เช็คลิสต์ 'ยาเสพติด' เทรนด์วัยรุ่นไทย

จากประเด็นของ “เคนมผง” ที่คร่าชีวิตคนไปแล้วหลายราย และยังเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ที่กลุ่มนักเสพให้ความสนใจในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ เรามารู้จักกับ “Top list” ประเภทยาเสพติดที่วัยรุ่นไทยนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

ประเภทของยาเสพติดที่ฮิตติดเทรนด์กลุ่มวัยรุ่นนักเสพ มีอยู่ด้วยกัน 6 ประเภท ชนิดแรกคือ ยาอี หรือ ยาเลิฟ จะเป็นที่นิยมมากในหมู่นักเที่ยว “สายตื้ด” ซึ่งจะมีพฤติกรรมชอบจัดปาร์ตี้ส่วนตัวที่คอนโด หรือสถานบันเทิงยามค่ำคืน และเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีฐานะ

สำหรับ ยาอี จะมีสอง 2 รูปแบบ ก็คือ แบบเม็ด หรือที่นิยมเรียกว่า “Kitty” วัยรุ่นไทยจะเรียกว่า “หนม” ขณะที่ แบบผง เรียกว่า“Molly” โดยแบบเม็ดจะนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นไทย เพราะพกพาได้สะดวก และตัวยาออกฤทธิ์ยาวนาน 3-6 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการปาร์ตี้ในยามค่ำคืน

ถัดมาคือ ยาเค หรือ เคตามีน ช่วงหลังได้รับความนิยมในกลุ่มนักเสพอย่างมาก และยังเป็นยายอดฮิตในการมอมหญิงสาว มีทั้งแบบผงและแบบน้ำ โดยยาออกฤทธิ์เร็ว แต่อยู่ได้ไม่นานไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็หมดฤทธิ์ แต่กว่าจะฟื้นอาการต้องรอนานถึง 24 ชั่วโมง และยังทำให้สูญเสียความทรงจำระยะสั้นไป จึงเป็นที่นิยมของคนร้ายที่ใช้มอมเมาหญิงสาว

ประเภทที่สาม คือ “แมว” หรือ อัลปราโซแลม (Alprazolam) บางคนก็เรียกว่า ยาเสียตัว ลักษณะเป็นเม็ดสีม่วง ซึ่งเป็นยานอนหลับออกฤทธิ์รุนแรงที่ใช้ในทางการแพทย์ เพื่อรักษาอาการวิตกกังวลและช่วยให้นอนหลับ หาซื้อได้ตามโลกออนไลน์ทั่วไป ซึ่งอาการหลังกินเข้าไปแล้วจะมีอาการไม่ต่างจากแมวน้อยที่ง่วงนอน หาซื้อได้ตามในโลกออนไลน์ทั่วไป แถมราคาถูกที่สุด

ต่อมาเป็น "ยาเสียสาว" หรือ Gamma-Hydroxybutyric (GHB) ยาชนิดนี้ออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้รู้สึกตื่นตัว รู้สึกสนุก รวมถึงการที่อยากมีเพศสัมพันธ์ มีการแพร่ระบาดตามสถานบันเทิงต่างๆ โดยมีทั้งชนิดเม็ด ชนิดผง หรือชนิดเหลว ซึ่งนิยมใช้แบบชนิดเหลวใส

ชนิดที่ 5 คือ กัญชา หรือที่วัยรุ่นเรียก “เนื้อ” หรือ “ปุ๊น” เป็นยาเสพติดสุดคลาสสิค ซึ่งเราก็ทราบกันดีว่า ยาเสพติดชนิดนี้ มีรูปร่างหน้าตา และออกฤทธิ์อย่างไรบ้าง

และยาเสพติดประเภทสุดท้าย คือ ไอซ์ หรือนิยมเรียกว่า “สเก็ต” เพราะมีรูปร่างเป็นก้อนผลึกใสเหมือนน้ำแข็ง ในบ้านเรามีการแพร่ระบาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยมีราคาสูง และนิยมกันเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีฐานะ ตอนนี้ราคากลับถูกลงอย่างน่าใจหาย

ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี ได้พูดคุยกับอดีตผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในจังหวัดภาคตะวันออกรายหนึ่ง ระบุว่า เมื่อก่อนไอซ์มีราคาอยู่ที่หลักพันบาทต่อ 1 จี แต่ปัจจุบัน ไอซ์กลับมีราคาถูกลงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของราคาเดิม จนทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มระดับตลาดกลางไปจนถึงตลาดล่าง นิยมซื้อหามาเสพกัน

ปัจจุบัน ไอซ์ขายอยู่ที่ 300 - 500 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รับมาขายต่อ หากยิ่งรับไอซ์มาปริมาณมากๆ ก็จะทำให้ราคาซื้อขายถูกลงอีก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไอซ์จะแพร่ระบาดไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่มีช่วงวัยที่น้อยลง ส่วนราคาของยาบ้าตอนนี้ ก็อยู่ที่ 30 - 40 บาท เรียกว่า ถูกว่าข้าวกล่องเสียอีก

อดีตเอเย่นต์รายนี้ ยังบอกอีกว่า ในพื้นที่บ้านเขาเต็มไปด้วยยาเสพติดที่ระบาดอย่างหนัก รวมถึงบ่อนการพนันก็ระบาดไม่แพ้กัน ซึ่งพื้นที่บริเวณที่เขาอาศัยอยู่นี้ เพิ่งจะตกเป็นข่าวดังจากกรณีบ่อนพนันต้นตอแพร่ระบาดโควิดอีกด้วย.