'ปชป.'เผย'ธรรมนัส'โดดช่วยพริกที่ใต้ราคาตก อย่าให้กลายเป็นการเมือง รบ.จะลำบาก
"จุรินทร์" เผย เตรียมผู้รับซื้อ "พริกดวงมณี" แล้ว กก.ละ10บาท หลังราคาตก จ่อ ใช้เงินกองทุนช่วย อีก กก.ละ5บาท เผย "ธรรมนัส" โดดช่วย ไม่เป็นไร แต่อย่าให้กลายเป็นเรื่องการเมือง "รัฐบาล" จะลำบากโดยไม่จำเป็น
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาพริกดวงมณี ที่ปลูกมากในพื้นที่ภาคใต้ ราคาตก ในช่วงโควิดระบาดนั้น ว่า สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้นหน่วยงานที่มีหน้าที่ก็ควรจะลงไปช่วยกันแก้ปัญหา ตนได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ ให้พาณิชย์จังหวัดได้ลงพื้นที่และประสานงานกับเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมาโดยนายถาวร เสนเนียมนายเดชอิสม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ก็ได้มีการร้องเรียนเข้ามา
นายจุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมหาผู้รับซื้อ ประกอบด้วยโมเดิร์นเทรดต่างๆตลาดขนาดใหญ่ ห้องเย็น และผู้ส่งออก ให้ไปรับซื้อจากเกษตรกรโดยตรง โดยพาณิชย์จังหวัดจะเป็นตัวกลางในการประสานงานให้ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น 2-3วันแล้ว โดยให้รับซื้อพริกในราคาไม่ต่ำกว่า 10 บาท และกระทรวงพาณิชย์จะใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งกำกับดูแลโดยคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ลงไปช่วยสนับสนุนอีกกิโลละ 5 บาท รวมแล้วเกษตรกรจะได้ขายพริกในราคาไม่ต่ำกว่า 15 บาท โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าไปช่วยประมาณ 3,000 ตัน ซึ่งตนได้มอบหมายให้ นายวิชัยโภชนกิจ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ และ นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และพาณิชย์จังหวัดสงขลา ในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.64) เพื่อเตรียมการดำเนินการในเรื่องรายละเอียดทั้งหมด และช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ก็คาดว่าจะสามารถเปิดจุดรับซื้อพริกเขียวดวงมณีได้ อย่างน้อยที่สุดก็เริ่มต้นที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และในพื้นที่อื่นที่เหมาะสม
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาฟักทองในพื้นที่จังหวัดสงขลาเนื่องจากเกิดพายุ และทำให้เน่าเสียจำนวนมาก เพราะผลผลิตกำลังออก ตนได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดสงขลาได้ลงพื้นที่ประสานงานหาผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ให้มาช่วยรับซื้อ และให้เชื่อมโยงกับตลาดขนาดใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ฟักทองระบายออกได้ และในการประชุมที่จังหวัดสงขลา เรื่องพริกเขียวก็จะมีการนำเรื่องฟักทองเข้าไปหารือหาแนวทางแก้ไขและกำหนดมาตรการต่างๆ ในการแก้ปัญหาทันให้ทันท่วงทีในเวลาเดียวกันด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายพรรครวมกันแก้ปัญหาเรื่องพริก มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ทุกเรื่องกลายเป็นเรื่องการเมือง เพราะถ้าทุกเรื่องเป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด รัฐบาลก็จะ ลำบาก ขอให้เป็นเรื่องของการทำหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน แต่ละความรับผิดชอบ อันนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ก็เป็นเรื่องของการเข้าไปทำหน้าที่ และเป็นการทำหน้าที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งความจริงก็ไม่ได้มีแต่เรื่องพริก ที่ผ่านมาก็มีทุกเรื่องที่เป็นเรื่องของพืชผลการเกษตร ทั้ง ลำไย กระเทียม หอมพริก พืชผลทางการเกษตรตัวอื่นทุกๆตัว ก็เข้าไปดำเนินการโดยลำดับมาอยู่แล้ว กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำงานร่วมกันมาโดยตลอด ภายใต้วิสัยทัศน์“เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาดยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต” ก็เป็นเรื่องที่ทำร่วมกันมาโดยตลอดเพราะกระทรวงเกษตรมีหน้าที่ในการเข้าไปดูแลการผลิตให้พืชผลการเกษตรมีคุณภาพ และเป็นไปตามความต้องการของตลาด ส่วนกระทรวงพาณิชย์ก็จะช่วยในการหาตลาดให้ ทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจที่ดำเนินการร่วมกันมาอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐ ให้ ร.อ.ธรรมนัส เข้าไปจัดการปัญหาเรื่องพริกนายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ช่วยกันหลายๆมือ ช่วยกันหลายๆทาง เพียงแต่อย่าให้กลายเป็นเรื่องการเมือง เท่านั้นเอง เพราะไม่คุ้มถ้าทุกเรื่องกลายเป็นเรื่องการเมือง รัฐบาลก็ลำบากโดยไม่จำเป็น ถ้าเป็นการทำหน้าที่ปกติก็เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องทำอยู่แล้ว เพราะว่าไม่ว่าใครก็ตามตนไม่ขอพูดถึงตัวบุคคล ขอพูดว่าในฐานะรัฐบาลกระทรวงไหนมีหน้าที่ อะไรก็ต้องทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์ไป ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ก็พยายามทำหน้าที่มาโดยตลอดอยู่แล้ว