"ปชป." โว อย่าแปลกใจ "จุรินทร์" ติดโผขึ้นแท่น "นายกฯ" อันดับ 1

6 พ.ย.2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการคณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การลาออกของที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม มสธ. ศาสตราจารย์ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ หลังปรากฎผลโพลล์ว่า นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ มีคะแนนนิยมอันดับ 1 เหมาะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ว่าไม่ใช่ครั้งเดียวที่ นายจุรินทร์ ติดโผเพราะยังมีอีกหลายสำนักโพลล์ที่มีรายชื่อนายจุรินทร์ติดอันดับความนิยมในลำดับต้นๆ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ

อ่านข่าว : มีเลือกตั้งค่อยเปิดตัว “จุรินทร์” ยัน ปชป.เปิดกว้างคนใน-นอกลงผู้ว่าฯ กทม.

ขณะที่รองโฆษกพรรค นางดรุณวรรณ  ชาญพิพัฒนชัย ชี้แจงว่าพรรคไม่ทราบถึงกระบวนการสำรวจแต่การสำรวจความเห็นจากประชาชนกว่า 10,000 คนนั้น ก็สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือ ก่อนจะอ้างอิงว่าเมื่อเห็นหัวข้อการทำโพลล์ก็จะเห็นได้ว่าผลหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว เช่น ถามว่าหัวหน้าพรรคการเมืองใด ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย  ซึ่งก็สอดคล้องกับจุดยืนของพรรคอยู่แล้วส่วนการแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกของผู้ทำโพลล์เป็นเรื่องของผู้จัดทำโพลเอง 

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงบุคคลที่จะเข้ามาเป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้ผู้ว่า กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่ามีบุคคลที่จะลงสมัครแล้วตามที่หัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และรองหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ย้ำไว้ก่อนหน้านี้ เพียงแต่รอจังหวะที่จะเปิดเผยรายชื่อ ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อเปิดชื่อออกมา เชื่อว่าจะเป็นความคาดหวังของคนกทม. ซึ่งคนนี้เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์ 

ส่วนที่นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ทักท้วงว่า ว่าที่แคนดิเดตผู้ว่า กทม.เป็นคนนอกนั้น นายภูมิสรรค์ชี้แจงว่าในอดีตที่ผ่านมาก็มีบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นแคนดิเดตผู้ว่าฯและได้รับการตอบรับคือนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และไม่จำเป็นว่าคนที่จะทำงานการเมืองต้องเป็นส.ส.เท่านั้น โดยชี้ว่าคนที่จะเป็นแคนดิเดตผู้ว่าฯของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องศึกษาถึงความผู้พันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนในหรือคนนอก

และเชื่อมั่นว่าทีมทำงานของผู้ว่ากทม. จะเป็นทีมที่ต้องติดตามเพราะจะรวมบุคคลที่หลากหลายโดยเฉพาะมีความสำคัญที่จะเชื่อมโยงกับหัวเมืองและมีความสำคัญเทียบเท่ากับทีมเศรษฐกิจของนายจุรินทร์ที่จะเปิดตัวในอนาคต 

นอกจากนี้นายภูมิสรรค์ ยังกล่าวว่าและขณะนี้เป็นช่วงขาขึ้นของพรรคจึงเรียกร้องให้คนในพรรคสามัคคีกัน มากกว่า ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ ความเห็นต่างทางการเมืองในพรรคไม่จำเป็นต้องมีการเคลียร์ใจกันเพราะประชาธิปัตย์กว่า 70 ปีที่ผ่านมามีเรื่องเช่นนี้ตลอด เช่น กลุ่ม 10 มกรา พร้อมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครที่จะสั่งได้ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน  แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกาลเทศะ ในการวิพากษ์ เพราะขณะนี้หัวหน้าพรรคถือเข็มทิศของพรรคอยู่