เปิด 17 จว. “ก้าวหน้า” ชนะนายก อบต. 38 ที่นั่ง “ธนาธร” ปักธง “นายกฯพัทยา” ต่อ
เปิด 17 จังหวัด “คณะก้าวหน้า” ซิวชัยชนะ “นายก อบต.” รวม 38 ที่นั่ง จากที่ส่ง 196 แห่ง “ธนาธร” พอใจ-ภูมิใจ ชี้เจาะพื้นที่ห่างไกลเมืองได้ อาวุธสำคัญคือนโยบาย ปักธง “นายกเมืองพัทยา” ต่อ สนาม กทม.ปล่อยเป็นพื้นที่ “พรรคก้าวไกล”
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2564 ที่อาคารคณะก้าวหน้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงข่าวภายหลังผลการเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่า คณะก้าวหน้าได้จำนวนนายก อบต. รวมทั้งสิ้น 38 ที่นั่ง จากทั้งหมดที่ส่งลง 196 ที่นั่ง หรือคิดเป็น 19.4% ของจำนวนที่ส่งทั้งหมด ส่วนที่ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าจะส่ง 210 ที่นั่ง แต่เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ท้ายที่สุดเหลือส่งแค่ 196 ที่นั่งเท่านั้น
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ในจำนวนนี้นายก อบต. 38 ที่นั่งนี้ มีผู้ชาย 35 คน ผู้หญิง 3 คน โดยมีผู้มีประสบการณ์การเมืองมาแล้ว 23 คน ผู้ไม่มีประสบการณ์เลย 15 คน ดังนั้นสำหรับผลการเลือกตั้ง อบต.รอบนี้ กล่าวได้ว่ารู้สึกดีใจ พอใจ ภูมิใจกับผลงานในการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยการเลือกตั้ง อบต. ซึ่งเป็นพื้นที่มีความเป็นเมืองน้อย คนรุ่นใหม่ต่อสัดส่วนประชากรเป็นจำนวนไม่มาก หลายคนมองว่าลักษณะพื้นที่แบบนี้ไม่ใช่พื้นที่พวกเรา ไม่ใช่คนจะใช้โซเชียลมีเดีย หลายท่านสบประมาทเรา คิดว่าทำไม่ได้ แต่ต้องบอกว่าผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับไว้วางใจจากประชาชนให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต. ถึง 19.4% หรือ 38 ที่นั่ง จากทั้งหมดที่เราส่ง 196 ที่นั่ง ดังนั้นการเลือกตั้ง อบต. ครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า พวกเราไม่ได้เข้าถึงแค่ลักษณะเมืองใหญ่ หรือพื้นที่ที่มีแต่คนหนุ่มสาวอยู่เยอะ แต่พื้นที่เหล่านี้ก็เข้าถึงได้ด้วย
ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนครั้งที่ผ่านมาคือ อาวุธสำคัญคือนโยบาย ที่ตอบสนองต่อสภาพปัญหาภายในพื้นที่ เช่น ปัญหาปากท้อง รายได้ของประชาชน เรื่องเศรษฐกิจ นโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม นโยบายเรื่องน้ำท่วม ภาวะน้ำแล้ง เป็นต้น เชื่อว่านโยบายเหล่านี้สอดคล้องกับสภาพปัญหา โดนใจประชาชน ทำให้ได้รับความไว้วางใจ รวมถึงผลงานที่ผ่านมา ๆ ด้วย
นายธนาธร ยังกล่าวถึง “ก้าวต่อไป” ของคณะก้าวหน้าด้วยว่า มีอยู่ 4 ประเด็น
1.ก้าวต่อไป ใช้นโยบายเป็นอาวุธหาเสียง ทำนโยบายให้เป็นจริง ทำอย่างแน่วแน่ไม่ย่อท้อ แม้จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง ถูกยุบพรรค ก็ยังทำงานต่อ เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความแน่วแน่
2.ก้าวต่อไป ไม่ใช่ระดับเทศบาล แต่เป็นระดับ อบต. ด้วย จะทำนโยบายที่สัญญากับประชาชนให้เกิดขึ้นจริง โดยระดับเทศบาลอีก 6 เดือนข้างหน้า จะเห็นผลงานที่อยู่ระหว่างการฟูกฟัก ผลักดันเกิดขึ้นจริง ส่วนระดับ อบต.จะเริ่มทำงานทันทีหลังได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการกับ กตต.
3.ก้าวต่อไป เรามีเพื่อนของเราอยู่ที่พรรคก้าวไกล เป็น ส.ส. และอดีตเพื่อนร่วมงานของตน ทำงานระดับชาติ เรามีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) 57 คน นายกเทศมนตรี 16 คน มีสมาชิกสภาเทศบาล 130 คน และตอนนี้มีนายก อบต. อีก 38 คน ดังนั้นเราจะมีคลังความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่นที่ใหญ่มาก และเราแสดงให้เห็นแล้วว่าลงมือทำจริง ไม่ได้พูดอย่างเดียว ไม่ได้มีแต่นโยบายที่เป็นตัวอักษร
4.ก้าวต่อไป ไม่หยุดแคนี้ อีกไม่กี่เดือนมีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา คณะก้าวหน้าจะส่งผู้สมัครแข่งขันด้วย
“ปลายทางของพวกเรา เรายืนยันว่า เหตุผลที่เราทำงานการเมือง เพราะเชื่อว่าไทยดีกว่านี้ได้ หลังจากการเลือกตั้งในเดือน มี.ค. 2562 เป็นต้นมา ประชาชนรู้สึกหมดหวัง ผลักดันการเปลี่ยนแปลงในประเทศอะไรก็ทำไม่ได้ ยากไปหมด โอกาสเห็นชีวิตตัวเอง ลูกหลานดีขึ้น โอกาสที่จะมีบ้านสักหลัง รถสักคัน โอกาสที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพ เป็นไปได้ยากเหลือเกินในประเทศนี้ จนเกิด #ย้ายประเทศกันเถอะ อยากให้ทุกคนเชื่อว่าไทยดีกว่านี้ได้ อย่าเพิ่งหมดหวัง เราจะทำการเมืองท้องถิ่นให้คนมีความหวังต่อไป” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า คณะก้าวหน้าเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติแยกกันไม่ออก ประชาธิปไตยระดับชาติจะเข้มแข็งได้ ประชาธิปไตยระดับท้องถิ่นต้องเข้มแข็งด้วย การที่เราลงมาทำการเมืองท้องถิ่น ทำให้ประชาชนจับต้องได้ว่าประชาธิปไตยกินได้จริง ทุกการเลือกตั้งหย่อนบัตรใช้สิทธิของตัวเอง สามารถสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้จริง
ในช่วงท้าย นายธนาธร ตอบคำถามถึงกรณีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาว่า อยู่ระหว่างคัดสรรตัวบุคคล ขออนุญาตยังไม่พูดอะไรเยอะ รอดูดีกว่า เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาเมื่อไหร่
ส่วนสนามการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) นั้น นายธนาธร กล่าวยืนยันว่า คณะก้าวหน้าไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยสนาม กทม. จะเป็นพื้นที่ของพรรคก้าวไกล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายก อบต. ทั้ง 38 ที่นั่งของคณะก้าวหน้า อยู่ในพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ 1. กาฬสินธุ์ 2. ขอนแก่น 3. ชัยภูมิ 4. เชียงใหม่ 5. นครปฐม 6. นครราชสีมา 7. น่าน 8. บึงกาฬ 9. พิษณุโลก 10. เพชรบูรณ์ 11. มหาสารคาม 12. ร้อยเอ็ด 13. ศรีสะเกษ 14. สุพรรณบุรี 15. หนองคาย 16. หนองบัวลำภู 17. อุดรธานี