9พ.ย.มาแน่! “จุรินทร์”เร่งธ.ก.ส.จ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าวงวดแรก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ (ผู้การแต้ม) พร้อมคณะ ให้สัมภาษณ์ประเด็นข้าวและปาล์มน้ำมันภายหลังจากมอบ “ถุงน้ำใจ”เพื่อ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับ ผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านตัวแทนชุมชน ที่ ชุมชนชายคลองบางบัว แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

นายจุรินทร์ กล่าวว่าสำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวตนขอย้ำ ขณะนี้ผ่าน ครม.แล้ว และโอนเงินส่วนต่างงวดแรกให้ในวันที่ 9  พ.ย.ที่จะถึงนี้โดยตนกำชับกรมการค้าภายในและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.ก.ส.โอนเงินส่วนต่างทันที วันที่ 9 พ.ย.จากนั้นจะเป็นงวดทุกสัปดาห์ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรายใดแจ้งแล้วว่าจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ จะโอนวันที่ 9 พ.ย. ถัดไปจะเป็นไปตามที่ได้แจ้งไว้ว่าจะเก็บเกี่ยวเมื่อไหร่
 

สำหรับประเด็นปัญหาข้าว ฤดูกาลผลิตที่ผ่านมาที่ค้างอยู่ในสต๊อก เพราะปริมาณความต้องการบริโภคลดลง ส่วนหนึ่งอาจมาจากนักท่องเที่ยวที่ขาดหายไปด้วย เพราะนักท่องเที่ยวประมาณ 10% ที่มาบริโภคข้าวในประเทศไทย ทำให้ปริมาณความต้องการบริโภคข้าวในประเทศลดลง กระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหาด้วยการพยายามเร่งรัดการส่งออกแต่ช่วงที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรคตอนต้นปี ค่าเงินบาทแข็งมาก ทำให้ข้าวแข่งขันในตลาดโลกไม่ได้เพราะผู้ซื้อรู้สึกว่าแพงมาก

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ก็จะเปิดจุดรับซื้อโดยให้ทีมเซลล์แมนจังหวัดเป็นผู้พิจารณา

สำหรับราคาปาล์มที่สูงขึ้นในวันนี้ไม่ได้สูงด้วยความบังเอิญ เราประกันรายได้ปาล์มกิโลกรัมละ 4 บาท แต่วันนี้ปาล์มแตะ 9-10 บาทแล้ว ซึ่งราคาปาล์มที่ดีขึ้นด้วยเหตุผล 3 ข้อ จากการบริหารจัดการ

1.ส่งเสริมให้เอาน้ำมันปาล์มไปผสมดีเซลทำเป็น B5 B7 B20 เป็นต้น

2.กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้านทางบกเพราะการนำเข้าทางบวกก่อให้เกิดการลักลอบนำเข้าและน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้านไหลมารวมกันอยู่ในประเทศไทยทำให้กดราคาปาล์มในประเทศ

3.การเร่งรัดการส่งออก ประสบความสำเร็จมากในการเปิดตลาดน้ำมันปาล์มอินเดียทำให้ปี 63สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มไปอินเดียได้ 2,600 ล้านบาท แต่ 9 เดือนแรกปีนี้ส่งออกไปแล้ว 14,000 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นมากจากการเปิดตลาด เป็นบวกถึง 438% 

และหากราคาตกก็ยังมีส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้เข้ามาช่วยเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ซึ่งขณะนี้พอใจและดีใจที่เราเข้าไปช่วยทำให้ราคาดีขึ้น

ขณะที่แนวทางการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในขณะนี้ได้มีการประสานกับผู้ผลิต หรือซัพพลายเออร์ รวมทั้งห้างโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เป็นกลไกสำคัญในการเข้าไปช่วยดูแลเพื่อไม่ให้สินค้าขาดแคลนทั้งปริมาณ

ขณะเดียวกันก็ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และหากพบว่าผู้ใดกระทำการค้ากำไรเกินควรก็จะให้ดำเนินคดีทุกรายโดยเคร่งครัด เพราะโทษค้ากำไรเกินควรนั้นสูงมาก จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะนี้ยังไม่พบว่าจะมีสินค้าขาดแคลนในพื้นที่ที่มีนัยยะสำคัญ ขณะที่การที่จะขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญนั้นส่วนใหญ่เป็นสินค้าควบคุมอยู่แล้ว ดังนั้นการจะขึ้นราคาสินค้าต้องขออนุญาต จนบัดนี้กระทรวงพาณิชย์ยังไม่เคยอนุญาตให้สินค้าหมวดใด รายใดขึ้นราคาแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้นถ้าไปขึ้นราคาเองโดยพละการ ถ้าพบว่าเป็นการค้ากำไรเกินควรก็ดำเนินคดี