'กลุ่มอาชีวะ-เยาวชน 2 ล้อ' นำคาราวาน 'คาร์ม็อบ' เข้าเมือง บีบแตรไล่ 'ประยุทธ์'
'กลุ่มอาชีวะ-เยาวชน 2 ล้อ' ชุมนุมขับไล่ 'พล.อ.ประยุทธ์' ทำเซอร์ไพรส์ ยิงพลุสีเงินแยกราชประสงค์หลายนัด ก่อนปักหลักอนุสาวรีย์ฯ ยืนเคารพธงชาติ-ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด ก่อนยุติชุมนุม
31 ก.ค.2564 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายธนเดช ศรีสงคราม หรือ ม่อน อาชีวะ แกนนำ ร่วมกับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ชาว 2 ล้อไม่เอาประยุทธ์ จัดกิจกรรม รวมพลังคนพันธุ์ R CAR MOB อาชีวะขับไล่เผด็จการ นัดรวมตัวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 14.00 น. ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังราชประสงค์ และปิดท้ายกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดยมีหลายกลุ่มที่เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ เช่น ศิษย์เก่าโรงเรียนอาชีวะมีนบุรีโปลีเทคนิค, อินทรอาชีวศึกษา, เทคโนโลยีประชาชื่น, ช่วงกล บุรณพนธ์ , กนกอาชีวะศึกษา, อาชีวะ หนองจอก ลาดกระบัง ฝั่งธนบุรี บางแค และอาชีวะทั่วประเทศ รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงก็มาเข้าร่วมด้วยเช่นกัน
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มผู้ชุมทยอยขับรถจักรยานยนต์และรถยนต์มารวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าร้านแมคโดนัลด์ เพื่อรอ
เคลื่อนขบวนในเวลา 14.30 น. โดยเหลือถนน 2-3 เลนขวาสุดให้การจราจรยังเคลื่อนต่อไปได้ โดยรถของผู้ชุมนุมได้มีถอดป้ายทะเบียนออกหรือนำกระดาษมาปิดบังป้ายทะเบียนเอาไว้ มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้แสดงสัญลักษณ์ผูกริบบิ้นสีดำที่รถเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ซึ่ง มีการใช้รถเครื่องเสียงและร้องเพลงกันอย่างคึกครื้น ผู้ชุมนุมต่างพักผ่อนอริยาบถ ทานอาหารและดื่มน้ำ เพื่อรอเวลาเคลื่อนขบวนต่อไป โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวกให้แก่การจราจรและคอยดูแลความเรียบร้อย ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปที่สัญจรผ่านมาบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็ได้มีการชู 3 นิ้ว รวมถึงบีบแตรทักทายให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
เวลา 14.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมอาชีวะบางส่วนถือธงสัญลักษณ์กลุ่มข้ามถนนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ก่อนจะกลับมาตั้งขบวนคาร์ม็อบ โดยหัวขบวนจะเป็นรถเครื่องเสียง ตามด้วยรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์
จากนั้นเวลา 15.00 น. เริ่มเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปราชประสงค์ โดยใช้ถนนนครสวรรค์ ผ่านแยกนางเลิ้ง โดยถนนราชดำเนินมีเจ้าหน้าที่คฝ.จำนวนหนึ่งได้ยืนเป็นแนวกั้นปิดเส้นทางเอาไว้ ซึ่งระหว่างการเคลื่อนขบวน กลุ่มผู้ชุมนุมต่างบีบแตรเสียงดังพร้อมชู 3 นิ้ว ไปตลอดทาง โดยแกนนำได้ปราศรัยว่า ประยุทธ์ออกไป เป็นระยะๆ ขณะที่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดดูแลความเรียบร้อยตามเส้นทางการเคลื่อนขบวนเป็นระยะเช่นกัน ทั้งนี้ แกนนำได้ประกาศด้วยว่าให้หยุดบีบแตรเมื่อเข้าเขตโรงพยาบาล
จากนั้นเวลา 15.10 น. กลุ่มผู้ชุมเคลื่อนตัวเข้าสู่ประตูน้ำ โดยการเคลื่อนขบวนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ถนนประชาสงเคราะห์ แล้วมาหยุดที่แยกประชาสงเคราะห์ชั่วคราว เพื่อรอผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ไม่ให้ขบวนขาดช่วง ประชาชนบางส่วนที่อยู่บริเวณฟุตปาธได้มีการชู 3 นิ้วทักทายกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย ระหว่างนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักแต่ผู้ชุมนุมก็ไม่หวั่นยังคงพยายามที่จะเคลื่อนขบวนต่อ แม้ผู้เข้าร่วมชุมนุมคาร์ม็อบส่วนใหญ่จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ก็ตาม แต่เนื่องจากฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แกนนำต้องประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์หยุดหลบฝนใต้สะพาน ทำให้กิจกรรมคาร์ม็อบ ซึ่งใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นหลักต้องหยุดพักชั่วคราวก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมหยุดพักประมาณ 40 นาที ที่บริเวณแยกราชประสงค์ จากนั้นเวลา 17.00 น. ได้มีการยิงพลุหลายนัด กระจายเป็นแสงสีเงินบนท้องฟ้า แกนนำได้ประกาศขอให้ผู้ชุมนุมบีบแตรดังๆ เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ยินว่าผู้ชุมนุมไม่ต้องการให้บริหารประเทศ ก่อนจะประกาศเคลื่อนขบวนไปทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมตะโกนว่า ประยุทธ์ออกไป 3 ครั้ง ซึ่งระหว่างการเคลื่อนขบวน แกนนำได้ประกาศขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยอำนวยความสะดวกและกล่าวขอบคุณผู้ชุมนุม รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ให้กำลังใจ พร้อมทั้งปราศรัยโจมตีการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ และเรียกร้องว่าประชาชนต้องการวัคซีน mRNA เป็นระยะๆ โดยกลุ่มผู้ชุมได้บีบแตรรถและเปิดไฟกระพริบเป็นสัญลักษณ์การร่วมชุมนุมไปตลอดทาง อย่างไรก็ตาม การจราจรค่อนข้างติดขัด ทำให้ขบวนคาร์ม็อบเคลื่อนไปได้อย่างช้าๆ โดยใช้เส้นทางถนนราชปรารภ ผ่านแยกดินแดง
จากนั้นเวลา 17.30 น. กลุ่มคาร์ม็อบอาชีวะเคลื่อนขบวนมาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แกนนำประกาศตั้งขบวนเพื่อที่จะขับรถวนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 3 รอบ โดยให้รถยนต์ใช้ถนน 1 เลนด้านในสุด ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ใช้ถนน 2 เลนที่เหลือด้านนอก พร้อมตะโกนไล่ ประยุทธ์ออกไป โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกให้กับการจราจรโดยรอบ ซึ่งค่อนข้างจะติดขัด เคลื่อนตัวได้ลำบาก เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 17.45 น. แกนนำประกาศว่าเวลา 18.00 น. จะร่วมกันยืนเคารพธงชาติ และยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อไว้อาลัยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่ต้องเสียชีวิตเพราะโควิด-19 อันเกิดจากการบริหารจัดการล้มเหลวของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และถามย้ำว่าจุดยืนเดียวกันของพวกเราคือการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ใช่หรือไม่ รวมถึงประกาศว่าหากใครหิว มีข้าว ปลาหมึกย่าง 2,000 ไม้ และเครื่องดื่มแจกฟรี ให้มารับได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ที่แกนนำได้ประกาศว่าจะขับรถวนรอบอนุสาวรีย์นั้น ได้ยกเลิกการทำกิจกรรมดังกล่าว คาดว่าเนื่องจากสภาพการจราจรไม่อำนวย แกนนำจึงตัดสินใจปักหลักยังจุดที่ตั้งขบวน เพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป
จากนั้นเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมยืนตรงร้องเพลงชาติและชู 3 นิ้ว อย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนตะโกนคำว่า ไชโย 3 ครั้ง และ ประยุทธ์ออกไป 3 ครั้ง หลังจากนั้นผู้ชุมนุมร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัย 1 นาที ก่อนแกนนำจะตะโกนนำร้องเพลงเนื้อท่อน 1 2 3 4 5 i here too 3 รอบ และเชิญชวนผู้ชุมนุมที่ต้องการปราศรัยระบายความอัดอั้นให้ขึ้นมาบนรถเครื่องเสียงได้
เวลา 18.05 น. นายธนเดช ได้กล่าวปราศรัยว่า วันนี้เป็นเพียงน้ำจิ้มของการรวมตัวพี่น้องอาชีวะและเยาวชน 2 ล้อ วันนี้เราต้องการบอกสังคมว่า การที่พวกท่านว่าเราเป็นเด็กอาชีวะและเด็กแว้น แต่วันนี้เรามาทำเพื่อชาติ เพราะทนเห็นพี่น้องต้องเสียชีวิตเพราะไม่มีเตียงไม่ไหว เราไม่ได้มาต่อสู้เพื่อพรรคการเมืองไหนหรือนักการเมืองคนใด แต่สู้เพื่อตนเอง เพื่อพ่อแม่พี่น้อง และอนาคตของพวกเรา แม้ตนจะโดนหมายเรียกมาหลายครั้งก็ไม่เป็นไร ตนอยากมาพูดแทนคนไทยทั้งชาติ อดีตเด็กช่างเคยตีกัน แต่วันนี้เราจับมือกันเพื่อมาไล่นายกฯ ที่ชื่อประยุทธ์ ขอฝากไปยังผู้ใหญ่หลายๆ คน ไม่ว่าจะเสื้อเหลือง เสื้อแดง วันนี้เรามารวมตัวกันเพื่อชาติ แล้วพวกคุณทำอะไรหรือยัง ขอให้หันหน้าเข้าหาจับมือกันอย่างพวกเรา และขอขอบคุณดาราที่ออกมาคอลเอาต์เพื่อประชาชน
นายธนเดช กล่าวต่อว่า เวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งอยู่บ้าน เพราะติดเสาร์อาทิตย์ เคยออกมาดูบ้างไหมว่าบุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักแค่ไหน ไม่ฟังเสียงคนอื่น ขอให้ประชาชนจดจำภาพเหล่านี้ไว้ว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่อาชีวะจะมารวมตัวกันขนาดนี้ เพราะสุดจะทนกับพล.อ.ประยุทธ์แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปราศรัยจบ นายธนเดชได้ตะโกน ว่า ประยุทธ์ออกไปและเผด็จการจงพินาศ หลายครั้ง และขอให้ผู้ชุมนุมปรบมือให้กับตัวเอง ก่อนจะยุติการชุมนุมในเวลา 18.15 น. โดยหลังจากยุติการชุมนุม กลุ่มคาร์ม็อบอาชีวะได้ทำการจุดพลุอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มแยกย้าย