"รัฐบาล"คาด"เปิดประเทศ"พ.ย.-ธ.ค. นทท.เฉลี่ยเข้าไทยเดือนละ3แสนคน
"โฆษกรัฐบาล" เผย เปิดประเทศ 7 วัน
น่าพอใจ นักท่องเที่ยว เข้าไทย 2 หมื่นคน พบ ติดเชื้อโควิด เพียง 15 คน มั่นใจ คุมได้ คาด พ.ย.-ธ.ค. ต่างชาติ เข้า เฉลี่ย เดือนละ3แสนราย เผย "นายกฯ" ห่วง ต่างด้าว ลักลอบ เข้าเมือง หวั่น ระบาดคลัสเตอร์ใหญ่
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากเปิดประเทศแล้ว7 วัน รัฐบาลประเมินว่าสถานการณ์เป็นที่น่าพอใจ โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า20,000 คน ในจำนวนนี้ตรวจพบเชื้อโควิดเพียง 15 คน จึงอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้นอกจากนี้ ประชาชนและนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นต่อการเปิดประเทศและแนวทางอื่นของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ที่มีเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้น ททท.คาดว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 300,000 คน ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ประเทศและกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศมีมากขึ้นและราคาสินค้าก็จะปรับตัวดีขึ้นอย่างเหมาะสม
นายธนกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แสดงความเป็นห่วงคือปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว โดยได้กำชับฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงแรงงานให้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 7 วันที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่จับกุมแรงงานต่าวด้าวลักลอบเข้าเมืองได้กว่า2,800 คน เพราะเมื่อดูจากสถิติก่อนหน้านี้กลุ่มแรงงานต่างด้าวมักเป็นต้นเหตุของการระบาดโควิดโดยเฉพาะในตลาด ไม่ว่าจะเป็น กทม. จ.สมุทรสาคร หรือ จ.เชียงใหม่
นายธนกร กล่าวว่า ขณะเดียวกันขอให้ผู้ประกอบการและนายจ้างเข้มงวดกับการจ้างแรงงานเพราะเข้าใจดีถึงความจำเป็น แต่จะต้องจ้างแรงงานที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย มีการกักตัว ลงทะเบียนติดตาม และฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน รวมถึงการกวดขันพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่นการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง ในตลาด ชุมชน และโรงงาน ทั้งหมดคือเหตุผลที่รัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุมเข้มงวดแม้ว่าหลายอย่างจะผ่อนคลายลงแล้ว แต่จะต้องไม่ประมาท เพราะเราเปิดประเทศจึงต้องยกระดับมาตรการให้สูงขึ้นเพื่อปกป้องชีวิตคนไทย