“เพชร กรุณพล” รุดตามเหตุไฟไหม้สายไฟแยกพงษ์เพชร ลั่นเลือก “ก้าวไกล” แก้ไขได้

จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 9 ม.ค. 2565 เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้สายไฟฟ้าและสายสื่อสารใกล้ ๆ กับบริเวณแยกพงษ์เพชร ถ.ประชาชื่น และลามลุกไหม้ร้านค้าบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย จนต้องมีการปิดถนนชั่วคราวเพื่อควบคุมเพลิงสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้สัญจร นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในหลายชุมชนของแขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.นั้น

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2565 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ “เพชร กรุณพล” ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังจากทราบว่าเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ตอนช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า ตนและทีมงานได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันทีเพื่อติดตามสถานการณ์ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พบว่ามีร้านอาหารบริเวณดังกล่าวและร้านขายรถจักรยานยนต์ถูกไฟไหม้ด้วย ขณะเดียวกันสายไฟสายสื่อสายที่ถูกไฟไหม้ขาดลงมากองขวางถนน ต้องปิดการจราจรสร้างความเดือดร้อนวุ่นวาย และเหตุการณ์นี้ยังทำให้เกิดไฟดับในหลายๆ ชุมชนด้วย ซึ่งจากการสอบถามเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ทำให้ทราบว่า ต้นเพลิงมาจากเสาไฟฟ้าที่มีทั้งสายไฟและสายสื่อสารโยงระเกะระกะพันกันวุ่น โดยก่อนหน้านี้เคยเกิดประกายไฟอยู่หลายครั้ง ได้แจ้งเรื่องไปที่การไฟฟ้านครหลวง รวมถึงสำนักงาน กสทช. ด้วย เพื่อให้เข้ามาแก้ไข แต่เรื่องก็เงียบไป กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ไฟ้ฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้สร้างความเสียหายดังกล่าว

นายกรุณพล กล่าวว่า นี่เป็นปัญหาเรื้อรังของพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ รวมถึงเมืองใหญ่ต่างๆ ด้วย เสาไฟต้นหนึ่งมีสายอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ระโยงระยางเต็มไปหมด นอกจากจะไร้ระเบียบ เกะกะ มองดูไม่เจริญตาแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ขณะเดียวกันประชาชนที่พบเห็นและต้องการแก้ไขก็ไม่รู้จะไปร้องเรียนเอากับใคร เพราะมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็เลยเกิดการปัดความรับผิดชอบกันวุ่น ไม่มีใครยอมรับผิดชอบ ไม่มีใครเข้ามาจัดการ ทำให้ปัญหาก็ยังคงอยู่ และความซวยก็มาตกอยู่กับประชาชนอย่างที่เราพบเห็นกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะไฟไหม้ ไม่ว่าจะเสาไฟฟ้าล้มทับบ้านเรือนประชาชน หรือไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุคนสะดุดสายหกล้มได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น

"ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ต้องหยุดปัดความรับผิดชอบ ขณะที่ในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้น ผู้ว่าฯ กทม. ต้องเป็นเจ้าภาพหลักที่จะต้องไล่บี้เรื่องนี้ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในนโยบายสำหรับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกลด้วย เราเห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างการไฟฟ้านครหลวง กสทช. รวมถึงบริษัทเอกชนที่ให้บริการสายสื่อสารต่าง ๆ ต้องมาลงนามเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับ กทม. ว่าในส่วนที่ยังเป็นสายไฟสายสื่อสารที่ยังอยู่บนดินนั้นต้องจัดการให้เรียบร้อย ต้องมีมาตรการที่เข้มขึ้นเช่นถ้าทำไม่ได้ตามข้อตกลงนี้ ผิดจากข้อตกลงนี้ ก็จะไม่ให้ใช้บริการ เป็นต้น โดยกรณีอย่างนี้ประสบความสำเร็จมาแล้วในกรณีของเทศบาลนครนครราชสีมา, เทศบาลเมืองยะลา ที่นายกเทศมนตรีมานั่งหัวโต๊ะเป็นเจ้าภาพไล่บี้เอากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผมและพรรคก้าวไกลเราเชื่อว่ากรุงเทพมหานครเองก็จะสามารถทำได้ด้วยเช่นกัน ขณะที่ในส่วนหน้าที่ของ ส.ส.เขต เราก็จะทำหน้าที่ติดตามความคืบหน้า ประสานทวงถามจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน" นายกรุณพล กล่าว