ดับฝัน ฮันนีมูน 'สุชาติ' 3 ข้อหา 'จับกัง1' ป้ายแดง
“จับกัง 1” ป้ายแดง ที่เพิ่งรับตำแหน่งได้เพียง 6 เดือน ก็ติดโผเป็น 1 ใน 10 รัฐมนตรี ที่ถูก “ฝ่ายค้าน” ขึ้นบัญชีอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“เสี่ยเฮ้ง” หรือ “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน หนึ่งในแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกวางตัวให้นั่งเก้าอี้ตัวนี้มานาน ก่อนช่วงปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุด
พูดได้ว่า “สุชาติ” มี “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้การสนับสนุนจึงได้เติบโต และมีบทบาทเช่นทุกวันนี้
ทั้งที่ก่อนหน้านั้น “สุชาติ” ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองได้ด้วยบารมี “บ้านใหญ่แสนสุข”ภายใต้ร่มเงา “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม ที่อัพเกรดสุชาติด้วยการขยับจากบอดี้การ์ดขึ้นมาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น จนผงาดเป็น “ส.ส.พลังชล” และ “ ส.ส.พลังประชารัฐ” ในปัจจุบัน
การเมืองในชลบุรีวันนี้ มีบริบทที่ต่างจากวันเก่า เมื่อสุชาติเอาตัวออกห่างบ้านใหญ่แสนสุขเพื่อขยับขยายสร้างอาณาจักร หรือปลูก “บ้านใหญ่” หลังใหม่ในชลบุรี
สุชาติจึงต้องเผชิญครหาจากคนบ้านใหญ่หลังเก่ามากมาย แต่ถ้าไม่เลือกเดินออกมา ก็คงอยู่ใต้เงาทายาทบ้านใหญ่ฯ ไม่มีวันได้เป็นตัวเองอย่างทุกวันนี้
ทว่า การมีตำแหน่งแห่งหนย่อมหนีไม่พ้นการตรวจสอบ สุชาติที่รับตำแหน่ง รมว.แรงงาน ทั้งที่ยังไม่พ้นฮันนีมูนพีเรียด ก็โดนลากขึ้นเขียงประเดิมเก้าอี้รัฐมนตรีป้ายแดงเสียแล้ว
จากพฤติการณ์ตามที่ “ฝ่ายค้าน” ระบุคือ "การบริหารราชการผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรงไร้ประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลยให้มีการแสวงหาประโยชน์จากผู้ใช้แรงงาน ไม่กำกับควบคุมผู้ใช้แรงานต่างด้าวให้เป็นระบบ จนเกิดแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก สร้างผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด ด-19 จนส่งผลเสียหายแก่ประเทศและเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนอย่างร้ายแรง"
“ขาดคุณธรรมและจริยธรม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติการณ์ใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตน และพวกพ้อง สร้างความแตกแยกให้เกิดในสังคม ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังระหว่างผู้ที่เห็นต่าง ละเมิดหลักนิติรัฐ”
แน่นอนว่าเรื่องใหญ่คือการปล่อยให้เกิดปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ที่เป็นต้นตอการระบาดของโควิด ในประเทศรอบใหม่ ทั้งที่สถานการณ์จากการระบาดรอบแรก กำลังฟื้นตัวเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศกำลังจะกลับมาคึกคัก เพราะกำลังเข้าช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่เมื่อระบาดซ้ำรอบใหม่ เท่ากับปิดความหวังประชาชนที่จะลืมตาอ้าปากอีกครั้ง
การระบาดคลัสเตอร์ใหญ่ ในรอบใหม่คือ “แรงงานต่างด้าว” โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร ก่อนขยายวงสร้างความเสียหาย จนต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน และเงินกู้จำนวนมหาศาลมาฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบ
ปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จึงเป็นโจทย์สำคัญของ “จับกัง 1” ที่ต้องแจกแจงรายละเอียดเบื้องหน้าเบื้องหลังให้เคลียร์ ว่ามีช่องโหว่ให้ใครเข้าไปหาประโยชน์อย่างไรหรือไม่
หรือจะมีอะไรบิ๊กเซอร์ไพรส์จาก “ฝ่ายค้าน” มากไปกว่านั้น ถึงความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ในการทำงาน รวมถึงข้อสงสัยในเรื่องทุจริต ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง ตามที่ถูกตั้งธงไว้หรือไม่
นอกจากนั้น อาจต้องจับตาให้ดีถึงการบริหารงานภายในกระทรวงฯ ที่มีการจัดซื้อจัดจ้างหลายอย่าง เหมาะสม คุ้มค่าหรือไม่ ในช่วงที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักจากโควิด
มีข้อมูลว่า ในช่วงที่ “สุชาติ” เข้ารับตำแหน่ง มีการปรับปรุงซ่อมแซมพรมในห้องทำงานบนชั้น6 ที่กระทรวงฯ มูลเกือบครึ่งล้าน
หรือกรณีการใช้งบประมาณ เกือบ 4 หมื่นบาท จ้างเอกชนผลิตป้ายต้อนรับ พล.อ.ประวิตร ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน เมื่อครั้งเดินทางมาติดตามการดำเนินงาน และมอบนโยบายช่วงปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นต้น
อีกข้อหาสำคัญที่ฝ่ายค้านจ้องชำแหละคือ กรณีที่ระบุว่า “สุชาติ” ขนคนสวมเสื้อเหลืองมาเผชิญหน้ากับ “ม็อบ 3 นิ้ว” ที่หน้ารัฐสภา จนมีการปะทะเกิดขึ้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหายรวมถึงการระดมชาวบ้านที่ชลบุรีมาแสดงจุดยืนบางอย่าง ที่ว่ากันว่าเพื่อโชว์ผลงานเอาใจนายกฯ
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ของ “สุชาติ” ฉายา “มังกรน้ำเค็ม” คงถึงคราวได้พิสูจน์ตัวเองบนเส้นทางการเมืองสนามใหญ่ ว่าสามารถยืนระยะรับความท้าทายได้มากน้อยเพียงใด
เพราะตำแหน่ง “รมว.แรงงาน” ของ “สุชาติ” คงไม่ใช่ตำแหน่งสุดท้ายที่เขาใฝ่ฝัน แต่ยังมีบางตำแหน่งที่เขาหมายตาไว้...ยิ่งใหญ่กว่านี้