่อยาวและเยี่ยมประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวริมคลอง ระยะทางประมาณ 2 กม.
ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำได้ดำเนินโครงการขุดลอกคลองลำบ่อยาว จากคลองซอยที่ 9 ถึงคลองลำหินฝั่งเหนือ ความกว้าง 8-19 ม. ความยาวประมาณ 1,850 ม. ความลึกจากระดับท้องคลองเดิมถึงระดับขุดลอกเฉลี่ย 0.70 ม. และโครงการขุดลอกคลองสนามกลางลำจากคลองซอยที่ 11 ถึงคลองลำหินฝั่งเหนือ ความกว้างประมาณ 7-26 ม. ความยาวประมาณ 2,300 ม. ลึกจากระดับท้องคลองเดิมถึงระดับขุดลอกเฉลี่ย 0.55 ม. ทั้ง 2 งานกำหนดแล้วเสร็จในเดือนพ.ย.นี้
จากนั้นคณะผู้บริหารขึ้นฝั่งที่ท่าวัดสามง่าม เขตหนองจอก เพื่อรับฟังข้อมูลสรุปการเตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส RSV จากผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสามง่าม และลงเรือตรวจความก้าวหน้าการขุดลอกคลองสนามกลางลำ ระยะทางประมาณ2.30 กม. ขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำโรงเรียนสุเหร่าสนามกลางลำ เขตหนองจอก เพื่อรับฟังข้อมูลสรุปการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในโรงเรียน จากผู้อำนวยการโรงเรียนสุเหร่าสนามกลางลำ
ส่วนความเดือดร้อนของชาวนาในพื้นที่เขตหนองจอก และได้สั่งการให้ขุดลอกคู คลอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เนื่องจากคลองมีสภาพตื้นเขินและระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำไม่เพียงพอต่อการทำเกษตรกรรม กทม.จึงได้ดำเนินการตรวจสอบคลองที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบในพื้นที่เขตหนองจอก จำนวน 95 คลอง รวมความยาวประมาณ 242,410 ม. แบ่งเป็น คลองสายหลัก 10 คลอง ความยาวประมาณ 58,350 ม. คลองสาขา 85 คลอง ความยาวประมาณ184,060 ม.
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการขุดลอกคลองในพื้นที่กรุงเทพตะวันออก แบ่งเป็นคลองสายหลัก 10 คลอง และคลองสาขา 85 คลอง รวม 95 คลอง ขณะนี้ได้เร่งดำเนินการคาดว่าจะเรียบร้อยทั้งหมดภายในวันที่ 27 พ.ย.2563 ซึ่งคลองทั้งหมดไม่เคยได้รับการขุดลอกมาก่อน สภาพปัจจุบันจึงตื้นเขิน เรือต่างๆ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก ประกอบกับอาชีพหลักของประชาชนบริเวณนี้คือการทำการเกษตรกว่าร้อยละ 70 จำเป็นต้องอาศัยน้ำในคลองในการทำการเกษตรเป็นหลัก กทม.ได้ร่วมกับนายกสมาคมชาวนาไทย ดูแลประชาชนให้ได้รับน้ำอย่างพอเพียง
"สำหรับข้อร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับสะพานและทางเดินบริเวณคลอง และถนนในซอยชำรุดพุพังนั้น จะเร่งปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จก่อนเปิดเทอม ภาคเรียนที่ 2 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรผ่านได้อย่างสะดวกและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาได้กำชับและสั่งการให้ กทม.ดูแลประชาชนในฝั่งตะวันออกให้ทั่วถึง พร้อมกันนี้รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณให้ ซึ่ง กทม.จะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว"พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวด้วยว่า ส่วนการดูแลป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 คาดว่าในปีนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนธ.ค.เป็นต้นไป โดยจะประชุมเพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 17 พ.ย. เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองPM2.5 ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และนำมากำหนดเป็นแนวทางการป้องกันปัญหานอกจากนี้ กทม.ได้เริ่มรับบริจาคแผ่นกรองอากาศ และพัดลมจากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อนำประยุกต์เป็นเครื่องกรองฝุ่นใช้ในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน กทม. 292 แห่ง รวมกว่า 2,500 ชั้นเรียน และดำเนินมาตรการควบคุมสถานที่ก่อสร้าง การกวดขันรถยนต์และรถบรรทุกต่างๆ
"สำหรับการป้องกันโรค RSV นั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ลักษณะเดียวกับการป้องกันโรคโควิด-19 โดยให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานในความดูแลให้สวมใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งเว้นระยะห่างระหว่างกัน และหากป่วยให้รีบไปพบแพทย์เพื่อป้องกันความรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้นได้"ผู้ว่าฯกทม.กล่าว