“ศรีสุวรรณ”ร้องป.ป.ท.สอบ“ผู้กำกับโจ้”ร่ำรวยผิดปกติ
“ศรีสุวรรณ”ร้องป.ป.ท.สอบ“ผู้กำกับโจ้”ร่ำรวยผิดปกติ พ่วง“หมอนครสวรรค์”จับพิรุธใบรับรองการตาย
ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ท.เพื่อขอให้ไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลเกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติและการกระทําการทุจริตในภาครัฐของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อสรุปสํานวนพร้อมทั้งความเห็นส่ง ป.ป.ช.หรือพนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรณีนายแพทย์จากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ระบุความเห็นทางการแพทย์ในหนังสือรับรองการตาย อันอาจเป็นเท็จ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากในโลกออนไลน์ได้มีการแช์ข้อมูลและคลิปเหตุการณ์พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์หรือ ผกก.โจ้ กับพวกรวม 7 คนใช้ถุงคลุมศีรษะรีดเงิน 2 ล้าน จากพ่อค้ายาเสพติดจนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากว่าเป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นการกระทำของตำรวจไทย จนนำไปสู่คำสั่งของ ผบ.ตร.ให้ตำรวจทั้ง 7 นายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนไปแล้ว
สิ่งที่สังคมไทยสงสัยกันมากยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวนจากส่วนกลางได้ร่วมกันตรวจค้นบ้านผกก.โจ้ในหมู่บ้านปัญญาอินทรา เขตคลองสามวา กทม.ก็คือ การเจอรถราคาแพงกว่า 13 คัน จอดไว้ในบ้านหรูราวกับเป็นโชว์รูม และยังมีชื่อปรากฏในรถยนต์อื่นอีกกว่า 40 คันมูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆที่มีมูลค่ามหาศาลมากมาย
รวมทั้งข้อมูลจากโลกออนไลน์ที่แชร์แชทข้อมูลการพูดคุยกับดาราสาวว่ามีเงินฝากไว้กับนอมินีอีกกว่า 230 ล้านบาทด้วย ซึ่งอาจชี้ชัดได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมีทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ท.และป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการไต่สวนหาความจริงมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้นยังมีกรณีหนังสือรับรองการตายของผู้ต้องหา ที่ออกโดยแพทย์จากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ พร้อมระบุสาเหตุการเสียชีวิตโดย สันนิษฐานว่า ผู้ต้องหาได้เสียชีวิตเพราะพิษจากสารแอมเฟตามีน ซึ่งหลังจากมีเอกสารนี้เปิดเผยออกมา จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอย่างมาก ว่าการกระทำในคลิปกับการระบุสาเหตุการตายในเอกสาร มันขัดแย้งกันหรือไม่
“เพราะถ้าเป็นการตายผิดธรรมชาติตามระเบียบต้องมีการผ่าชันสูตรศพเท่านั้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา148 วรรคหนึ่งกำหนด แล้วจึงออกใบชันสูตรศพให้อีกครั้ง ว่าตายจากสาเหตุอะไรกันแน่ ซึ่งจะนำไปสู่การไต่สวนโดยศาล ตามมาตรา 150 ว.3 และ ว.5 ต่อไป”
กรณีดังกล่าวเป็นข้อพิรุธทั้ง 2 กรณี วันนี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ท. และในบางกรณีให้ ป.ป.ท.ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. เพื่อสอบสวนเอาผิดนายตำรวจและนายแพทย์คนดังกล่าว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคมสืบไป