เปิดเงื่อนไขสำคัญ ‘คนละครึ่งเฟส 2’ ใครได้บ้าง เช็คเลย!

เปิดเงื่อนไขสำคัญ “คนละครึ่ง เฟส 2” คาดว่าจะเริ่มในเดือนมกราคม 2564 มีเงื่อนไขอะไร ใครได้บ้าง เช็คเลย!

ผลตอบรับอย่างดี สำหรับโครงการ www.คนละครึ่ง.com โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปผ่านฝ่ายของผู้ซื้อ 50% โดยไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ

ซึ่งโครงการนี้เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา กระทั่งการเปิดลงทะเบียนคนละครึ่ง รอบ 2 ก็เต็มจำนวน 2.4 ล้านสิทธิ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้กระทรวงการคลังมีแนวคิดว่าจะมีการเปิด คนละครึ่ง เฟส 2 ในเดือนมกราคม 2564 ลุ้นความชัดเจนเรื่องสิทธิ์ประโยชน์อีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ทั้งนี้เกิดการถกเถียงในโลกออนไลน์สำหรับคนที่ได้รับสิทธิในเฟสแรกไปแล้วนั้น จะสามารถลงทะเบียนรับสิทธิเฟส 2 ได้หรือไม่? เรื่องนี้ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้ามาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 สำหรับผู้ที่ลงทะเบียน และได้รับสิทธิโครงการ คนละครึ่ง ในเฟสแรกแล้วนั้น สามารถขอใช้สิทธิเฟส 2 ต่อได้เลย แต่มีเงื่อนไขคือ คนที่ได้รับสิทธิเฟสแรก ต้องใช้จ่ายเงินที่ได้รับ 3,000 บาท ให้ครบภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จากนั้นทางระบบจะมีปุ่มหรือข้อความให้ผู้ลงทะเบียนเฟสแรกยืนยันว่าจะเข้าร่วมมาตรการต่อหรือไม่ ถ้ากดยืนยันก็จะสามารถเข้าร่วมส่วนของ www.คนละครึ่ง.com เฟส 2 ได้ทันที

พยากรณ์อากาศวันนี้

ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนคนละครึ่งใหม่ และได้รับสิทธิ www.คนละครึ่ง.com รอบ 2 จะได้เฉพาะส่วนของโครงการในเฟส 2 เท่านั้น ไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง 3,000 บาท ในเฟสแรก ซึ่งคาดว่าทั้งหมดจะมีความชัดเจนในเดือนธันวาคมนี้ ทั้งเรื่องวงเงิน และจำนวนสิทธิที่จะขยายเพิ่ม โดยจะต้องไปดูวงเงินงบประมาณที่ใช้ เบื้องต้นกระทรวงการคลังยืนยันว่ามีเม็ดเงินเพียงพอ

ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุอีกว่า งบประมาณที่ใช้ในโครงการเฟส 2 จะเป็นเงินในส่วนของพระราชกำหนดเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูผลกระทบจากโรค โควิด-19 จำนวน 400,000 ล้านบาท ตอนนี้เหลือวงเงินที่นำมาใช้จ่ายประมาณ 200,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังต้องทำรายละเอียดเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เพื่อพิจารณารายละเอียดให้เรียบร้อยเสียก่อน