รีแบรนด์ "ประวิตร" ล้างภาพยี้ ลูกหาบ ปั้นลุค ปลุกนั่ง "นายกฯ"

ปรากฎการณ์ทางการเมือง ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คงไม่มีเรื่องไหนจะสร้างเสียงฮือฮาได้มากเท่ากับ กรณีที่ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปี แบบไม่มีใครคิดฝัน

โลกโซเชียลมีเดียต่างพากันวิพากย์วิจารณ์กันอื้ออึง ถึงผลสำรวจของสำนักโพลล์บางแห่ง ที่จัดอันดับให้ รองนายกฯ คนนี้ เป็นบุคคลแห่งปี ที่ช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนและปัญหาสังคม หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน แหล่งน้ำ และอื่นๆ พร้อมสาธยายคุณงามความดีกันสุดลิ่มทิ่มประตู ชนิดที่หลายฝ่ายเต็มไปด้วยความกังขา

สอดรับกับการที่ทีมงานพรรคพลังประชารัฐ นำเสนอผลงานของ "พล.อ.ประวิตร" ตลอดปี 64 ไล่มาตั้งแต่มกราคม-ธันวาคม แจกแจงสิ่งที่ได้ทำและลงพื้นที่ ว่าแต่ละเดือนเกิดอะไรขึ้นบ้าง 

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้มีข้อสังเกตอย่างมากว่า บรรดาคนรอบตัว "พล.อ.ประวิตร" ในพรรคพลังประชารัฐ กำลังเดินเกมรีแบรนด์ให้นายใหญ่ เพื่อมุ่งลบล้างภาพลักษณ์ด้านลบที่ยังคงติดตาคนในสังคมหรือไม่ 

เพราะอย่างที่รับรู้กันดีว่า ช่วงที่ผ่านมา "พล.อ.ประวิตร" ถือเป็นหนึ่งในรัฐมนตรี ที่ถูกพุ่งเป้าโจมตีอย่างหนักหน่วงที่สุดคนหนึ่ง จนผู้คนต่างจดจำแง่มุมที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก มากกว่าเรื่องอื่นที่ทำ

ทั้งเรื่องอื้อฉาวนาฬิกายืมเพื่อน การเป็นผู้ผลักดันให้รัฐบาล จัดซื้อเรือดำน้ำ การใช้งบประมาณดำเนินโครงการต่างๆ จนมีข้อท้วงติงมากมาย เพราะไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์โควิด และความเดือดร้อนของประชาชน 

ด้วยบุคลิกส่วนตัวในการให้สัมภาษณ์ ที่มักมีอารมณ์ฉุนเฉียว ตวาดและสบถใส่ผู้สื่อข่าวบ่อยครั้ง เวลาเจอคำถามไม่เข้าหู หรือการตอบคำถามหลายครั้งที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนใจต่อผู้เกี่ยวข้อง เช่น เมื่อครั้งมีกรณีนักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่1 ถูกซ่อมจนเสียชีวิต "พล.อ.ประวิตร" ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ด้วยประโยคที่กระฉ่อนในโลกโซเชียลฯ ว่า ผมก็เคยโดนจนสลบ แต่ผมไม่ตายไง เป็นต้น 

รวมถึงสไตล์การตอบคำถามสื่อมวลชน ในระยะหลัง เมื่อมีประเด็นอะไรเข้ามาก็ตาม "พล.อ.ประวิตร" จะสวมบท ป้อม ไม่รู้ อยู่เรื่อย บางคำถาม เจ้าตัวงัดคำตอบ ว่า "ไม่รู้" ย้ำแล้วย้ำอีกถึง 6 ครั้ง

การฟื้นภาพที่ดีให้ "พล.อ.ประวิตร" แบบนี้ สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวใน "พลังประชารัฐ" ที่กำลังจัดทัพรับเลือกตั้งซ่อม และเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง 

เมื่อแนวโน้มเส้นทางทางการเมืองของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" กับ "พลังประชารัฐ" มีความเป็นไปได้สูงว่าไม่อาจเดินร่วมกันในทางการเมืองได้อีกต่อไป 

แผนการดัน "พล.อ.ประวิตร" ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงกำลังจะเกิดขึ้น เพราะบรรดาแกนนำขาใหญ่ในพลังประชารัฐ ดีดลูกคิดดูแล้ว ไม่มีใครในพรรคเหมาะไปกว่านี้ 

ที่สำคัญการมีอยู่ของ "พล.อ.ประวิตร" จะเป็นประโยชน์ต่อแกนนำใน "พลังประชารัฐ" บางกลุ่มอย่างมหาศาล เหมือนมีแบ็คคอยเป็นเกราะคุ้มกันการถูกถอนแค้นจากคนชื่อ "ประยุทธ์" ได้เป็นอย่างดี

ถึงแม้ผลโพลล์และการโหมโปรโมทผลงานให้ "พล.อ.ประวิตร" จะสอดคล้องเชื่อมโยงกันหรือไม่ก็ตาม แต่ในทางการเมือง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ 

ความพยายามสร้างการรับรู้ใหม่เช่นนี้ ย่อมคาดหวังผลทางการเมืองในช็อตต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย