ย้อนรอย ‘บิ๊กกี่’ เพื่อนซี้ ‘บิ๊กป้อม’ คอนเนคชั่น‘ขุมการเมือง’ ใหม่
ในแวดวงทหารรู้ดีว่า เขาผู้นี้คือเพื่อนที่แนบแน่นกับ “บิ๊กบราเธอร์แห่งบูรพาพยัคฆ์” มากที่สุดคนหนึ่ง จึงไม่แปลกที่ ในขณะที่“บิ๊กป้อม” ยังเรืองอำนาจ จะอาศัยไหว้วานเพื่อนรักคนนี้คอยช่วยเหลืออยู่เป็นระยะ
“ไม่มีวันก้มหัวให้เผด็จการ และไม่มีวันที่จะยอมเป็นบันไดให้เผด็จการเหยียบยืนขึ้นไปเพื่อสืบอำนาจอย่างเด็ดขาด” คำยืนยันจาก “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ปฏิเสธกระแสข่าวการจับมือ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อตั้งพรรคการเมือง “เครือข่ายทหาร” ซึ่งปรากฎว่อนโลกโซเชียล ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ไม่ต่างไปจาก“บิ๊กป้อม” ที่ตอบคำถามเรื่องนี้ สคริปเดิมๆ “ไม่รู้-ไม่ทราบ”
นอกเหนือจาก “พล.อ.ประวิตร” และ “คุณหญิงหน่อย” แล้ว อีกหนึ่งตัวละครที่ถูกพูดถึง ว่าเป็นกำลังสำคัญในการก่อร่างสร้างพรรคทหารครั้งนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “บิ๊กกี่” พล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) “เพื่อนซี้”สุดเลิฟของ “พี่ใหญ่บ้านวงษ์สุวรรณ”
โดยชื่อของ “บิ๊กกี่”ผู้นี้ เป็นที่รู้จักในแวดวงทหาร ในฐานะเตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.6) เพื่อนร่วมรุ่นของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ อดีตผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) “ขุมกำลัง” สำคัญ ที่มักถูกเรียกใช้สอยในห้วงการเมืองในหลายยุคหลายสมัย
แม้จะไม่ได้เติบโตมาในสาย “บูรพาพยัคฆ์” ไม่เคยรับราชการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ แต่ในแวดวงทหารรู้ดีว่า เขาผู้นี้คือเพื่อนที่แนบแน่นกับ “บิ๊กบราเธอร์แห่งบูรพาพยัคฆ์” มากที่สุดคนหนึ่ง
และแม้ในยุคที่มีผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ชื่อ “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” บทบาทของ “บิ๊กกี่” จะสะดุดลง จากการถูกตั้งคณะกรรมการสอบในประเด็นยกคณะไปตีกอล์ฟ ที่ประเทศจีนในเวลาราชการ จนถูกเด้งเข้ากรุ ไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
ทว่า ชื่อของ “บิ๊กกี่” กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งในยุครัฐบาล “ไทยรักไทย” ซึ่งขณะนั้นมี “บิ๊กเหวียง” พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ขึ้นเป็นรมว.กลาโหม "บิ๊กป้อม" เป็นผบ.ทบ.ต่อจากชัยสิทธิ์ ชินวัตร
โดยบิ๊กกี่ซึ่งเป็นน้องรักของ “บิ๊กเหวียง”ถูกเรียกตัวกลับมาใช้งาน ในฐานะหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม กระทั่งเกษียณอายุราชการด้วยยศ "พลเอก" ในท้ายที่สุด
นอกเหนือจากแวดวงราชการแล้ว ในทางการเมืองต่างรู้กันดีว่า“บิ๊กกี่” ผู้นี้มีคอนเนคชั่นการเมืองที่ไม่ธรรมดา หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันอาจด้วยเพราะว่า “บิ๊กกี่” เป็นคน“ใจถึง พึ่งพาได้ ขอมาจัดให้”
จึงไม่แปลกที่ในยุคที่“ไทยรักไทย” รุ่งเรือง เขาผู้นี้ความสนิทสนมคุ้นเคยกับนักการเมืองค่ายชินวัตร รวมถึงสายเจ้าแม่ กทม.อย่าง “คุณหญิงหน่อย” ซึ่งมี “หมวยเหน่ง” อรทัย ฐานะจาโร สะใภ้แห่งตระกูลฐานะจาโร อยู่ในกลุ่มนี้
และเมื่อฟ้าเปลี่ยนสี การเมืองเปลี่ยนขั้ว “บิ๊กป้อม” เพื่อนรัก ได้ขยายคอนเนคชั่นไปที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ในขณะนั้น) ในฐานะ รมว.กลาโหม รวมถึง “เนวิน ชิดชอบ”จากพรรคภูมิใจไทย
"บิ๊กกี่" ก็ถือเป็นขุนพลข้างกายในการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่าง “บิ๊กป้อม” และเครือข่ายในฐานะเลขานุการ รมว.กลาโหม
เหตุการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงปี 53 แม้เขาจะถูกครหาว่าเป็น “ทหารแตงโม” เนื่องจากมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับนักการเมืองขั้วตรงข้ามรัฐบาลในขณะนั้น แต่ตัวบิ๊กกี่ก็แบ่งรับแบ่งสู้ในทำนองที่ว่า “สนิทกับคุณหญิงสุดารัตน์ก็จริงอยู่ แต่ก็สนิทกับนายสุเทพด้วยเช่นกัน”
กระทั่งเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 นำมาสู่การแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช. ) 250 คน ชื่อของ บิ๊กกี่ก็รวมอยู่ในจำนวนนี้ และมีบทบาทมาถึงปัจจุบันในฐานะสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
ด้านชีวิตส่วนตัวบิ๊กกี่สมรสกับ “ประวีณ์นุช เลิศจิตติสุทธิ์” น้องภรรยาของ “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” ส.ส.กทม.และอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และเป็นส.ส.ในสังกัดคุณหญิงหน่อย
ด้วยคอนเนคชั่นตามที่กล่าวมา และจริงอยู่ที่แม้ชื่อของบิ๊กกี่จะเป็นที่รู้จักในวงจำกัดเฉพาะ “แวดวงทหาร” และ “แวดวงการเมือง” แต่จากความไม่ธรรมดานี้เอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในห้วง“บิ๊กป้อม” ยังเรืองอำนาจ จะอาศัยไหว้วานเพื่อนรักคนนี้คอยช่วยเหลืออยู่เป็นระยะ
นาทีนี้แม้กระทั่งฝั่ง “คุณหญิงหน่อย” รวมถึง “บิ๊กป้อม” จะออกมาปฏิเสธถึงข่าวสะพัดเรื่องการตั้งพรรคร่วมกับทหาร ว่าไม่เป็นความจริง หรือเป็นเรื่องที่ฝันไป
แต่ในทางการเมืองแล้วอย่างที่รู้กันว่า “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร” เมื่อฟ้าเปลี่ยนสี การเมืองเปลี่ยนขั้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้...