จุดปะทุ พปชร.รอบใหม่ "อนุมัติ” ฝันใหญ่ “รมต.-คุมชายแดนใต้”

การเดินสายล่องชายแดนใต้ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา เดิมมีกำหนดการเปิดตัวนักการเมืองในพื้นที่ ที่เตรียมจะย้ายจากพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคหนึ่งมาร่วมงานกับพลังประชารัฐ และเตรียมจะส่งลูกชายลงเลือกตั้งครั้งหน้าในนามพรรคด้วยนั้น 

สุดท้ายคิวเปิดตัวนี้ต้องเลื่อนออกไป เมื่อ “อนุมัติ อาหมัด” ปรากฏเป็นตัวละครสำคัญ ที่ต้องการมีบทบาททำงานการเมืองพื้นที่ปลายด้ามขวานอีกครั้ง หลังลาออกจากตำแหน่ง ส.ว. เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนร่วมคณะ "พล.อ.ประวิตร" ลงพื้นที่คนของพลังประชารัฐ ที่รับผิดชอบพื้นที่อยู่ในขณะนี้จึงเลือกดึงเกมชะลอเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่จัดเตรียมไว้แล้วหลายคนออกไปก่อน เพื่อรอดูความเคลื่อนไหวของ “อนุมัติ” ว่าจะเดินเกมอย่างไรต่อไป ด้วยกังวลว่าจะถูกใครบางคนช้อนตัวไปเป็นพวก

ช่วงที่ผ่านมา แกนนำพลังประชารัฐ ทั้งส่วนกลาง และระดับพื้นที่ ที่ต้องการอัพเลเวลทางการเมืองของตัวเอง ก็เริ่มเห็นเค้าลางแล้วว่า ปัญหาทับซ้อนในการดูแลพื้นที่กำลังจะเกิดขึ้น และกลายเป็นความขัดแย้งใหม่ เมื่อ “อนุมัติ” มองหารันเวย์ ลงให้ตัวเอง โดยโฟกัสไปที่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา เป็นหลัก ซึ่งแต่ละแห่งต่างก็มีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว

อ่านข่าว : โปรไฟล์ธุรกิจ “อนุมัติ อาหมัด” ทิ้งเก้าอี้ ส.ว.ซบ พปชร.สู้เลือกตั้งภาคใต้

ชื่อของ “อนุมัติ” ปรากฏขึ้นในกระดานการเมืองจังหวัดชายแดนใต้ จนเริ่มเป็นที่รู้จักว่ามีความเชื่อมโยงกับพลังประชารัฐ มาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ด้วยสายสัมพันธ์ สนช.คอนเนคชั่น ระหว่าง “อนุมัติ” และ “พล.อ.นพดล อินทปัญญา” หรือ “บิ๊กกี่” เพื่อนเลิฟ “พล.อ .ประวิตร” จนทำให้ “อนุมัติ” สามารถแทรกตัวเข้ามามีบทบาทคอยเป็นคนประสาน จัดส่งเสบียงไปให้ขุนพลในพื้นที่ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น หลายคนก็ไม่เชื่อมือเท่าที่ควร

ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้าดูปัจจัยในการกวาด ส.ส.ของ พลังประชารัฐ ชายแดนใต้ จุดขายสำคัญคือ เรื่องตัวบุคคลที่ลงสมัคร มากกว่ากระแสอย่างอื่น ดังนั้น คนที่ได้เป็นผู้แทนฯ บางส่วนก็ไม่ได้มองว่าการได้เข้าสภานั้น เป็นเครดิตของ “อนุมัติ” แต่อย่างใด

เนื่องจากรู้ดีว่าแบล็คกราวนด์การเมืองของ “อนุมัติ” หลายครั้งที่มีตำแหน่งในสภาสูง ก็ได้อานิสงส์จากเครือข่ายในมิติทางศาสนา มากกว่าความเข้มแข็งของตัวเองในมิติอื่นมาช่วย

การได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว.สงขลา เมื่อเดือน มี.ค.2557 ก็ด้วยเครือข่ายของพรรคการเมืองที่เคยผูกขาดพื้นที่ให้การสนับสนุน เพราะมีดีลเรื่องการช่วยเหลือเรื่องการเลือกตั้ง นายกฯ อบจ.สงขลา มาก่อน ต่างฝ่ายจึงต่างสมหวัง

รวมถึงการได้เป็น สนช. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ของ “อนุมัติ” ก็เรียกว่ามาแบบส้มหล่นภายหลังจาก “อาศิส พิทักษ์คุมพล” จุฬาราชมนตรี ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น สนช. โดยหัวหน้า คสช. แต่ก็ได้ยื่นจดหมายลาออก เพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะสมในการเข้ามามีตำแหน่งทางการเมือง

ตอนนั้น “อนุมัติ” ได้รับการสนับสนุนจากขุนพลพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่งในสงขลา มีการขอผ่านผู้หลักผู้ใหญ่ให้เสนอชื่อ “อนุมัติ” เป็น สนช.แทน เพราะเพิ่งพ้นตำแหน่ง ส.ว.มาไม่นานหลังเจอเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ค.2557

หนึ่งในเหตุผลสำคัญของเครือข่ายที่สนับสนุน “อนุมัติ” ให้เป็น สนช.มาจากเมื่อครั้ง เลือกตั้งส.ว. ได้ทุ่มทรัพยากรไปเป็นจำนวนมาก แต่ผ่านไปไม่กี่เดือน ก็เจอเหตุการณ์ยึดอำนาจ จึงทำให้ “อนุมัติ” เกาะเกี่ยวไปกับอำนาจเรื่อยมา กระทั่งเป็น 1 ใน 250 ส.ว. และเพิ่งลาออกในที่สุด

เรื่องนี้คนในพลังประชารัฐ รู้ดีว่า “อนุมัติ” กำลังปูทางให้ตัวเองมีบทบาทในทางการเมือง แม้จะติดเงื่อนไขห้ามมีตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี เนื่องจากเป็น ส.ว.มาก่อน

หากเวลา 2 ปี นับจากนี้ ถือว่าไม่นานเกินรอ ถึงวันนั้น “อนุมัติ” ก็สามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้แล้ว การก่อร่างสร้างตัวเองให้ขึ้นไปสู่จุดนั้นได้ ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ ด้วยการมี ส.ส.ในมือมากที่สุด แต่ด้วยเงื่อนไขในพื้นที่ ทั้งเรื่องคน เรื่องขั้วอำนาจ ก็คงไม่ง่ายเหมือนที่ “อนุมัติ” คิด

เมื่อขุนพลที่คุมทัพชายแดนใต้ พลังประชารัฐวางกลยุทธ์เอาไว้หมดแล้ว การที่ “อนุมัติ” จะแทรกทะลุกลางปล้องขึ้นมา จะมีใครยอมหลบ ปล่อยให้มาแย่งชิ้นปลามันไปได้

ที่สำคัญพื้นที่เป้าหมายอย่างสงขลา ที่ “อนุมัติ” หมายมั่นปั้นมือ กวาด ส.ส.ให้ได้มากที่สุดนั้นคงต้องสู้กันยิบตา เมื่อคู่แข่งจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ล้วนเคยมีส่วนสนับสนุน “อนุมัติ” จนได้เป็น ส.ว.เลือกตั้ง

ต้องติดตามต่อทุกฝีก้าว “พล.อ.ประวิตร” จะบริหารจัดการ หรือจัดสรรพื้นที่อย่างไร ในเมื่อแต่ละฝ่ายต่างอยากขยับตัวเองขึ้นเป็นเบอร์ใหญ่คุมพื้นที่ชายแดนใต้ พื้นที่ ที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์

งานนี้ไม่แคล้วศึกในพลังประชารัฐคงต้องปะทุซ้ำ อีกตามเคย

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์