"กมธ.เงินกู้1.9ล้านล้าน" ขอลาออก บีบให้สรุปรายงาน-เร่งเข้าสภาฯ
"วิสาร"ยอมรับลาออก กมธ.เงินกู้1.9ล้านล้านบาท พบทำงานซ้ำซ้อน กมธ.กู้เงิน5แสนล้าน ไม่เห็นด้วยต่อเวลา เสนอให้เร่งทำงานสรุปรายงานเข้าสภา เชื่อถูกซักหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ เพื่อแก้ปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ.เงินกู้ 1.9ล้านล้านบาท ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ. ว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร มีมติไม่อนุมัติให้กมธ. ต่ออายุการทำงาน ออกไปอีก 120 วัน ทำให้ กมธ.ต้องนัดประชุมเพื่อสรุปรายงาน เสนอต่อสภาฯ ตามกำหนดที่จะครบอายุวันที่ 2 มกราคม 2565 ทำให้ กมธ.ต้องนัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสรุปรายงานเพื่อนำเสนอในวันที่ 29 ธันวาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านั้นในการทำงานของกมธ. ชุดดังกล่าวพบปัญหาเนื่องจากมีกมธ. ลาออกจำนวนหนึ่ง เพราะไม่พอใจต่อการทำงานของกมธ. ที่ขอขยายเวลาพิจารณาออกไปเหมือนถ่วงเวลาไม่ให้รายงานของกมธ.ฯ ที่สรุปรายงานของการใช้เงินกู้ 1.9ล้านล้านบาท ของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯได้ทันในสมัยประชุม เพราะกมธ.เคยขอขยายเวลามาแล้ว3 ครั้ง นับตั้งแต่เร่ิมทำงาน เมื่อ 18 มิถุนายน 2563 และปัจจุบันพบว่ามีกมธ. ทำหน้าที่ 43 คน จากที่เคยแต่งตั้งทั้งหมด 49 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากมธ. หลายคนไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะ ส.ส. ที่เป็นกมธ.ตรวจสอบการใช้เงินกู้ พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโควิด-19 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ที่มีนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานกมธ. อาทิ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์, นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย, นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น ยื่นใบลาออก
นอกจากนั้นยังพบว่าการประชุมกมธ. บางครั้งมีกมธ. เข้าประชุมเพียง 3-4 คน และประชุมเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานกมธ. อาทิ ติดตามการช่วยเหลือเยียวยาลูกหนี้ค้างชำระค่าเช่าแผงค้าตลาดนัดจตุจักร ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหาราราชการแผ่นดิน คณะที่5 เมื่อ 6 ธันวาคม 2561 เป็นต้น
ทั้งนี้นายวิสาร ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุของกมธ.ฯ เพราะทำงานมานานเกือบ 2 ปี จึงควรสรุปรายงานเพื่อเสนอต่อสภาฯ อีกทั้งการใช้เงินกู้ ตามพ.ร.ก. ทั้งส่วนของ 1ล้านล้านบาท ได้ใช้งบเต็มจำนวนแล้ว และอีก 9แสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทางการเงินกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ และรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ได้เสนอแนะและให้ความเห็นเพื่อแก้ปัญหาไปทั้งหมดแล้ว ทั้งการแก้ไขระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวข้อง จึงคิดว่าไม่ควรขยายเวลาอีกต่อไป อีกทั้งปัจจุบันมีกมธ.ที่พิจารณาเงินกู้ 5 แสนล้านบาทและทำงานเหมือนกัน เรื่องเดียวกัน จึงควรให้กมธ.ชุดดังกล่าวได้ทำงานต่อ ไม่ซ้ำซ้อนกันจะเหมาะสมกว่า ทั้งนี้ตนไม่มีเรื่องข้องใจหรือปัญหาการทำงานร่วมกับนายไพบูลย์
“ผมทราบว่าวันที่ 29 ธันวาคมนี้ กมธ.ฯ จะนัดประชุมเพื่อสรุปรายงาน เพื่อเสนอต่อสภาฯ แต่ผมไม่ได้เป็นกมธ.แล้ว จึงไม่ได้เข้าประชุม ทั้งนี้เมื่อสรุปรายงานและเสนอต่อสภาฯ แล้ว เชื่อว่าจะมีการอภิปรายซักถามกันหนักในที่ประชุม เพราะมีการใช้เงินจำนวนมาก และบางโครงการพบการทุจริต” นายวิสาร กล่าว.