ทรัพย์สิน 2 ผู้ว่าฯ “กู้เกียรติ” พัทลุง 97 ล้าน “สมศักดิ์” ขอนแก่น 58 ล้าน
ยลโฉมทรัพย์สิน 2 ผู้ว่าราชการจังหวัด ดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี “กู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์” พัทลุง 97 ล้าน “ภริยา” ทำธุรกิจให้เช่า “แมนชั่น” 2 แห่ง ส่วน “สมศักดิ์ จังตระกูล” ขอนแก่น 58 ล้าน สะสมงาช้างรวม 2 คู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายราย รายชื่อน่าสนใจ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ และนายสมศักดิ์ จังตระกูล กรณีดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดรวม 3 ปี
นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ แจ้งกรณีดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯพัทลุง ครบ 3 ปี (ระหว่างปี 2560-2564) มีทรัพย์สิน 12,574,257 บาท ได้แก่ เงินฝาก 6,677,276 บาท เงินลงทุน 2,312,981 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 7 แสนบาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 84,000 บาท (ทองรูปพรรณหนัก 3 บาท) ไม่มีหนี้สิน มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,664,100 บาท แบ่งเป็น เงินเดือน 1.3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 164,100 บาท ค่าตอบแทนอื่น ๆ 2 แสนบาท มีรายจ่ายรวม 977,972 บาท
ส่วนนางมะลิ วงศ์กระพันธุ์ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 85,301,849 บาท ได้แก่ เงินฝาก 40,564,273 บาท เงินลงทุน 5,233,339 บาท ที่ดิน 28,710,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 9,280,000 บาท (มีแมนชั่นอยู่ที่ จ.สงขลา มูลค่า 5.6 ล้านบาท และแมนชั่นที่ จ.พัทลุง มูลค่า 1,760,000 บาท) ยานพาหนะ 38,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,280,236 บาท (เป็นที่ดินธนารักษ์ จ.ยะลา 2 รายการ) ทรัพย์สินอื่น (ทองรูปพรรณ หนัก 7 บาท) 196,000 บาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,656,000 บาท แบ่งเป็น ดอกเบี้ย 1.2 ล้านบาท ค่าเช่าบ้าน 96,000 บาท และธุรกิจแมนชั่น 3.6 แสนบาท มีรายจ่ายรวม 566,230 บาท
รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 97,876,106 บาท ไม่มีหนี้สิน
ส่วนนายสมศักดิ์ จังตระกูล แจ้งกรณีดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯขอนแก่นครบ 3 ปี (ระหว่างปี 2560-2564 ก่อนหน้านี้เป็นผู้ว่าฯอุบลราชธานี ระหว่างปี 2558-2560) มีทรัพย์สิน 44,626,320 บาท ได้แก่ เงินฝาก 5,478,274 บาท เงินลงทุน 17,606,521 บาท ที่ดิน 22 แปลง อยู่ในขอนแก่นทั้งหมด 11,231,475 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,597,860 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,755,524 บาท ทรัพย์สินอื่น 6,956,665 บาท ไม่มีหนี้สิน
มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 4,280,035 บาท โดยเป็นเงินเดือน 1,269,600 บาท เบี้ยประชุม ค่าบรรยาย ฯลฯ 1.8 แสนบาท เงินบำเหน็จรางวัล สถานธนานุบาลเทศบาลฯ โดยเฉลี่ย 166,061 บาท ที่น่าสนใจได้เงินจากการให้และมรดกจากพ่อ 343,000 บาท เงินจากการให้และมรดกจากแม่ 714,285 บาท เงินสนับสนุนเลี้ยงดูแลหลาน 4 แสนบาท อีกด้วย มีรายจ่ายรวม 970,647 บาท
ขณะที่ น.ส.สิริพร สงบธรรม คู่สมรสที่มิได้จดทะเบียนแต่อยู่กินกันฉันสามีภริยา (ทำงานเป็นเลขาธิการ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) มีทรัพย์สิน 12,775,164 บาท ได้แก่ เงินฝาก 1,616,095 บาท เงินลงทุน 837,989 บาท ที่ดิน 6 แปลง 8,605,625 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.8 แสนบาท ยานพาหนะ 499,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,036,454 บาท ไม่มีหนี้สิน รายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1.6 ล้านบาท เป็นเงินเดือนทั้งหมด มีรายจ่ายรวม 292,608 บาท
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คน (อายุ 18 ปี) มีทรัพย์สินรวม 941,223 บาท ได้แก่เงินฝาก 501,287 บาท สิทธิและสัมปทาน 257,336 บาท ทรัพย์สินอื่น 182,600 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 501,251 บาท โดยได้รับมรดกจากปู่และย่าทั้งหมด มีรายจ่ายรวม 100,158 บาท (เป็นค่าเบี้ยประกัน)
เบ็ดเสร็จทั้งหมดมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 58,342,707 บาท ไม่มีหนี้สิน
ทรัพย์สินที่น่าสนใจ นายสมศักดิ์ สะสมงาช้าง 1 คู่ น้ำหนักรวม 2.82 กิโลกรัม ได้มาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2559 มูลค่าประมาณ 169,200 บาท ส่วน น.ส.สิริพร มีงาช้าง 1 คู่ น้ำหนักรวม 1.71 กิโลกรัม ได้มาเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2562 มูลค่าประมาณ 102,600 บาท นอกจากนี้ทั้งคู่ยังสะสมพระเครื่อง/พระบูชาอีกจำนวนมาก