'ฝ่ายค้าน' ทวงคำตอบ 'รัฐบาล-กทม.' แก้ปัญหา'บีทีเอส' สายสีเขียว
"ยุทธพงศ์" ตั้งโต๊ะแถลงทวงคำตอบ "รัฐบาล-กทม." แก้ปัญหาขึ้นค่าโดยสาร "บีทีเอส" สายสีเขียวกระทบค่าครองชีพ ปชช. จี้ถามนายกฯ ทำอะไรอยู่
ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี ร่วมแถลงข่าวกรณีค่าโดยสารสายสีเขียวที่จะขึ้นราคาวันที่ 16 ก.พ.ในราคา 104 บาท โดยนายยุทธพงศ์ แถลงว่า สำหรับราคานี้เป็นราคาที่แพงเวอร์ จนถึงขณะนี้ตนได้ยื่นเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.แต่ยังเงียบ ไม่มีสัญญาณใดๆ ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 10 วันเท่านั้น
"พรรคเพื่อไทยเปิดประเด็นและอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้ว นำมาซึ่งการยังไม่ต่อขยายสัญญาให้กับบีทีเอส ซึ่งเราจะตามต่อเพราะเป็นปัญหาของคน กทม. และใกล้เคียง เนื่องจากสายสีเขียววิ่ง 3 จังหวัด คือ กทม. ปทุมธานี และสมุทรปราการ ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน"นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา บีทีเอสทำหนังสือทวงหนี้ กทม.จำนวน 3 หมื่นล้านบาท และให้จ่ายภายใน 60 วัน เป็นหนี้ค่าจ้างวิ่งรถ 3 ปี 9 เดือนตั้งแต่เดือน เม.ย.2560 ประมาณ 9,600 ล้านบาท และหนี้ค่าซื้อระบบเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) 2 หมื่นกว่าล้านบาท หากไม่จ่ายจะฟ้อง กทม.ถามว่าทำไมเป็นหนี้จำนวนมาก เพราะ กทม.ไม่ได้จ้างบีทีเอสวิ่งโดยตรง แต่ให้ บ.กรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นวิสาหกิจของ กทม.ไปจ้างบีทีเอสวิ่งอีกทอด ซึ่ง บ.กรุงเทพธนาคมมีทุนจดทะเบียนแค่ 50 ล้านบาท ถามว่าเป็นหนี้ 3 หมื่นกว่าล้านบาทได้อย่างไร แสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส และเมื่อไปดูต้นทุนบีทีเอสได้กำไรโดยเฉพาะในช่วงสถานีที่เป็นไข่แดง เพราะมีปริมาณผู้โดยสารจำนวนมาก โดยขณะที่ กทม.จ้างบีทีเอสวิ่งรถถึง 3 พันล้านบาทต่อปี แต่บีทีเอสวิ่งรถเองแค่ 2 พันล้านบาท ทำให้บีทีเอสกำไรมหาศาล
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ต่อให้บีทีเอสฟ้อง บ.กรุงเทพธนาคมฯ จนล้มละลาย ซึ่งมีทุนจดทะเบียนแค่ 50 ล้านบาท ก็ปล่อยให้ฟ้องไปเลย เพราะเป็นแค่บริษัทเก่าๆ ขณะที่การคิดค่าโดยสารต้องคิดในราคาที่ทุกคนไม่ว่าจะรวยหรือจนต้องเข้าถึงได้ จึงถามว่าค่าครองชีพแค่ 331 บาท เจอค่าโดยสารรถไฟฟ้า 104 บาท เหลือเงินกินแค่ร้อยกว่าบาทซึ่งเป็นไปไม่ได้ ส่วนที่ พล.ต.อ.อัศวิน บอกว่าไม่สนใจให้ตนไปฟ้อง ป.ป.ช.นั้น ก็ไม่แปลกเพราะเขาไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ได้เพราะหัวหน้า คสช.ตั้งมา หัวใจเลยไม่ได้อยู่กับประชาชน ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ทำคนเดือดร้อนทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ก็ยังจะขึ้นราคาค่าโดยสารอีก ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ มัวไปทำอะไรอยู่