คดี“บิ๊กตู่-ครม.”บริหารโควิด-19 เหลว ป.ป.ช.สอบเบื้องต้นอยู่-ต้องรอบคอบ

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี ใน 4 ประเด็น ได้แก่

1.เรื่องการบริหารราชการที่ผิดพลาด ล้มเหลว ทุจริตต่อหน้าที่เรื่องโควิด-19 โดยเป็นประเด็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนที่ผิดพลาด การทุจริตในการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค และการผูกขาดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

2.เรื่องการทุจริตการจัดซื้อชุดตรวจ ATK

3.การใช้วัคซีนที่ไร้คุณภาพมาฉีดให้พี่น้องประชาชน

4.การทุจริตสต็อกยางพารา และการเอื้อประโยชน์ให้เกิดการทุจริต ว่า ตามกระบวนการการทำงานของ ป.ป.ช. เมื่อรับเรื่องร้องเรียนมาแล้วต้องให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น เพื่อดูว่าร้องเรียนเรื่องอะไร มีเอกสารใดเกี่ยวข้องบ้าง แล้วนำมาวิเคราะห์ว่าผู้ถูกร้องเรียนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ในอำนาจไต่สวนของ ป.ป.ช.หรือไม่ และข้อกล่าวหานั้น ๆ มีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดบ้าง

ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า เราต้องติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วต้องนำมาวิเคราะห์ โดยอาจจะต้องมีการสอบพยานเพิ่มเติมแล้วจึงมาวิเคราะห์ว่ามีข้อมูล พยาน หลักฐาน ที่จะดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ ดังนั้นกระบวนการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาอย่างมาก ตนก็กำลังเร่งรัด

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า  ป.ป.ช.ต้องพึ่งส่วนราชการในการขอเอกสาร เพื่อนำมาวิเคราะห์ประกอบข้อกล่าวหา เพราะเพียงแค่คำกล่าวหานั้น ๆ ไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้  จึงต้องอาศัยกระบวนการและขั้นตอนเหล่านี้ และต้องดูให้ละเอียดรอบคอบ เพราะบางเรื่องอาจกระทบกระเทือนต่อสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ รวมถึงความรู้สึกเรื่องการก้าวล่วง ทางป.ป.ช.ต้องทำงานอย่างรอบครอบเพื่อให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และตอบสังคมได้ว่าเรื่องนี้ได้มีการตรวจสอบอย่างครบถ้วน ส่วนในรายละเอียดของกรณีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักไต่สวนภาคการเมือง