รองโฆษก ปชป.สวน “พานทองแท้” โหนปัญหาน้ำทะเลหนุนหากระแสให้ “ทักษิณ”
“ชัยชนะ” โต้กลับ “พานทองแท้” โหนปัญหา “น้ำทะเลหนุน” ท่วมริมฝั่งเจ้าพระยา หากระแสไม่ให้ “ทักษิณ” จางหาย เย้ย “อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่” หวังได้กลับบ้านแบบเท่ ๆ สวนบอกคนอื่นให้ปล่อยวาง แต่ตัวเองทำสถิติวางมือไม่รู้กี่ครั้ง ชวนกลับมารับโทษตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความโดยอ้างอิงปัญหาน้ำทะเลหนุนท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร พร้อมแนะนำให้รัฐบาลวางมือหรือยุบสภา เพื่อให้ประชาชนเลือกคนดีและคนเก่งที่มีความสามารถมาทำงานแทนว่า ถือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นว่า นายทักษิณและบริวาร ออกอาการดิ้นรนและทุรนทุรายเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้กลับบ้านแบบเท่ ๆ โดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำการทุจริตและบิดเบือนหลักการประชาธิปไตย การที่นายพานทองแท้ ออกมาโหนเรื่องน้ำทะเลหนุนทำให้ปริมาณในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นท่วมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำและบริเวณใกล้เคียง โดยเรียกร้องให้บุคคลในรัฐบาลลาออกหรือยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อที่จะได้เลือกคนเก่ง ๆ คนดี ๆ คนที่มีความรู้เข้ามาแก้ไขปัญหานั้น ถือได้ว่านายพานทองแท้ และนายทักษิณ ได้เผยความในใจออกชนิดที่เรียกได้ว่า “อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่” เพราะการที่บอกให้คนอื่นปล่อยวางจากอำนาจ แต่ตัวเองกลับทำสถิติวางมือไม่รู้กี่สิบครั้ง
นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเดินหน้าสืบทอดอำนาจ โดยผลักดัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ เข้ามาควบคุมดูแลภายในพรรค และยังพยายามปล่อยชื่อเครือญาติและคนใกล้ชิดของตัวเอง เพื่อหยั่งกระแสสาวกว่า ใครควรที่จะเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่ให้ความสำคัญหรือผลักดันให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงคือ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ได้แสดงถึงวิสัยทัศน์และศักยภาพถึงการเป็นผู้นำพรรคที่จะไปเป็นผู้นำประเทศอย่างแท้จริง ดังนั้นก่อนจะแนะนำคนอื่น นายพานทองแท้ ควรจะแนะนำให้นายทักษิณ และบรรดาเครือข่ายที่หลบหนี ได้ปล่อยวางและวางมือเสียก่อน โดยการกลับมายอมรับโทษตามกฎหมาย เพราะจะได้เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า นายทักษิณและเครือข่าย เป็นผู้รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่หมกหมุ่นเล่นละครหรือหาวิธีที่จะหาทางได้อำนาจรัฐ เพื่อสนองความต้องการของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น
“ผมคิดว่า ขณะนี้ สถานการณ์ทางการเมืองของนายทักษิณ และบริวาร ต่างจากเมื่อก่อนราวฟ้ากับเหว เพราะแต่ก่อน นายทักษิณ เป็นผู้นำกระแสเพื่อสร้างความฮือฮาให้กับประชาชนและสังคมได้เป็นอย่างมาก ใคร ๆ ต่างก็พูดถึงนายทักษิณอยู่เสมอ ๆ แต่ระยะหลัง ๆ ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงละครยกมือไหว้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การตีสองหน้าเกี่ยวกับกฎหมายที่คุ้มครองสถาบันของประเทศเพียงแค่ต้องการเสียงของคนเพียงหยิบมือ หรือการเอาเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจดีว่า เป็นตราบาปให้กับชาวนาทั้งประเทศอย่าง โครงการรับจำนำข้าว มาโจมตีการทำงานแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างหน้าไม่อาย ดังนั้น การที่นายพานทองแท้ โหนปัญหาน้ำทะเลที่หนุน จนทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมเข้ามา แล้วบอกว่าให้รัฐบาลลาออกหรือยุบคืนอำนาจให้ประชาชนนั้น สะท้อนว่า นายทักษิณและเครือข่าย น่าจะหมดแรงจูงใจและไม่สามารถสร้างกระแสให้ประชาชนคล้อยตามได้ จึงต้องหากระแสเพื่อโหนไม่ให้คนลืม โดยมีเป้าหมายเดียวที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถยอมรับได้ นั่นก็คือ การให้คน ๆ หนึ่งกลับบ้านเพื่อแลกกับกระบวนการยุติธรรมและหลักนิติรัฐที่จะไม่สามารถบังคับได้อีกต่อไป” นายชัยชนะ กล่าว