เฉียดพันล้าน! "ผู้รับเหมา" กวาดสร้างสนามฟุตซอล "วิรัช" แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง?
คดีสร้าง “สนามฟุตซอลฉาว” ไม่ใช่แค่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ไม่ใช่แค่กรณีของ “วิรัช” เท่านั้น แต่ยังมี “นักการเมืองระดับชาติ” อีกจำนวนหนึ่ง เข้าไปพัวพัน และมีสัมพันธ์กับกลุ่ม “ผู้รับเหมา” ในพื้นที่
ประเด็นองค์คณะผู้พิพากษาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่ง “ประทับรับฟ้อง” คดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพวกรวม 87 ราย คดีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอลในพื้นที่ จ.นครราชสีมา รวม 7 สำนวน
ส่งผลให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ พร้อมด้วย “เครือญาติ” ได้แก่ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พปชร. ภรรยานายวิรัช และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา พปชร. น้องสาวนางทัศนียา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที เป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 (วิ.อม.) มาตรา 11 ระบุว่า หากศาลประทับรับฟ้องแล้ว ให้จำเลยยุติการปฏิบัติหน้าที่ยกเว้นแต่ศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอไปแล้วว่า “คดีสร้างสนามฟุตซอลฉาว” ไม่ใช่แค่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ไม่ใช่แค่กรณีของ “วิรัช” เท่านั้น แต่ยังมี “นักการเมืองระดับชาติ” อีกจำนวนหนึ่งเข้าไปพัวพัน และมีสัมพันธ์กับกลุ่ม “ผู้รับเหมา” ในพื้นที่ ก่อสร้างสนามฟุตซอลดังกล่าวด้วย
ในส่วนพื้นที่ภาคเหนือ มี “ผู้รับเหมา” อย่างน้อย 3 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับ “อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี” กระทรวงหนึ่ง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยกวาดสัญญาก่อสร้างไปอย่างน้อย 28 แห่ง รวมวงเงินเฉียดหลักร้อยล้านบาท
ภาคอีสาน มีคีย์แมนสำคัญชื่อว่า “ยี” ที่เป็นคนเดินงานดีลกับบรรดาเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 9 แห่ง เกี่ยวพันกับอดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ชื่อดังหลายคน กวาดงานไปหลายสัญญาวงเงินหลายร้อยล้านบาทเช่นเดียวกัน
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน แบ่งเป็น 2 คณะหลัก รวมชื่อผู้ถูกกล่าวหาหลายร้อยคน แบ่งเป็นโซนพื้นที่ภาคเหนือ มีอย่างน้อย 15 สำนวน ในพื้นที่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.อุตรดิตถ์ จ.น่าน จ.พะเยา จ.พิษณุโลก และ จ.ตาก และโซนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) มีอีกนับสิบสำนวน อย่างน้อยใน 3 พื้นที่ ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.มุกดาหาร และ จ.อำนาจเจริญ
อ่านข่าว: สรุป 9 ปีคดี “ฟุตซอล” ฉาว ไม่ใช่แค่ “วิรัช” นักการเมืองดังจ่อคิวเพียบ?
อย่างไรก็ดีกรณีของ “วิรัช” เป็นแค่ “ยอดภูเขาน้ำแข็ง”?
มาดูรายละเอียดของแต่ละพื้นที่กันบ้างว่า “ผู้รับเหมา” รายใดเป็นคู่สัญญาก่อสร้างสนามฟุตซอลไปเท่าไหร่
- 3 บริษัทสร้างสนามฟุตซอลโซนภาคเหนือ 647 ล้าน-โยง “อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี”
1.บริษัท ลีกาฟุตซอล จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในจังหวัดต่างๆ โซนภาคเหนือ และภาคอีสาน รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในการเข้าไปก่อสร้างสนามฟุตซอล ปรับปรุงสนามฟุตซอล และขายครุภัณฑ์สนามฟุตซอล ระหว่างปี 2555-2557 รวมกันอย่างน้อย 78 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงิน 225,318,519 บาท
2.บริษัท ออคตากอน มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในจังหวัดต่างๆ โซนภาคเหนือ และภาคอีสาน รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และกรมพลศึกษา ในการเข้าไปก่อสร้างสนามฟุตซอล ปรับปรุงสนามฟุตซอล และขายครุภัณฑ์สนามฟุตซอล ระหว่างปี 2555-2557 รวมกันอย่างน้อย 69 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงิน 296,980,013 บาท
3.บริษัท อินแทรค แอนด์ โค จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในจังหวัดต่างๆ โซนภาคเหนือ และภาคอีสาน รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และกรมพลศึกษา ในการเข้าไปก่อสร้างสนามฟุตซอล ปรับปรุงสนามฟุตซอล และขายครุภัณฑ์สนามฟุตซอล ระหว่างปี 2555-2557 รวมกันอย่างน้อย 50 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงิน 125,559,619 บาท
รวมทั้ง 3 บริษัทเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐอย่างน้อย 197 สัญญา รวมวงเงิน 647,858,151 บาท
โดยทั้ง 3 บริษัทดังกล่าว มีความสัมพันธ์ในฐานะเป็น “บริษัทเก่า” ที่มี “อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี” กระทรวงหนึ่ง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยเข้าไปถือหุ้นใหญ่
@10 เอกชนโซนอีสานกวาดงาน 321 ล้าน-เชื่อม “อดีต ส.ส.เพื่อไทย” ชัยภูมิ-อุบลฯ
1.บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ 4 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) เป็นการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์กับโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 19,986,000 บาท
2.บริษัท ที วี เอ็น เทคโนโลยี จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ 15 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยเป็นการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ และก่อสร้างลานกีฬา กับ อปท. และโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 46,085,200 บาท
3.บริษัท วอร์เตอร์ ฮีล แลนด์ จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ 9 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยเป็นการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 32,437,500 บาท
4.ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) จีโอโอดี เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ 28 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยเป็นการก่อสร้างสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ และก่อสร้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 104,473,300 บาท
5.บริษัท แกรนด์สยาม 98 จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ 9 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยเป็นการปรับปรุงสนามกีฬาฟุตซอล และขายครุภัณฑ์กีฬาฟุตซอลของโรงเรียนสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 33,859,090 บาท
6.หจก.เอ็มเอไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 6 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยเป็นการปรับปรุงสนามกีฬาโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 30,077,500 บาท
7.บริษัท วายอีอี จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 9 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยเป็นการปรับปรุงสนามกีฬา และปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ฟุตซอล โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 22,495,500 บาท
8.บริษัท สปอร์ต แอนด์ เกม จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 9 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยเป็นการปรับปรุงสนามกีฬาฟุตซอล พร้อมอุปกรณ์ โรงเรียนในสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 17,884,200 บาท
9.บริษัท วายเอเอ็ม บิสซิเนส จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 6 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยเป็นการซื้อสนามฟุตซอลพื้นยางกันกระแทกในร่มพร้อมอุปกรณ์ให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม. 2 สัญญา และซื้ออุปกรณ์ปรับปรุงสนามฟุตซอล และสนามกีฬา ให้กับโรงเรียนสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2554-2557 รวมวงเงิน 13,711,960 บาท
10.หจก.ต.เขมราฐ คอมเมอร์ส เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 2 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) เป็นการจ้างปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์โรงเรียนสังกัด สพฐ. ระหว่างปี 2555-2557 รวมวงเงิน 4,555,000 บาท
รวม 10 เอกชนภาคอีสานเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 106 สัญญา วงเงิน 321,465,250 บาท
โดย 9 เอกชนข้างต้นมีความสัมพันธ์โยงกับอดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ส่วน หจก.ต.เขมราฐ คอมเมอร์ส ปรากฏชื่อลูกของอดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เข้าไปถือหุ้นใหญ่
หากนับรวม 13 “ผู้รับเหมา” ทั้งภาคเหนือ-อีสานรวมกัน เท่ากับว่ากวาดงานก่อสร้าง-ปรับปรุง สนามกีฬา-สนามฟุตซอล อย่างน้อย 303 สัญญา รวมวงเงิน 969,323,401 บาท
เป็นอีกเงื่อนปมที่ยังอยู่ “ใต้ภูเขาน้ำแข็ง” และ ป.ป.ช. จำเป็นต้องทำให้ “กระจ่างชัด” โดยเร็ว?
อย่างไรก็ดี กลุ่มเอกชน และผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดในคดีดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ดังนั้นจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และสามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับ ป.ป.ช. ได้