ส่องเกม “โทนี่” ขยี้หนัก มั่นใจ “เพื่อไทย” แลนด์สไลด์

       การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนเมือง

       กลายเป็นศึกหนักของ “รัฐบาลประยุทธ์” ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น จึงใช้ประเด็นนี้โจมตีความล้มเหลวในการบริหารจัดการป้องกันและควบคุมสถานการณ์

       จังหวะนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ โทนี่ วูดซัม Tony Woodsome ก็ไม่พลาดที่จะโดดเข้าร่วมวง โดยอาศัยช่องทางสื่อสารโดนใจคนรุ่นใหม่อย่างคลับเฮาส์ Clubhouse

       ปรากฏการณ์ “โทนี่” ในแวดวงการเมือง จึงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง หลังจากอดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้ร่วมพูดคุยในช่อง CARE Clubhouse มา 3-4 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งล่าสุด “ทักษิณ” แสดงวิสัยทัศน์การบริหารวิกฤติโควิด และจับประเด็นการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดมาขยี้ ว่าด้วยเรื่อง “พลิกฟื้นวิกฤติโควิด กับ Tony Woodsome” จึงโดนใจแฟนคลับทั้งประเทศ

       “ทักษิณ” จี้จุดอ่อนรัฐบาลประยุทธ์ เรื่องการบริหารจัดการพื้นที่คลองเตย รวมถึงเรื่องวัคซีนที่ล่าช้า และการสร้างโรงพยาบาลสนามของรัฐบาลในหลายพื้นที่

       การกลับมาโชว์วิสัยทัศน์ สอนเชิงบริหาร ของทักษิณ ในวันที่ประเทศไทย กำลังเผชิญการระบาดของโควิดระลอก 3 ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือความจงใจเคลื่อนไหวที่สอดประสานกับจังหวะก้าวทางการเมืองของพรรคเครือข่ายคนแดนไกล

       ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.2564 พรรคเพื่อไทย ได้ทีมทำงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ กทม.โดยแบ่ง 4 ทีม คือ ทีมกองหน้า ทีมกองกลาง ทีมประชาสัมพันธ์ และทีมนโยบาย

       ทีมกองหน้า ประกอบด้วย ส.ส. ส.ก. และทีมคิดเพื่อไทย ที่จะเข้าไปช่วยเหลือกรณีป่วยติดเชื้อหรือมีผู้ป่วยโควิด และชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งทีมนี้น่าสนใจตรงที่มี “ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.” รวมอยู่ด้วย และหากเข้าไปส่องดูแฟนเพจของพรรคเพื่อไทย ก็จะเห็นภาพกิจกรรมของ “ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.” เกือบทุกเขตใน กทม.

       ย้อนไปดูคำสั่งของ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการประสานพื้นที่เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ เฉพาะพื้นที่ กทม.ที่แบ่งเป็น 6 โซน แม่ทัพแต่ละโซนล้วนแต่เป็นมือทำงานเก๋าเกม อาทิ พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล พวงเพ็ชร ชุณละเอียด วิชาญ มีนชัยนันท์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

       คนรุ่นใหม่ ปิยะวรรณ จระกา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตสวนหลวง ก็สนิทสนมกับเยาวเรศ ชินวัตร และชยิกา วงศ์นภาจันทร์

       ขณะที่ ส.ก. และอดีตผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคเพื่อไทยหลายคนก็เปิดตัวทำกิจกรรมเช่นกัน โดยเดินเข้าพื้นที่พร้อมกับ ส.ส. และอดีต ส.ส.

       ภาพรวมการเคลื่อนไหวการเมืองท้องถิ่นของเพื่อไทย โชว์ให้เห็นว่ากำลังลุยเปิดเกมทะลวงทุกพื้นที่ โดยมี “โทนี่” ทำหน้าที่โฆษณาชวนเชื่อ

       ตัดกลับมายังรัฐบาล จังหวะที่ “พี่น้อง 3 ป” เผชิญสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุด กระแส “เบื่อประยุทธ์” เพิ่มขึ้นทุกที และเมื่อมีคู่เปรียบเทียบอย่าง “โทนี่” ก็ยิ่งตอกย้ำความแตกต่างระหว่างวิสัยทัศน์ 2 ผู้นำ

       จะว่าไปแล้ว นับแต่การยึดอำนาจในปี 2557 ที่ “พี่น้อง 3 ป” อยู่ในอำนาจสูงสุดทางการเมืองของไทยมา 7 ปี แต่ฝ่ายอดีตนายกรัฐมนตรีพี่น้อง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ก็ไม่เคยยอมแพ้ แม้บางจังหวะจะหมอบต่ำ แต่ก็ยังสู้อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองของตัวเองอย่างไม่ถอย

       โดยเฉพาะ “ทักษิณ” ที่หาจังหวะโชว์ความเป็น “ผู้นำเงา” คู่ขนานกับ น้องเล็ก “ 3 ป” อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ สภาพที่ประเทศขาดแคลนผู้นำ เศรษฐกิจย่ำแย่ คนทุกรุ่นมองไม่เห็นอนาคต “ทักษิณ” จึงเสนอตัวเข้ามาในนาม “พี่โทนี่”

       ไม่มีใครปฏิเสธว่า พรรคการเมืองของทักษิณ ไม่ว่าจะชื่อ ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย กำชัยชนะในสนามเลือกตั้งติดต่อกันถึง 5 ครั้ง นับตั้งเลือกตั้งปี 2544, 2548, 2550, 2554 และ 2562

       แม้การเกิดใหม่ของพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคก้าวไกล จะดูเหมือนส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” โดนเว้นวรรค “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นผู้นำ โอกาสย่อมกลับมาเป็นของเพื่อไทยอีกครั้ง

       ดังนั้น “พี่โทนี่” จึงพูดถึงกระแสกลุ่ม #ย้ายประเทศกันเถอะ ว่า

       "..ผมตกใจมาก 4 วัน 7 แสนคน ผมคิดว่า สรุปแล้วเราไม่พยายามจะเข้าใจประชาชน ไม่พยายามจะเข้าใจคน Gen Z Gen Y มันเป็นช่วงที่วิธีคิดเขาไม่เหมือนเรา ไม่เข้าใจกัน และไม่พยายามจะเข้าใจกัน ความไม่เข้าใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ความไม่อยากฟัง มีอำนาจก็ใช้แต่อำนาจ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา”

       “ทักษิณ” ในบทบาท “พี่โทนี่” เริ่มมีเสียงตอบรับจากคนรุ่นใหม่มากขึ้น ยิ่งการปรากฏตัวในคลับเฮาส์เมื่อค่ำวันที่ 4 พ.ค.2564 ได้เอาใจเด็กๆ เต็มที่

       “แล้วเด็กยุคนี้ อย่าโกหกเขานะ ทำผิด เขาให้อภัยได้ แต่โกหกไม่ได้ อย่าไปก้าวล่วงชีวิตเขา เราต้องพยายามเข้าใจและฟังเขา เพราะทุกคนเกิดมาแล้วต้องดิ้นรนเพื่ออนาคตตัวเอง มาบอกว่าพวกคนนี้ไม่รักชาติ บ้าไปแล้ว นี่มันไม่พยายามเข้าใจเขา...”

       ชั่วโมงนี้ พรรคเพื่อไทยอาศัย “โทนี่” ชิงธงนำฝ่ายประชาธิปไตยจากพรรคก้าวไกลมาได้แล้ว รวมถึงการปฏิรูปพรรค โดยมีเป้าหมายเจาะตลาดคนรุ่นใหม่

       ด้วยเหตุนี้ “ทักษิณ” จึงเปิดเกมรุกอย่างไม่มีกั๊ก

       มีคนถามในคลับเฮาส์ ล่าสุดว่า “มองอนาคตของคุณประยุทธ์อย่างไร” จึงมีคำตอบจาก“ทักษิณ”ว่า

       “ต้องถามว่า คุณประยุทธ์เบื่อหรือยัง เบื่อไหม เชื่อว่าเลือกตั้งคราวหน้า ถ้าพรรคใดพรรคหนึ่งได้คะแนนถล่มทลายเกิน 250 ส.ว.ก็พูดไม่ออกเหมือนกันนะ ส่วนตัวเชื่อว่าเลือกตั้งครั้งหน้า เสียงจะไม่เบี้ยหัวแตกแบบการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพราะสถานการณ์ที่ประชาชนเจอในตอนนี้ มันชัดเจน”

       ปรากฏการณ์ทักษิณที่กล้าลบเหลี่ยมผู้นำทหาร แม้ตัวเองจะมีจุดอ่อนตรงที่ถูกมองว่าก่อปัญหาในอดีตมากมาย จนทหารต้องเข้ามายึดอำนาจ แต่การที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องการเมืองในจังหวะที่รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ ย่อมมีทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งอาจได้ใจคนรุ่นใหม่ และรักษาฐานมวลชนคนเสื้อแดงไว้ได้ แต่อีกด้านหนึ่ง ก็อาจปลุกกองเชียร์ทหารให้กลับมารวมตัว “ต้านทักษิณ” กันอีกครั้ง

       ทว่า นาทีนี้คนแดนไกลเริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ว่า ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยมีโอกาสชนะแบบแลนด์สไลด์ได้เกินครึ่ง 250 เสียงแน่ๆ โดยไม่แคร์ ส.ว.แต่งตั้ง นั่งร้านของ “พี่น้อง 3 ป”!