"เรวัต" มอง "รัฐบาล" เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะได้ประโยชน์ทางการเมือง
"นพ.เรวัต" หนุน ออก พ.ร.ก.แก้กม.โรคติดต่อเพื่อคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ หนุนเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน -รวบอำนาจ ประเมินจังหวะ "นายกฯ" เลิกกฎหมายฉุกเฉิน เพราะได้ประโยชน์ทางการเมือง
นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวต่อกรณีที่มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 พ.ศ.... ว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียดและเนื้อหาของร่างพ.ร.ก.ดังกล่าว แต่หากเป็นไปตามคำแถลงที่ระบุว่าเพื่อคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ไม่ให้ถูกฟ้องจากการรักษาโรคโควิด-19 ตนมองว่าหากแก้ไขตามประเด็นดังกล่าวไม่ขอคัดค้าน แต่หากไม่แก้ไขก็ไม่มีผลใดที่จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ถูกฟ้องได้หากปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพและไม่ประมาทเลินเล่อ เพราะมีกฎหมายและมาตรฐานวิชาชีพรองรับไว้ ทั้งนี้ตนขอฝากข้อคิดว่าแม้จะมีการตราพ.ร.ก.เพื่อคุ้มครองการปฏิบัติงานของแพทย์แล้ว บุคลากรทางการแพทย์ต้องไม่ละเลยการทำหน้าที่ตามมาตรฐานวิชาชีพ และไม่ทำหน้าที่โดยประมาท เพราะคิดว่ามีกฎหมายนิรโทษกรรมความผิดให้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแนวคิดที่จะใช้ พ.ร.ก.โรคติดต่อ แทน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นพ.เรวัต กล่าวว่า ตนเรียกร้องมาตลอดว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อสู้กับโรคระบาดนั้นไม่มีประสิทธิภาพ เพราะตั้งแต่การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 พบความล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่อง ของรัฐบาล และทำให้เกิดการระบาดของโควิดถึง 4 ระลอก จึงสะท้อนว่าการใช้กฎหมายพิเศษนั้นไม่มีประสิทธิภาพ และการรวบอำนาจการจัดการไว้ที่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวนั้นไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงควรคืนอำนาจให้หน่วยงาน
เมื่อถามว่าการเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินจะมีผลใดกับรัฐบาลในทางการเมือง ในช่วงที่หลายฝ่ายประเมินว่าใกล้เข้าโหมดเลือกตั้งหรือไม่ นพ.เรวัต กล่าวว่า เป็นสิ่งที่คิดได้ แต่ตนไม่มั่นใจว่ารัฐบาลใช้เหตุผลใดเป็นนำ้หนักมากกว่ากัน
“ผมเข้าใจว่าภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ควบคุมการรวมตัว การชุมนุมของประชาชน หากยกเลิกไปจะทำให้มีการระดมคน การชุมนุมได้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้กระทำสิ่งที่ขัดกับพ.ร.ก.ฉุกเฉินในการรวมตัวและจัดชุมนุมคน แต่เมื่อยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลอาจคิดว่าได้ประโยชน์ เนื่องจากที่ผ่านมาแม้มีการเรียกร้องให้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่เคยยกเลิก และเป็นกฎหมายที่รัฐบาลหวงแหนมาก” นพ.เรวัต กล่าว.