"เพื่อไทย-ก้าวไกล" ชิง 3 เจน X-Y-Z “รุ่นใหม่” โจทย์ใหญ่แลนด์สไลด์
"เพื่อไทย" จากพรรคการเมืองที่ไม่มุ่งเน้นฐานเสียง “คนรุ่นใหม่” มาให้ความสำคัญกับฐานเสียงทุกรุ่น-ทุกวัย ตั้งแต่เจเนอเรชั่น X-Y-Z
การปรับทัพ-ปรับโครงสร้างของพรรคเพื่อไทย (พท.) มีกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม “โทนี่ วู้ดซัม” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลือกเดินเกมเร็ว รีแบรนด์เพื่อไทย จากพรรคการเมืองที่ไม่มุ่งเน้นฐานเสียง “คนรุ่นใหม่” มาให้ความสำคัญกับฐานเสียงทุกรุ่น-ทุกวัย ตั้งแต่เจเนอเรชั่น X-Y-Z
จากทุนเดิมยี่ห้อ “ทักษิณ” ปักธง-ปักหมุดอยู่ในใจของคนภาคเหนือ-ภาคอีสาน ซึ่งการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ยืนยันได้อย่างดีว่า “ยี่ห้อทักษิณ” ยังขายได้แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม จะครองอำนาจหลังรัฐประหารปี 2557 มาอย่างยาวนาน พร้อมวางเครือข่าย คสช.ลงไปฝังรากอย่างแน่นหนา แต่ไม่สามารถเอาชนะ “ทักษิณ” ในแผ่นดินภาคเหนือ-ภาคอีสานได้
ทว่า การก่อกำเนิดขึ้นอดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” “ปิยบุตร แสงกนกกุล” “พรรณิการ์ วานิช” ต่อเนื่องมาจนพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ทำให้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” หวั่นใจ-หวั่นไหว ว่าคะแนนนิยมจากภาคเหนือ-ภาคอีสานจะโดนแบ่ง-โดนแชร์ไป
ขณะเดียวกัน “ทักษิณ-เพื่อไทย” รู้ดีว่าหากปล่อยให้ “คณะก้าวหน้า” ผนึกกำลังกับ “พรรคก้าวไกล” ฐานเสียงที่เคยแข็งแกร่งอาจจะโดนตีแตกจนหมด “ทักษิณ” อาจจะเดินไปถึงจุดเสื่อม ทั้ง “ทักษิณ-เพื่อไทย” จึงต้องวางเกม-วางแผนใหม่ เพื่อสกัดกั้น “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล”
โดยเฉพาะฐานเสียง “คนรุ่นเก่า-แฟนคลับ” ที่ยึดติดกับแบรนด์ของ “ทักษิณ” มาอย่างยาวนาน แต่ “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” พยายามลงพื้นที่ภาคอีสานถี่ยิบ เลือกเจาะจังหวัดที่พอจะแบ่งแต้มมาจาก “ทักษิณ-เพื่อไทย” ได้บ้าง”
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทัพก้าวไกลจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564 ที่ จ.ขอนแก่น ก่อนลงพื้นที่เข้าหามวลชนแบบเจาะลึก จนคู่แข่งเกิดอาการหวั่นใจไม่น้อย
“พิธา” ส่งสารออกมาว่า “ผมคิดว่าหากสู้กันด้วยใจ ทุกเขตสำคัญหมด ไม่อย่างนั้นคนทำงานจะเสียกำลังใจ ดังนั้น 116 เขตที่อยู่ในภาคอีสานผมตั้งใจจะไปให้ครบทุกเขต ไม่ว่าจะเป็นเขตยุทธศาสตร์หรือไม่”
สัญญาณท้ารบของ “พิธา” ดังถึงดูไบ เพราะเดิมพันการเลือกตั้งครั้งหน้ายังอยู่ที่ภาคอีสาน “ทักษิณ-เพื่อไทย” จึงเลือกจัดประชุมใหญ่ที่ จ.ขอนแก่น เหมือนกัน เพื่อสื่อสารให้ชัดเจนว่าไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องชาวอีสาน
ในสนามภาคอีสาน “ทักษิณ-เพื่อไทย” ยังได้เปรียบ “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” อยู่มากโข เพราะเคยผ่านบทพิสูจน์แล้วว่านโยบายที่ให้คำมั่นสัญญากับประชาชน “ทักษิณ-เพื่อไทย” สามารถทำได้จริง และนโยบายเกือบทั้งหมดถูกใจ-โดนใจคนอีสาน
ด้าน “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” เลือกจิ้มไปที่จุดอ่อนของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” กรณียุทธศาสตร์ “สู้ไปกราบไป” ที่ยากจะสลัดภาพลักษณ์ดังกล่าวทิ้ง “ธนาธร-ปิยบุตร” ทายใจว่าคนอีสานส่วนใหญ่ “หัวใจสีแดง” ที่จำใจต้องเลือก “ทักษิณ-เพื่อไทย” มาทุกครั้ง เพราะไม่มีพรรคการเมืองค่ายไหนจะตอบสนองสิ่งที่หัวใจเรียกร้องได้
แต่เมื่อทำคลอด “อดีตพรรคอนาคตใหม่” ต่อเนื่องมายัง “พรรคก้าวไกล” ที่มีจุดยืนชัดเจนเกี่ยวกับสถาบัน จึงมีโอกาสสูงที่พรรคก้าวไกลที่แม้โลโก้จะสีส้ม แต่ความต้องการไม่แตกต่างจากคนหัวใจสีแดง
ดังนั้นการขับเคี่ยวในพื้นที่ของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ที่จะต้องสู้กับ “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” ดุเดือดอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน “ทักษิณ-เพื่อไทย” ก็เปิดเกมรุกแย่งฐานเสียงของ “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” เช่นกัน โฟกัสหลักไปที่ “คนรุ่นใหม่” หรือนิวโหวตเตอร์ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะหากแย่งชิงฐานเสียง “คนรุ่นใหม่” มาไม่ได้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ก็ยากที่จะชนะแบบแลนด์สไลด์อย่างที่คาดหวังเอาไว้
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา “ทักษิณ-เพื่อไทย” จึงเปิดตัว “คนรุ่นใหม่” ที่จะเข้ามามีบทบาทภายในพรรคเพื่อไทย โฟกัสหลักไปที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่เข้ามารับบทประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้ “ทักษิณ” ยังไฟเขียวให้คน Gen-X อย่าง "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว"ส.ส.น่าน หนึ่งในดาวสภาฯ เข้ามานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มอบหมายให้ “ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” ส.ส.กทม. ทำหน้าที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ทุกอย่างรีแบรนด์เพื่อซับพอร์ตงานให้สอดคล้องกับ “คนรุ่นใหม่”
หลังจากนี้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะปล่อยอีเวนท์ออกมาในทุกเดือน โดยให้ “คนรุ่นใหม่” ของพรรคเพื่อไทย ทยอยออกมาเสนอแนวทางที่ตรงกับความต้องการของ “คนรุ่นใหม่” ผ่านสื่อมากยิ่งขึ้น โดยมี “แพทองธาร” เป็นแม่ทัพหลัก ซึ่งจะลงพื้นที่เจาะกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะ พร้อมกับนำคอนเทนท์มาผลิตซ้ำ ขยายผลในโซเชียลมีเดีย
ทว่าจุดอ่อนของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ยังอยู่ที่ยุทธศาสตร์ “สู้ไปกราบไป” เช่นกัน เพราะอย่าลืมว่า “คนรุ่นใหม่” ในโซเชียลมีเดียจัดอยู่ในขบวนการเดียวกับ “ม็อบ 3 นิ้ว” ซึ่งเป็นฐานเสียงของ “พรรคก้าวไกล”
จุดอ่อนดังกล่าวของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะโดนแฟนคลับของ “ม็อบ 3 นิ้ว” นำไปขยายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อตรึงคะแนนเสียงให้กับพรรคก้าวไกล ดังนั้นจึงเป็นโจทย์ยากที่ “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะชิงแต้ม “คนรุ่นใหม่” จากพรรคก้าวไกล
จะว่าไปแล้ว “ยี่ห้อทักษิณ” เรื่องการตลาด ปั้นภาพลักษณ์ มีลูกเล่นให้พลิกแพลงได้ตลอดเวลา “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” จึงประมาทการเมืองบนดิน ใต้ดิน ของทักษิณไม่ได้เช่นกัน
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์