นายกฯยอมรับตัวเองมีโอกาสติด'โควิด' เผยเพิ่งตรวจหาเชื้อไปเมื่อเช้า
"นายกฯ" ฉุน เฟคนิวส์ หาว่า "รัฐบาล" ปล่อยเชื้อ "โควิด" ใช้ไม่ได้ ย้ำ ดูแลทุกคน ไม่ใช่โทษกันไปมา สั่ง "สตช. "สอบผู้เกี่ยวข้อง "บ่อนระยอง" ลั่น ฟันไม่เลี้ยง เผย "ผู้ว่าฯสมุทรสาคร" ติดเชื้อ เหตุ ดูแลปชช. รับ "นายกฯ" มีโอกาสติด เพิ่งตรวจเลือดเมื่อเช้า
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 3/2563 ถึงการแก้ปัญหาโควิดว่า สถิติการติดเชื้อยังมีอยู่ทุกวัน บางวันก็เพิ่มขึ้น บางวันก็ลดลง ก็อยู่ที่ความสามารถติดตามผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบได้ บางคนมีการตรวตรวจสอบเพื่อความแน่ใจว่าติดเชื้อจริงหรือไม่
นายกฯ กล่าวว่า ถึงแม้สถานการณ์ จะมีการแพร่ระบาดในช่วงนี้ก็ตามแต่เราก็รู้ที่มา หลายคนออกมาพูดว่ารัฐบาลปล่อยเชื้อโควิดออกมาในช่วงนี้ เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ตนว่า คนที่คิดอย่างนี้ใช้ไม่ได้ อย่าไปให้ค่าข่าวพวกนี้ รัฐบาลมีแต่ว่าทำอย่างไรให้คนในชาติปลอดภัย ไม่ว่าจะใครก็ตาม จะหวังดีหวังร้ายกับรัฐบาล รัฐบาลมีหน้าที่ดูแล สิ่งที่ต้องย้ำเตือนเสมอคือการใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การเข้าไปในพื้นที่ชุมชนแออัดหรือสถานที่ที่มีการพูดคุยกันที่สามารถแพร่เชื้อโดยน้ำลายหรือลมหายใจสู่คนอื่นได้ ก็ต้องเตือนทุกคนนอกจากระวังตัวเองแล้วยังต้องระวังคนในครอบครัวและคนอื่นในสังคมด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ช่วงนี้อาจจะลำบากนิดหนึ่งในการใช้ชีวิตช่วงปีใหม่ที่เราทุกคนน่าจะมีความสุข แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่ใช่เวลาที่จะโทษกันไปโทษกันมา แต่เป็นเวลาที่เราจะร่วมมือกันมากขึ้นไม่ใช่หรือให้ความเป็นธรรมกับทุกส่วนด้วยเรามีปัญหามากมาย เรามีคดีที่เกิดขึ้นมากมาย มีเรื่องราวไม่ดีมากมาย แต่ถ้าเราไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ทำงาน มันจะยิ่งต้องมากกว่านี้อีกประชาชนต้องดู ไม่ใช่ว่ามีเรื่องใดขึ้นมาก็สรุปว่าหน่วยงานนั้นใช้ไม่ได้ ยกตัวอย่างคดีความมัเท่าไหร่ในแต่ละวัน ถ้าไม่มีตำรวจจะปลอดภัยเท่านี้หรือไม่ ความเสียหายมากกว่านี้หรือไม่
"แน่นอนคนจำนวนมากมันต้องมีทั้งคนดีคนไม่ดีวันนี้ผมได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องสอบสวนดำเนินการให้ได้ข้อเท็จจริงออกมา แล้วลงโทษ ผู้เกี่ยวข้องทุกราย ผมไม่เคยให้ใครไปเอื้อประโยชน์ ผมคิดว่าหลายคนในรัฐบาลก็ไม่มีใครกล้าที่จะไปทำแบบนั้นหรอก เว้นแต่มันหลบหนีหลีกเลี่ยง แล้วมีขบวนการทุจริตร่วมกันทั้งผู้ให้และผู้รับ เดี๋ยวจะหาว่าผมโทษประชาชนอีก เพราะผมไม่ได้ลงไปเดินทำหน้าที่ตำรวจเองในพื้นที่ แต่ผมก็ได้มอบหมายและสั่งการไปแล้ว วันนี้ก็มีการลงโทษในชั้นแรกคือกรณีปล่อยประละเลยและจะตรวจสอบต่อว่า คนที่ติดเชื้อมาไปเล่นที่ไหนมาบ้าง บ่อนที่ไหนใครเป็นเจ้าของ ต้องสอบให้หมดเหมือนผู้ลักลอบที่เป็นแรงงานต่างด้าว นี่คือปัญหาที่อยู่กับประเทศไทยมานาน ถ้าเราไม่ช่วยกันเอาแต่ตำหนิติติงพูดจาลักษณะให้ร้ายคนที่ทำดีๆ มันไม่เกิดประโยชน์ ถ้ารู้เบาะแสเรื่องที่ไม่ดีส่งมาที่ผมได้โดยตรง ส่งมายังไวก็ได้ถึงผมอยู่แล้ว และจะตรวจสอบให้ ว่าใช่หรือไม่ ถ้าไปพูดในสื่อ ยังไม่มีข้อมูล ไปพาดหัวข่าวก็ทำให้เกิดความตื่นตระหนก ไม่ควรปฏิบัติ ท่านต้องพูดว่า ถึงแม้จะมีมากน้อยเท่าไหร่ก็ตาม เราก็ยังคงต้องตรวจสอบคัดกรองต่อไป เมื่อตรวจสอบพบแล้ว รัฐบาลทำอะไรไปท่านไม่พูดตรงนี้ ท่านพูดแต่ตรงโน้น แล้วก็ตีซ้ำๆ อยู่นั่นแหละ ผมไม่เห็นประโยชน์อะไรจะเกิดขึ้น ไม่ต้องจี้ผม ทางนี้" นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครติดเชื้อโควิดนั้น เพราะลงพื้นที่ไปดูแลประชาชนในพื้นที่ที่มีการระบาด โรงพยาบาลสนามก็ไป จะเป็นหรือไม่เป็นก็รักษาพยาบาล ยาฟาวิพิลาเวียร์ก็เพียงพอ รักษาก็หาย เขาไม่ได้ไปเที่ยวเตร่มา
"ผมเองก็มีโอกาสติด ผมไปที่โน้นที่นี่ เหมือนเขาไป ผมก็ตรวจ เมื่อเช้านี้ผมก็ตรวจ ตรวจเลือดแต่ไม่ใช่ตรวจแล้วทุกคนตื่นตระหนกไปหมด แล้วพาดหัวข่าวในทำเนียบฯ ตรวจเลือดผลเป็นลบ 6 คน ถึงเวลาเขาไปตรวจ Swab มาแล้วไม่เป็น ไม่เห็นออกข่าวให้เลย อย่างนี่ออกไปทำไมผมอยากจะรู้ เป็นการดูแลให้ปลอดภัยในทำเนียบฯ ไม่ดีหรือ" นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของวัคซีนโควิดต้องได้รับการรับรองจากสำนักงาสคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน ไม่เช่นนั้นนำเข้าประเทศไม่ได้ จำเป็นต้องตรวจสอบคุณภาพประสิทธิภาพ ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพราะมีคนหลายประเภทที่ต้องได้รับการฉีด ทั้ง เด็ก คนแก่คนมีโรคประจำตัว ที่อาจมีปัจจัยเสี่ยงตามมา ต้องฟังคำแนะนำของหมอและหน่วยงานสาธารณสุข วันนี้ไม่อยากให้ไปฉีดวัคซีนที่ไม่ว่าจะได้มาอย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งไปฉีดก่อน ถ้าอันตรายเกิดขึ้นใครต้องรับผิดชอบ ก็รัฐบาลอีก กลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ควบคุม ตนก็ต้องแนะนำอย่างนี้ เพราะหลายอย่างยังไม่ชัดเจน แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าในสื่อต่างประเทศ ก็ให้ติดตามผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการฉีดด้วย นี่คือสิ่งที่เป็นห่วง ส่วนวัคซีนที่รัฐบาลจองไป 20 ล้านโดส มีสัญญาที่เราสามารถวิจัยและผลิตเองต่อได้ ซึ่งจะครบทั้งประเทศ
ส่วนกรณีที่มีแพทย์บางกลุ่มขอรับบริจาคเพื่อพัฒนาวัคซีนในประเทศ รัฐบาลไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เพราะรัฐบาลก็มีงบประมาณอยู่แล้ว มอบให้สถาบันวัคซีนก้อนแรกไปแล้ว 400 ล้านบาท ส่วนที่ยังไม่ได้เพราะยังทำไม่ครบตามหลักเกณฑ์ที่สถาบันวัคซีนกำหนด