‘เปิดเมือง’ อย่าพลาด กฎหมายต้อง ‘เข้ม’
คิดจะ "เปิดเมือง" รัฐบาลอย่ามัวแต่พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า "การ์ดอย่าตก" แต่ต้องเร่ง "ฉีดวัคซีน" ต้องกำหนดบทลงโทษอย่างจริงจังกับผู้ฝ่าฝืนมาตรการในทุกรูปแบบ สกัดการติดเชื้อเพิ่ม อย่าให้ผิดพลาดเหมือนอดีต
การออกมาประกาศ "เปิดกรุงเทพฯ" รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้แบบไม่กักตัว วันที่ 15 ต.ค.นี้ ดูเหมือนเป็นความตั้งใจของรัฐบาลและตั้งความหวังไว้สูงมาก เพราะต้องการมูฟออนจาก "โควิด" ที่เกาะกินประเทศมานานกว่า 2 ปี หวังให้เศรษฐกิจมีความไดนามิกขึ้นให้ทุกอย่างกลับมาใกล้เคียงกับคำว่า "ฟื้นตัว"
การเรียกความเชื่อมั่นดึงเม็ดเงินจากภาคธุรกิจภาคท่องเที่ยว ดูเหมือนเป็นหนทางรอดสุดท้ายที่จะพยุงเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อได้ ท่ามกลางความบอบช้ำบาดแผลลึก หลายบริษัทต้องปิดตัว เอสเอ็มอีหายใจรวยริน สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ควรลากยาวต่อไปเรื่อยๆ จะยิ่งทำให้บาดแผลฉกรรจ์ รักษายากขึ้น
ส่วนแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามนโยบายเปิดประเทศภายใน 120 วันนั้น จะเปิดเพิ่ม 5 จังหวัด (รวมเป็น 9 จังหวัด) ตามแผนระยะที่ 2 ขณะนี้มีเพียง 4 จังหวัดที่พร้อมเปิด ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
ส่วนกรุงเทพฯ ที่จะดีเดย์ 15 ตุลาคมนี้ ดูภาพรวมๆ แล้วยังไม่น่าวางใจ รัฐต้องมองให้รอบด้าน ทุกมิติ เพราะแม้มีผู้ได้วัคซีนเข็มแรกแล้ว 70% แต่ความสำคัญอยู่ที่เข็ม 2 ที่รัฐจำเป็นต้องปูพรมฉีดให้ได้ครอบคลุม 70% แต่ในปัจจุบันยังได้แค่ 38% เท่านั้น นับว่ายังน้อยเกินไป
เหลือเวลาไม่ถึงเดือน จะถึงเดดไลน์เปิดกรุงเทพฯ รัฐจะทำอย่างไรหากถึงวันที่ 15 ต.ค. ในขณะที่ตัวเลขฉีดเข็ม 2 ไม่ถึง 70% ตามเป้า สิ่งที่รัฐต้องทำ คือ เร่งฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ได้เร็วมากกว่านี้ วัคซีนต้องเพียงพอ ไม่ขาดช่วง แผนรองรับ แผนสำรองต้องเตรียมมองให้ครบทุกมิติ
การเข้าถึงชุดตรวจ ATK ที่เริ่มแจกให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงแล้วตั้งแต่วานนี้ (16 ก.ย) รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องติดตาม ประเมินผล การตรวจด้วยตัวเองเมื่อตรวจแล้วหากติดเชื้อต้อง “แยก กักตัว รักษา” หากเจอติดเชื้อเร็ว ก็รักษาได้เร็ว รัฐต้องติดตามเรื่องนี้ และต้องจำกัดวงการติดเชื้อลงให้ได้ ส่วนหลังจากนั้นควรกระจาย ATK ต่อไปให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ย้ำคำแนะนำ วิธีการใช้ที่ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อให้ได้ผลตรวจที่แม่นยำ
การสร้างการตระหนักรู้ในระยะต่อไปหลังเปิดเมือง เปิดประเทศของรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญมาก เมื่อมีการเปิดประเทศ การเรียนรู้อยู่ร่วมกับโควิดต้องไปให้รอด อยู่ร่วมให้ได้อย่างมีชั้นเชิง อย่ามัวแต่พูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า “การ์ดอย่าตก”
หากหน้าที่สำคัญของรัฐบาล คือ ต้องบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ กำหนดบทลงโทษอย่างจริงจังกับผู้ฝ่าฝืนมาตรการในทุกรูปแบบ สกัดการติดเชื้อเพิ่ม หรือคลัสเตอร์ใหม่ที่อาจเพิ่มขึ้นอีก อย่าได้ละเว้น อย่าให้ผิดพลาดเหมือนอดีต จนกลายเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดอย่างหนักต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้