"ชัยวุฒิ"ตรวจน้ำท่วมอ่างทอง-สิงห์บุรี เตือนพายุจ่อเข้า ฝนหนัก น้ำเพิ่มสูง
"ชัยวุฒิ" ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม สถานการณ์น้ำท่วม "อ่างทอง-สิงห์บุรี" พบ พื้นที่การเกษตรเสียหาย จ่อ เยียวยาต่อไป เผย กำนัน-ผญบ. ประสาน แก้ปัญหาที่อยู่อาศัย อุตุฯ เตือน 8-9 ต.ค. พายุก่อตัว อาจมีฝนหนัก เร่งแจ้งเตือนปชช. ระวังน้ำสูงขึ้นบางพื้นที่
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชน ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้การต้อนรับ จากนั้นได้เดินทางไปยังจ.สิงห์บุรี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ซึ่งมีนายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีให้การต้อนรับและร่วมติดตามสถานการณ์ด้วย
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีความห่วงใยประชาชน จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีทุกคนเป็นตัวแทนรัฐบาล ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รับรู้ความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัย ติดตามการดูแลแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่ และตรวจตราดูพื้นที่น้ำท่วมเพื่อหารือแนวทางกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการตรวจสอบและช่วยเหลือการเยียวยาผู้ประสบภัย
“ในส่วนของ จ.อ่างทอง ได้รับรายงานจากผู้ว่าฯ วีรเศักดิ์ ว่าที่ป่าโมก มีชาวบ้านกว่า 1,000 หลังคาเรือนริมแม่น้ำ ถูกน้ำท่วมหมดเลย ก็ต้องมีการเยียวยาช่วยเหลือต่อไป และยังมีพื้นที่การเกษตรเสียหายหลายพื้นที่ ชาวนาก็ไม่ได้เกี่ยวข้าว ไม่มีรายได้กัน ก็คงเป็นหน้าที่ของพวกเราต้องมาเยียวยาช่วยเหลือประชาชนต่อไป” นายชัยวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมพื้นที่พบว่า จ.อ่างทอง เป็นพื้นที่ริมตลิ่งตลอดแนว ดังนั้นถ้ามีโครงการสร้างเขื่อนระบบป้องกันน้ำท่วมได้ในชุมชนต่างๆ ก็จะช่วยลดผลกระทบให้กับประชาชนได้ ซึ่งทางรัฐบาลก็คงมีการเร่งรัดติดตามงบประมาณต่อไปให้กับทางจังหวัด
ขณะที่ ในการลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม รวม 3,330 หลังคาเรือน
“วันนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันลงมาดูแลพี่น้องประชาชน ถ้ามีโครงการอะไรที่จะช่วยได้หรือประชาชนในพื้นที่ต้องการการเยียวยาช่วยเหลืออย่างไร ช่วยกันรวบรวมข้อมูลส่งมาให้รัฐบาล เชื่อว่ารัฐบาลเข้าใจและพร้อมที่จะดูแลโดยตลอดอยู่แล้ว เช่นเดียวกับในทุกสถานการณ์ความเดือดร้อนที่ผ่านมา” นายชัยวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ของทั้งสองจังหวัดพบว่าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เป็นพื้นที่ทำนาทำการเกษตร จึงส่งผลให้เกษตรกรขาดรายได้จากพืชผลที่เสียหายและเก็บเกี่ยวไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลก็จะดำเนินการช่วยเหลือ ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จะช่วยประสานเข้ามา เพื่อให้มีงบประมาณมาช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ รายงานการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าวันที่ 8-9 ต.ค.นี้ จะมีการก่อตัวของพายุที่ฟิลิปปินส์อาจส่งผลต่อประเทศไทย อาจทำให้มีฝนตกหนักในช่วงปลายสัปดาห์หน้า จึงต้องเร่งเตือนประชาชน ให้ระมัดระวัง เพราะอาจมีน้ำท่วมขึ้นสูงในบางพื้นที่
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้รับรู้สถานการณ์น้ำ เพื่อป้องกันให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดกับประชาชน โดยสั่งการผ่านกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดให้ติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลแจ้งเตือนภัยระดับต่างๆ ผ่านเครือข่ายกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติน้ำท่วมได้อย่างทันการณ์ รวมทั้งสั่งการหน่วยงานใต้สังกัดในพื้นที่ให้ประสานความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้ทันท่วงทีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน