เปิดแผล “เพื่อไทย” ถูกร้องยุบพรรค-คดีข้าวจีทูจีเก๊ภาค 2 เสี่ยงสุด?
เงื่อนปมสำคัญหาก “นายใหญ่แดนไกล” เป็นผู้สั่งการในโครงการระบายข้าวจีทูจีจริง จะเข้าข่ายตามหลักการ “ครอบงำพรรค” ที่นายวิษณุ พูดไว้หรือไม่? ท้ายที่สุดคดีนี้มีบทสรุปใน “ทางลบ” ขึ้นมา “พรรคเพื่อไทย” เข้าขั้น “เสี่ยงหนัก” ยิ่งกว่า “ขับไล่ ส.ส.-คลิปลับ” เสียอีก
“พรรคเพื่อไทย” กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เพลี้ยงพล้ำลำบากทางการเมืองอีกครั้ง หลังจาก “คลิปลับ” ถูกเผยแพร่ในไลน์กลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ปรากฎชื่อนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แกนนำ ส.ส.อีสาน หารือ “โทนี่ วู้ดซัม” หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในลักษณะ “โยนหินถามทาง” เรื่องว่าที่ “ผู้นำพรรค” คนใหม่ และแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
หล่นชื่อ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” อดีตภริยานายทักษิณ ออกมา ทว่า “ทักษิณ” ปฏิเสธทันควัน อ้างว่า คุณหญิงพจมานไม่ขอลงเล่นการเมือง และไม่ชอบการปราศรัย
แต่ “ทักษิณ” ยังเปรยในช่วงท้ายคลิปว่า มีแนวทางในการต่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าไว้แล้ว และเที่ยวนี้ต้องชนะแลนสไลด์ เพราะว่าชนะธรรมดา “มัน” ไม่ให้เป็นรัฐบาล
พลันที่ “คลิปลับ” ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีการลบคลิปดังกล่าวในไลน์กลุ่มในเวลาต่อมา แต่ไม่ทันแล้วเมื่อมีสื่อหลายสำนักนำเสนออกสู่สาธารณะ นำไปสู่ซีกรัฐบาลรวบรวมพยานหลักฐาน และอาจร้องเรียนถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ “ยุบพรรค” โดยอ้างว่า อาจมีการ “ครอบงำพรรค” เกิดขึ้น?
ทำเอา “คนเพื่อไทย” ร้อน ๆ หนาว ๆ หวั่นว่าจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำร้อยเหมือน “พรรคไทยรักไทย” และ “พรรคพลังประชาชน” เกิดขึ้นอีก?
โดยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 45 ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 28, 29 และบทกำหนดโทษมาตรา 92 (3) และมาตรา 108 กำหนดไว้ชัดเจนสรุปได้ว่า ห้ามมิให้ “คนนอก” มีอำนาจครอบงำพรรค หากฝ่าฝืนอาจถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “ยุบพรรค” และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค รวมถึงบุคคลที่กระทำตามข้อกล่าวหาอาจโดนโทษจำคุก 5-10 ปี ปรับ 1-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าว : กางกฎเหล็ก กกต.! “คลิปลับ” คนเพื่อไทยหารือ “ทักษิณ” เข้าข่ายยุบพรรคหรือไม่?
แม้ว่า “ครุฑกฎหมาย” นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะออกมาอธิบายว่า “คลิปลับ” ดังกล่าวอาจไม่ถึงขั้นยุบพรรคก็ตาม เพราะลักษณะเหมือนการพูดคุยกันในที่สาธารณะ
แต่นายวิษณุ เล่าถึงหลักการ “ครอบงำพรรค” ว่า มีการวินิจฉัยไว้แล้วคือ การใช้อิทธิพลโดยที่ตัวเองไม่มีส่วนได้เสีย ไม่ได้เป็นสมาชิก และไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แล้วไปชี้นำให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม
ส่วนเรื่องนี้จะเข้าข่ายครอบงำหรือไม่นั้น นายวิษณุตอบสั้น ๆ ว่า “ไม่ทราบ”
อ่านข่าว : "วิษณุ"เผยคลิปลับ"ทักษิณ"ไม่ถึงขั้นยุบพท. ชี้ คุยกันธรรมดาในที่สาธารณะ
ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ระบุถึงกรณีนี้ว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและกฎหมาย แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นข้อเท็จจริง หากยังไม่รู้ข้อเท็จจริง ก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการร้องเรียนกล่าวหา “ยุบพรรค” เพื่อไทย เอาแค่กรณีเมื่อไม่นานมานี้ นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ร้องต่อ กกต. ขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย กรณีการขับไล่นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี โดยอ้างว่าเป็นเพราะโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มาแล้ว
โดยนายสนธิญา หยิบยกข้อกฎหมายว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 114, 124 ระบุว่า การลงคะแนนเสียงเป็นเอกสิทธิของ ส.ส. และมาตรา 224 (5), (6) ระบุให้อำนาจ กกต. พิจารณายุบพรรคได้
ไม่ต้องไปนับไล่ย้อนไปไกล เอาแค่ 2 กรณีข้างต้น อาจยังไม่ “ชัดเจน” ตาม “หลักการ” ที่นายวิษณุ เน้นย้ำกับสื่อมวลชนมากนัก?
แต่ยังมีกรณีหนึ่งที่หลายคนอาจลืมไปแล้วคือ คดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ภาค 2 ซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงษ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย น้องสาวนายทักษิณ ด้วย
โดยตามทางไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีเอกชนบางรายซึ่งถูกกันเป็นพยานคดีนี้ อ้างว่า เคยบินไปพบ “นักการเมืองใหญ่” ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเจรจาซื้อขายข้าว โดยนักการเมืองใหญ่รายนี้บอกว่า ให้มาซื้อกับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร (เสี่ยเปี๋ยง จำเลยคดีข้าวจีทูจีล็อตแรก ปัจจุบันติดคุกอยู่) ได้เลยโดยตรง
ขณะเดียวกันมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่า “จำเลยสำคัญ” คดีระบายข้าวจีทูจีเก๊ “ซัดทอด” ว่า “นายใหญ่แดนไกล” เป็นคนโฟนอินเข้ามาสั่งการเกี่ยวกับการระบายข้าวจีทูจี ให้แก่นายบุญทรง และ “บิ๊กเพื่อไทย” ร่วมฟังด้วย โดยมีการมอบคลิปวีดีโอเป็นพยานหลักฐานชิ้นสำคัญให้แก่ ป.ป.ช. ไปไต่สวนแล้ว
อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ยังต้องรอพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงกันต่อไป เพราะ ป.ป.ช. มิได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่ามีพยานหลักฐานชิ้นนี้จริงหรือไม่?
กล่าวสำหรับคดีระบายข้าวจีทูจีเก๊ภาค 2 ป.ป.ช. มีการแจ้งข้อกล่าวหานักการเมือง อดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยเอกชน อย่างน้อย 71 ราย และพบเส้นทางเงินในคดีนี้ประมาณ 9.6 หมื่นล้านบาท ป.ป.ช. ดำเนินการอายัดแคชเชียร์เช็คไว้หลายร้อยใบ มูลค่ากว่า 1.8 พันล้านบาทไว้ตรวจสอบแล้ว
เงื่อนปมสำคัญหาก “นายใหญ่แดนไกล” เป็นผู้สั่งการในโครงการระบายข้าวจีทูจีจริง จะเข้าข่ายตามหลักการ “ครอบงำพรรค” ที่นายวิษณุ พูดไว้หรือไม่?
เรียกได้ว่าหากท้ายที่สุดคดีนี้มีบทสรุปใน “ทางลบ” ขึ้นมา “พรรคเพื่อไทย” เข้าขั้น “เสี่ยงหนัก” ยิ่งกว่ากรณี “ขับไล่ ส.ส.-คลิปลับหาแคนดิเดตนายกฯ” ข้างต้นเสียอีก!