'อดีตกสม.'ชี้ 'รัฐบาล' ละเมิดรธน. หมกเม็ด - แก้กม.ปฏิรูปจากดี เป็น 'ลบที่สุด'

สุนี ไชยรส ชี้ รัฐบาล ร่วมมือ หลายหน่วยงาน แก้กฎหมายปฏิรูป- ละเมิดหลักการ รธน. แนะให้เร่งปฏิรูปทั้งกระบวนการยุติธรรม ยสเคส "ผกก.โจ้" คือคำเตือนระบบยุติธรรมมีปัญหาทั้งระบบ

นางสุนี ไชยรส อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวาในเวทีเสวนาออนไลน์ เรื่อง ผ่าคดีผู้กำกับโจ้ กับอนาคตปฏิรูปตำรวจแห่ง จัดโดยสถาบันปฏิรูปประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า คดีพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ โจ้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าทรมาน เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่าระบบยุติธรรมทั้งระบบมีปัญหาาและต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ในประเด็นการปฏิรูปตำรวจ ผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจ ซึ่งกรรมาธิการฯ อยู่ระหว่างการพิจารณานั้น และก่อนหน้านั้นพบว่าเนื้อหาก่อนที่จะเสนอเข้าาสู่รัฐสภาถูกหมกเม็ด เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ตนมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลได้ละเมิดต่อหลักการของรัฐธรรมนูญ เช่น กระบวนการยกร่างกฎหมายต้องรับฟังเสียงประชาชน ตามมาตราา 77 ซี่งตนเชื่อว่าหากรับฟังอย่างจริงจัง เนื้อหาของร่างพ.ร.บ.จะไม่เป็นแบบนี้ เพราะประชาชนจะรณรงค์เรียกร้อง แม้รัฐบาลระบุว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คือ ผู้มีส่วนได้เสีย แต่ประชาชนฐานะผู้มีส่วนได้เสียที่ควรได้สิทธิวิพากษ์เนื้อหาเช่นกัน

นางสุนี กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นรัฐบาลได้ทำสิ่งที่ขัดแย้งกับยุทธศาสตร์การปฏิรูปที่กำหนดให้ต้องปฏิรูปตำรวจภายใน 1 ปี แต่พบว่ามีกระบวนการทำให้ยือเยื้อ อีกทั้งพบว่ารัฐบาลใช้กระะบวนการดังกล่าวกระทำอีกหลายกฎหมาย เช่น ร่างกฎหมายส่งเสริมภาคประชาชน แต่ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างหนักให้เป็นกฎฆมายที่ควบคุมการรวมกลุ่มของภาคประชาชน คือ จากร่างกฎหมายที่ดี กลายเป็นกฎหมายที่เป็นด้านลบที่สุด

“รัฐบาลใช้อำนาจในเชิงบริหารร่วมมือกับหลายฝ่าย และรัฐบาลกำลังท้าทายทั้งระบบ การปฏิรูปที่คาดหวัง และเข้าไปสู่รัฐสภา เช่น ร่าง กฎหมายการต่อต้านการซ้อมทรมาณ ซึ่งออกตามอนุสัญญาณต่อต้านการซ้อมทรมาณ ดังนั้นการปฏิรูปตำรวจเชิงโยกย้ายไม่พอ ต้องสะสางทั้งกระบวนการ เช่น ต่อต้านการซ้อมทรมาณ การบังคับให้บุคคลสูญหาย และที่จำเป็นต้องปฏิรูปให้ได้ คือ กลไกตำรวจให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีบุคคลภายนอกร่วมทุกระดับ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถลดทอน การคอร์รัปชั่น การปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่โปร่งใสได้” นางสุนี กล่าว.