“ศรีพันวา”ขาดทุน 222 ล.! เปิดอาณาจักร“ปลาวาฬ”ก่อนครหาออกเอกสารสิทธิมิชอบ
เปิดอาณาจักรธุรกิจ “ปลาวาฬ วรสิทธิ” ไฮโซดัง นั่ง กก. 12 บริษัท ส่วน “ศรีพันวา” ปี 63 นำส่งงบการเงิน รายได้รวม 449 ล้าน แต่ขาดทุนสุทธิ 222 ล้าน ก่อนดีเอสไอลุยสอบปมออกเอกสารสิทธิมิชอบ
ชื่อของ “ศรีพันวา” รีสอร์ทหรูในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กลับมาได้รับความสนใจจากสาธารณชนอีกครั้ง
พลันที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ที่เป็นผู้ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สอบสวนรีสอร์ทศรีพันวา แจ้งว่า ดีเอสไอได้แจ้งผลการสอบสวนแล้ว พบข้อมูลอาจเป็นการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยไม่ชอบ
สำหรับ “ศรีพันวา” มี “ปลาวาฬ” หรือนายวรสิทธิ อิสสระ ทายาทคนโตของนายสงกรานต์ อิสสระ และนางศรีวรา อิสสระ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังเมืองไทย เป็นผู้ดูแล
ก่อนหน้านี้ชื่อของ “ปลาวาฬ” ถูกพูดถึงอยู่เนือง ๆ ในประเด็นที่เจ้าตัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง
อ่านข่าว : ย้อนไทม์ไลน์‘ศรีพันวา’หลังDSIแจงผลสอบส่อออกเอกสารสิทธิที่ดินมิชอบ
มาดูในมุมธุรกิจ “ศรีพันวา” กันบ้างว่าเป็นอย่างไรในปัจจุบัน?
กรุงเทพธุรกิจ สืบค้นข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2564 พบว่า “ศรีพันวา” ถูกจดทะเบียนในชื่อบริษัท ศรีพันวา แมเนจเมนท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2556 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 2922/199 อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 ชั้น 10 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ เขตห้วยขวางกรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด โรงแรม
ปรากฏชื่อ นายสงกรานต์ อิสสระ นายวรสิทธิ อิสสระ (ปลาวาฬ) นายดิฐวัฒน์ อิสสระ นางธีราภรณ์ ศรีเจริญวงศ์ เป็นกรรมการ
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 151,767,781 บาท หนี้สินรวม 677,517,161 บาท รายได้รวม449,036,926 บาท รายจ่ายรวม 667,244,655 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 4,478,649 บาท ขาดทุนสุทธิ 222,686,378 บาท
ก่อนหน้านี้นำส่งงบการเงินเมื่อปี 2562 รายได้รวม 649,229,263 บาท รายจ่ายรวม 805,530,090 บาท ขาดทุนสุทธิ 157,541,048 บาท ปี 2561 รายได้รวม 635,067,808 บาท รายจ่ายรวม 710,969,539 บาท ขาดทุนสุทธิ75,921,731 บาท
นอกเหนือจาก “ศรีพันวา” แล้ว “ปลาวาฬ” ยังปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอีกอย่างน้อย 11 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมทุนปัจจุบันหลายพันล้านบาท แบ่งเป็น
ยังดำเนินกิจการอยู่ 8 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ทำธุรกิจ ทรัสต์ ทุน 10 ล้านบาท2.บริษัท ชาญอิสสระ วิภาพล จำกัด ทำธุรกิจ ขายอสังหาริมทรัพย์ ทุน 100 ล้านบาท 3.บริษัท ชาญอิสสระ เรสซิเดนท์จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย ทุน 140 ล้านบาท 4.บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ทำธุรกิจประกอบกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทุน 420 ล้านบาท 5.บริษัท ร่วมอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์จำกัด ทำธุรกิจ โรงแรมและรีสอร์ท ทุน 560 ล้านบาท
6.บริษัท สตาร์ เอ็กซ์ตรีม จำกัด ทำธุรกิจการให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ทุน 150 ล้านบาท 7.บริษัท สยาม แบรนด์ส จำกัด ทำธุรกิจซื้อขายและจำหน่ายสินค้าทุกประเภทผ่านช่องทางออนไลน์ ทุน 1 ล้านบาท 8.บริษัท อิสสระ จุนฟา จำกัด ทำธุรกิจการให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ทุน 920 ล้านบาท
เสร็จชำระบัญชี 2 แห่ง ได้แก่ 9.บริษัท ฮิดะ กริล จำกัด ทำธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ทุน 13 ล้านบาท10.บริษัท ซี.ไอ.วี. ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด ทำธุรกิจกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก ทุน8.2 ล้านบาท
อีก 1 แห่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) ได้แก่ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด(มหาชน) หรือ CI นำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2545 (เริ่มซื้อขาย 16 ธ.ค. 2545) ทุนปัจจุบัน1,386,574,624 บาท (ราว 1.3 พันล้านบาท) ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
ข้อมูลจาก ต.ล.ท. เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2564 มีกรรมการบริษัทดังนี้ นาง ศรีวรา อิสสระ ประธานกรรมการ นายสงกรานต์ อิสสระประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ และกรรมการ นาง ลินดา ประเสริฐสม กรรมการนาง ธีราภรณ์ ศรีเจริญวงศ์ กรรมการ นาย วรสิทธิ อิสสระ (ปลาวาฬ) กรรมการ นาย พิสุทธิ์ เดชะไกศยะ กรรมการอิสระ และประธานคณะกรรมการตรวจสอบ นาย วิทิต รัชชตาตะนันท์ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ นายพินิจ พัวพันธ์ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ นาย ประเวศวุฒิ ไรวา กรรมการอิสระ
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นคนสกุล “อิสสระ” และ “จุฬางกูร” ได้แก่ นาย สงกรานต์ อิสสระ ถือหุ้นใหญ่สุดจำนวน 313,634,494 หุ้น (29.41%) รองลงมา นาย ทวีฉัตร จุฬางกูร จำนวน 250,533,900 หุ้น (23.49%) นอกจากนี้ยังมี บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ถือ 1.98% และบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ถือ1.98% ด้วย
นำส่งงบการเงินล่าสุด ไตรมาส 2/2564 (เมื่อ 30 มิ.ย. 2564) มีรายได้รวม 965.38 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 156.11 ล้านบาท ส่วนปี 2563 นำส่งงบการเงิน (สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2563) มีรายได้รวม 1,429.02 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ328.23 ล้านบาท
ทั้งหมดคือข้อมูลอาณาจักรธุรกิจของ “ปลาวาฬ” โดยเฉพาะ “ศรีพันวา” ที่ถูก “ดีเอสไอ” เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเรื่องเอกสารสิทธิอยู่ตอนนี้
อย่างไรก็ดีกระบวนการทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ดังนั้นผู้ถูกกล่าวหาทุกรายยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่