ปลุกผี‘ทักษิณโมเดล’ ขวางเกมฮั้ว ‘บัตร 2 ใบ’
กระแสไม่เอา "บัตร 2 ใบ" ยามนี้ มีความพยายามปลุกผีเผด็จการสภาฯ ในยุค “ทักษิณโมเดล” ปั่นเกม “คว่ำรัฐธรรมนูญ” วาระ 3 ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ หวังขวางเกมกินรวบของ 2 พรรคใหญ่ ที่อาจไปสอดรับกับอภิมหาดีลในอนาคต
ความพยายามในการฟื้นระบบ “บัตร 2 ใบ” ของบรรดาพรรคการเมือง โดยเฉพาะ 2 พรรคใหญ่ อย่างพลังประชารัฐ และเพื่อไทย รวมถึง 1 พรรคขนาดกลางอย่างประชาธิปัตย์ ยามนี้ อาจต้องไปลุ้นการลงมติร่างรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 10 ก.ย.นี้
อย่างที่รู้กันว่า มาตรา 256 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กำหนดให้การลงมติในวาระ 3 จะต้องผ่าน “กุญแจ3ชั้น” ชั้นแรก คือใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกของรัฐสภา ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกรวมกัน 730 คน เท่ากับว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะต้องมีเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 366เสียง
ไม่เพียงเท่านั้น กุญแจชั้นที่ 2 ในจำนวนเสียงที่ “เห็นชอบ” จะต้องมีเสียง ส.ว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ว.ที่มี หรือ 84 เสียงจาก 250 คน
ขณะที่ กุญแจชั้นที่ 3 คือ มีเสียงเห็นชอบจาก ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน และพรรคที่ไม่มีบุคคลดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือประมุขของสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่า 20% ของสมาชิกพรรคการเมืองดังกล่าวรวมกัน หรือประมาณ 45 คน
ประเมินคร่าวๆ ดูแลในส่วนของกุญแจขั้นแรกคือ 366 เสียงโหวตผ่านวาระสาม ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะหากลองเช็คเสียงฝ่ายที่ประกาศจุดยืน “ สนับสนุน” บัตร 2 ใบ เวลานี้พบว่า เพื่อไทยมี 134 เสียง ประชาธิปัตย์ 51 เสียง ชาติไทยพัฒนาที่หวังฟื้น “บรรหารโมเดล”เวลานี้มีอยู่ 12 เสียง
ยังไม่นับในส่วนของพลังประชารัฐที่กุมเสียง ส.ส.ในมือ 122 เสียง ที่แม้ยามนี้จะมีบางส่วนเกิดอาการลังเลถึง “สมการการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนไปท่ามกลางกระแสข่าวการปล่อยฟรีโหวตวาระ 3 แต่สัญญาณ ณ เวลานี้ยังคงเอียงไปทางโหวตผ่านวาระ 3 มากกว่า
ไม่ต่างไปจากกุญแจดอกที่ 3 คือ การใช้ 45 เสียงฝ่ายค้าน ที่นับเฉพาะเสียงเพื่อไทยที่มีอยู่ 134 เสียง ก็สามารถผ่านฉลุยได้โดยง่าย
ฉะนั้นเงื่อนไขสำคัญที่ต้องไปลุ้นกันต่อคือ “84 เสียงส.ว.” แม้จะยังสวิงไปสวิงมา ทั้งเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ งดออกเสียง
แต่ล่าสุดเริ่มสัญญาณส่งถึง “สภาสูง” ขอโหวตผ่านรัฐธรรมนูญวาระ 3 เปิดทางสู่การเลือกตั้งหลังจากนี้
ต่างจาก ฝั่ง “ไม่เอาบัตร 2 ใบ” ยามนี้พยายามปลุกผีเผด็จการสภาฯ ในยุค “ทักษิณโมเดล” ทั้งรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปั่นกระแส “คว่ำรัฐธรรมนูญ” วาระ 3 ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ หวังขวางเกมฮั้ว 2 พรรคใหญ่ ที่อาจไปสอดรับกับอภิมหาดีลในอนาคต
โดยเฉพาะ“ภูมิใจไทย” ที่ประกาศชัดมาตั้งแต่ต้น ไม่เอาบัตร 2 ใบ ย่อมรู้ดีถึงสมการการเมืองที่เปลี่ยนไป อันจะส่งผลให้พรรคถูกลดขนาด กลายเป็นพรรคขนาดเล็ก
เห็นชัดจากการ “งดออกเสียง” ทั้งวาระแรก และวาระ 2 ฉะนั้นการโหวตในวาระ 3 ก็คงไม่เหนือความคาดหมาย หรือผิดไปจากนี้สักเท่าไรนัก
เช่นเดียวกับ “ก้าวไกล” ที่ย่อมรู้ดีถึงสูตรคณิตศาสตร์การเมืองที่จะเกิดขึ้น และอาจไม่ได้เป็น“พรรคส้มหล่น” อีกต่อไป เวลานี้พยายามเลี่ยงบาลี สนับสนุน “บัตร 2 ใบ” แต่ต้องไม่ใช้โมเดล 40 ที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์ “กินรวบ” ของพรรคใหญ่
ล่าสุด พยายามส่งเสียงทวงถามไปถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม "มั่นใจหรือไม่ว่าจะยื่นดาบให้ศัตรูเพื่อมาฆ่าตัวเอง"
ไม่ต่างไปจาก “7 พรรคเล็ก” ที่ส่อแววสูญพันธุ์ หากใช้ระบบบัตร 2 ใบ ล่าสุด พยายามชี้ให้เห็นถึงรัฐบาลยุค“ทักษิณ-สมัคร-ยิ่งลักษณ์” ที่เกิดเผด็จการรัฐสภา มีการคอร์รัปชันเชิงนโยบายมโหฬารอย่างโจ่งแจ้ง
ขณะเดียวกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังยกเลิกระบบจัดสรรปันส่วนผสม ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนตัวเล็กๆ เข้ามามีโอกาสทำงานในสภา รวมถึงล้มระบบ ส.ส.พึงมี ที่ถือเป็นระบบที่ยุติธรรมที่สุด และยังล้มหลักการเรื่องคะแนนเสียงตกน้ำอีกด้วย
นับจนถึงเวลานี้ แม้ฝั่งสนับสนุนบัตร 2 ใบ ยังมั่นอกมั่นใจว่าการโหวตในวาระ 3 น่าจะผ่านฉลุย แต่เอาเข้าจริงยังคงต้องลุ้นจนวินาทีสุดท้าย ฝั่งส.ว.โดยเฉพาะสาย 3 ป.คอนเนคชั่น ยามนี้อาจต้องรอฟังสัญญาณอะไรบางอย่างก่อนตัดสินใจลงมติช่วงนาทีสุดท้าย
แม้แต่ทางฝั่งเพื่อไทยซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้ ยังยอมรับว่าโอกาสร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านวาระ 3 นับจนถึงตอนนี้ ยังมีโอกาสเพียง “50-50” เท่านั้น หรือหากผ่านวาระ 3 ไปได้ ก็ยังมีความสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตีความในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน