มติ'เพื่อไทย' เอกฉันท์โหวตหนุนร่างรธน.ไอลอว์
พท.เอกฉันท์เตรียมยกมือผ่านร่างแก้ไขรธน.ฉบับปชช. "สุทิน" บอกส.ส.คลายกังวลเหตุไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 18 พ.ย. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เรียกส.ส.ของพรรคทั้งหมดเข้าร่วมประชุม เพื่อขอมติก่อนโหวตร่างรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนที่เสนอโดยไอลอว์ เนื่องจากจากการประชุมพรรคเพื่อไทยครั้งที่ผ่านมา สมาชิกพรรคได้มีมติขอให้มาฟังคำชี้แจงจากไอลอว์ก่อนที่จะโหวต โดยนายสมพงษ์ ในฐานะประธานการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย วันนี้ได้สอบถามที่ประชุมว่าอยากขอความเห็นสมาชิกเกี่ยวกับกรณีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะร่างของประชาชนว่าส.ส.ของเราเห็นชอบหรือไม่อย่างไร โดยส.ส.ทั้งหมดของพรรคเพื่อไทยที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ได้ยกมือเห็นด้วยกับร่างของประชาชนอย่างเป็นเอกฉันท์
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า จากเมื่อก่อนที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีความกังวลว่าจะมีการตีความว่าจะเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ แต่วันนี้เราคลายกังวลแล้ว เพราะถ้ามีคนยื่นศาลรัฐธรรมนูญเราจะรอดได้ เนื่องจากมั่นใจว่าเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้วินิจฉัยแล้วว่าร่างฉบับประชาชนได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่มีข้อใดที่ไปขัดกับมาตรา 255 ซึ่งหมายความว่าไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง หรือเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศ ดังนั้น คำวินิจฉัยของประธานรัฐสภาจึงเป็นสิ่งที่สมาชิกยึดถือ และเชื่อมั่น เมื่อประธานวินิจฉัยแล้วบรรจุเข้ามาสู่การพิจารณา หากจะผิดประธานก็จะต้องผิดเป็นคนแรก เราจึงมั่นใจในส่วนนี้และจะยกมือผ่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นสอบถามกลางที่ประชุมว่าในร่างของประชาชนไม่มีเรื่องการแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 ใช่หรือไม่ ซึ่งนายสมพงษ์ ได้กล่าวยืนยันว่า "แน่นอนครับ และร่างของเราที่เสนอไปเป็นร่างแรกก็ไม่มีในส่วนนี้" จากนั้น นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยได้ถามย้ำอีกครั้งว่า จะไม่มีการแตะหมวด 1 และหมวด 2 และขอมติจากทางส.ส. ซึ่งส.ส.ของพรรคก็ยกมืออย่างพร้อมเพรียง
จากนั้น นายสมพงษ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของคณะราษฎรที่หน้ารัฐสภา เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ที่มีประชาชนบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า ส.ส.หลายคนได้พูดไปแล้ว สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องรับฟังบ้าง และต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และหาสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และทหาร ตำรวจ เหตุใดจึงไม่ห้ามการเผชิญหน้ากันของมวลชนทั้งสองกลุ่ม รวมถึงรัฐบาลได้ใช้ความรุนแรง ทั้งฉีดน้ำ ใช้แก๊สน้ำตา ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมา รวมถึงสื่อมวลชนได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ และเร่งแก้ไข พร้อมกันนี้อยากถามว่าจะรับผิดชอบอย่างไรกับผู้ที่บาดเจ็บในโรงพยาบาลหลายคน ซึ่งขอฝากถึงนายกรัฐมนตรีว่าจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร
เมื่อถามว่า การชุมนุมจะมีอย่างต่อเนื่องรัฐบาลควรมีมาตรการรองรับอย่างไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้รัฐบาลต้องมีมาตรการไม่ใช่พูดแล้วปล่อยให้ผ่านไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะเกิดปัญหาลักษณะนี้ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนลงเรือเพื่อเดินทางกลับก่อนนั้น ในเรื่องนี้ตนขอชี้แจงว่า ที่ตนต้องรีบลงเรือเพราะต้องไปพบแพทย์ซึ่งใช้เวลา 2 ชม.ก็เสร็จ แล้วจึงเดินทางกลับมายังรัฐสภาอีกครั้ง