แง้มรั้วพ่อขุนฯ ฉากหลังพักงาน “สืบพงษ์” แบ่งเค้กอำนาจไม่ลงตัว?
กระแสข่าวสะพัดอย่างหนักว่าเกิดกรณี “แบ่งเค้กอำนาจ” ไม่ลงตัว โดยมี “อดีตบิ๊กรามคำแหง” ไม่ถูกใจท่าทีบางอย่างของ ผศ.ดร.สืบพงษ์ จึงเดินเกมยื่นเรื่องร้องเรียนดังกล่าว จนกระทั่งสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงมีมติ “พักงาน”
กลายเป็นที่ฮือฮาในรั้ว “พ่อขุมรามฯ” อย่างมาก!
เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวสะพัดว่า สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง มีมติให้ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ หยุดปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี ม.รามคำแหง แล้ว หลังเพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเพียง 3 เดือน สร้างแรงสะเทือนอย่างหนักตั้งแต่ระดับ “ผู้บริหาร” ลามไปถึง “กลุ่มนักศึกษา” ภายในมหาวิทยาลัย
กรุงเทพธุรกิจ ได้รับการยืนยันข้อมูลแล้วว่า สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงมีมติ “พักงาน” ผศ.ดร.สืบพงษ์ จริงเนื่องจากถูกยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวน กรณีกล่าวหาว่า “ร่ำรวยผิดปกติ” เนื่องจากได้รับโอนที่ดินจำนวน 2 แปลง อ.องครักษ์ จ.นครนายก
ประเด็นนี้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา เครือข่ายพิทักษ์คุณธรรม มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ไต่สวน ผศ.ดร.สืบพงษ์ กรณีกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติจากการรับโอนที่ดินจำนวน 2 แปลง ในพื้นที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก โดยที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวเคยถูกศาลฎีกาพิพากษา “ยึดทรัพย์” ตกเป็นของแผ่นดินไปแล้ว ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 469/2561 ทำให้ต้องยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เนื่องจากพฤติการณ์ของ ผศ.ดร.สืบพงษ์อาจเข้าข่ายสนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
บ่ายคล้อยของวันที่ 21 ธ.ค. 2564 สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงก็มีมติ “พักงาน” ผศ.ดร.สืบพงษ์ ทันที
จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า ที่ดิน 2 แปลงดังกล่าว พบว่า เป็นโฉนดเลขที่ 52022 ต.บางปลากด อ.องครักษ์จ.นครนายก เนื้อที่ 78 ตารางวา และโฉนดเลขที่ 52023 เนื้อที่ 1 งาน 53 ตารางวา โดยข้อมูลด้านหลังโฉนดที่ดิน 2 แปลงดังกล่าว โดยเป็นของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ก่อนจะมีการโอนให้นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ และ น.ส.สุทธาวรรณ ทรัพย์ล้อม ในเวลาต่อมา
ด้านสำนักข่าวอิศรารายงานอ้างว่า นางสุทธาวรรณ ทรัพย์ล้อม เป็นบุตรสาวของนายสุพจน์ และนายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ เป็น “ลูกเขย”
สำนักข่าวอิศราอ้างด้วยว่า ได้ติดต่อไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดนครนายก สาขาองครักษ์ ถึงกรณีนี้ โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ที่ดินทั้ง 2 แปลงได้ถูกโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลังตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 ซึ่งเป็นมาตราเกี่ยวกับนิยาม “ร่ำรวยผิดปกติ” ไปแล้ว
สำหรับนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม คืออดีตปลัดกระทรวงคมนาคมผู้อื้อฉาว ที่ปรากฏเป็นข่าวช่วงปี 2555 ว่าถูกคนร้ายปล้นเงินสดจากบ้านจำนวนหลายสิบล้านบาท ส่งผลให้ถูก ป.ป.ช. เข้าไปตรวจสอบ และมีการชี้มูลความผิดทั้งคดีจงใจปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงคดีร่ำรวยผิดปกติ และศาลฎีกามีคำพิพากษาไปแล้วทั้ง 2 คดี โดยนายสุพจน์ถูกจำคุก 10 เดือน ถูกยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 46 ล้านบาท ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษ ถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อกลางปี 2562 ที่ผ่านมา
ส่วนคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 469/2561 คดีร่ำรวยผิดปกติของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อมนั้น ปรากฏข้อมูลของ น.ส.สุทธาวรรณ และนายสืบพงษ์ ตอนหนึ่งว่า เงินสดจำนวน 18,121,000 บาท ที่ถูกคนร้ายปล้นไปนั้น นายสุพจน์ ต่อสู้คดีว่า เงินที่ถูกปล้นมีเพียง 5,068,000 บาท โดยได้ยกเงินจำนวนนี้ให้ น.ส.สุทธาวรรณ และนายสืบพงษ์ ไปก่อนวันที่นายสุพจน์มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช. รวมถึงอ้างว่า เงินที่ถูกปล้นเป็นเงินสินสอด 2 ล้านบาท และอีก 2.5 ล้านบาท เป็นเงินที่นายทศพร ปราบใหญ่ บิดานายสืบพงษ์ มอบให้นายสืบพงษ์ไปดูแล น.ส.สุทธาวรรณ แต่ศาลฎีกาเห็นว่า เหตุผลของนายสุพจน์ฟังไม่ขึ้น เมื่อนายสุพจน์เป็นเจ้าของแล้วไม่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ถือว่ามีเจตนาปกปิด
อนึ่ง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา น.ส.สุทธาวรรณ และนายสืบพงษ์ ไม่เคยถูกดำเนินคดีกรณีเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานร่ำรวยผิดปกติด้วยแต่อย่างใด
ความคืบหน้ากรณีนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงสั่งพักงาน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ไว้ก่อน เพื่อรอผลการตรวจสอบกรณีดังกล่าวจาก ป.ป.ช.
ท่ามกลางกระแสข่าวสะพัดอย่างหนักว่าเกิดกรณี “แบ่งเค้กอำนาจ” ไม่ลงตัว โดยมี “อดีตบิ๊กรามคำแหง” ไม่ถูกใจท่าทีบางอย่างของ ผศ.ดร.สืบพงษ์ จึงเดินเกมยื่นเรื่องร้องเรียนดังกล่าว จนกระทั่งสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงมีมติ“พักงาน”
ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุน “อดีตบิ๊กรามคำแหง” รายนี้ คือหนึ่งในเครือข่ายผู้ชุมนุมฟากฝั่ง “อนุรักษ์นิยม” ในอดีต เป็นคนเดินเกม ด้านกลุ่มผู้สนับสนุน ผศ.ดร.สืบพงษ์ คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในม็อบที่เรียกตัวเองว่าฝั่ง “ประชาธิปไตย” ออกโรงปกป้องทันควัน
แต่การเล่นเกมการเมืองภายในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อ “นักศึกษา” เนื่องจาก “อธิการบดี” คือตำแหน่งสำคัญอย่างมากในการเซ็นรับรองเรื่องต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย ดังนั้นการ “พักงาน” ผศ.ดร.สืบพงษ์ อาจทำให้การบริหารราชการต่าง ๆ ติดขัดอย่างแน่นอน
ศึกใน “รั้วพ่อขุนรามฯ” ครั้งนี้ จะมีบทสรุปอย่างไร คงต้องรอผลการตรวจสอบจาก ป.ป.ช. กันอีกครั้ง