ก้าวพลาด “ธรรมนัส” บทเรียนแสนแพง สะเทือนบารมี “นายป้อม”
บทต้องเจอของจริงเข้าไป “พล.อ.ประวิตร” และ “ธรรมนัส” คงเข้าใจไม่มากก็น้อยว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ หรือเป็นเรื่องง่ายแบบที่คิด ต้องพึ่งพาองค์ประกอบ และอะไรอย่างอื่นอีกมากมาย
เครดิตของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ถึงกับหล่นวูบทันที เมื่อรู้ผลเลือกตั้งซ่อม ชุมพร เขต 1 และ สงขลา เขต 6 อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อผู้สมัคร “พลังประชารัฐ” แพ้ “ประชาธิปัตย์” ราบคาบ
การล่องใต้ทำศึกของ “ธรรมนัส” รอบนี้ นำทัพลงมาด้วยความมั่นใจในขุมกำลัง ทรัพยากรอำนาจ และเครือข่ายคนบางกลุ่มที่ดูแลเอาไว้เป็นมือทำงาน นำความสำเร็จมาให้ในการ “เลือกตั้งซ่อม” หลายสนามจนย่ามใจ
คิดว่าการเดินเกมในรูปแบบถนัดของตัวเอง จะปักธง “ชุมพร” และ “สงขลา” ได้ไม่ยากเย็น
“ธรรมนัส” ที่สวมบทแม่ทัพตัวจริงของ “พลังประชารัฐ” อาจลืมไปว่า มังกรต่างถิ่น ใช่จะเอาชนะงูดินเจ้าที่ได้เสมอไป เมื่อคู่ต่อสู้เตรียมพร้อมรับมือสุดกำลัง ไม่ยอมเป็นหมูรอถูกเชือดฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่
ขุมกำลังเจ้าถิ่นซึ่งเป็นคู่แข่ง “พลังประชารัฐ” โดยเฉพาะที่ “ชุมพร” เรียกว่า แน่นทุกตารางนิ้วในพื้นที่ คอยประจันหน้า รู้ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนซึ่งผู้มีอำนาจรัฐส่งลงมาทุกฝีก้าว ไม่ว่าจะกินอยู่หลับนอนที่ไหน มีภารกิจอะไรต้องทำ ทั้งหมดอยู่ในสายตาเจ้าถิ่นตลอด คอยแก้เกมกันแบบชอตต่อชอต
เกมใต้ดินจึงทวีความเข้มข้น เป็นตัวชี้ขาดคนแพ้ชนะ ได้เลยทีเดียว สุดท้าย ผลเลือกตั้งกลับช็อค “พลังประชารัฐ” ตั้งแต่หางแถวไปจนถึงหัวแถว
“ธรรมนัส” ที่สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นในสนามเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งที่ผ่านมา ถึงตอนนี้ ไม่มีวันชื่นคืนสุขแบบนั้นอีกแล้ว
สังเวียนชุมพร และสงขลา สร้างความเจ็บปวดหัวใจ “ธรรมนัส” คล้ายโดนด้ามขวานปักอก เมื่อเจอคนใต้สั่งสอนให้ลิ้มรสความพ่ายแพ้ โดนลบเหลี่ยมเฉือนคมทางการเมืองไปเต็มๆ
เมื่อ “ธรรมนัส” ก้าวพลาด ปราศรัยชูผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา “อนุกูล พฤกษานุศักดิ์” สร้างวาทกรรม เลือกคนรวย จนถูกใช้เป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง หมิ่นคนใต้!!!
เมื่อ “ธรรมนัส” ก้าวพลาด ปราศรัยชูผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา “อนุกูล พฤกษานุศักดิ์” สร้างวาทกรรม เลือกคนรวย จนถูกใช้เป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง หมิ่นคนใต้!!!
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ในทางการเมือง โดยเฉพาะกับคนภาคใต้ สะท้อนความไม่เข้าใจบริบทของพื้นที่เท่าที่ควร นี่จะเป็นจุดผิดพลาดสำคัญ ที่จะติดตัว “ธรรมนัส” ไปตลอดชีวิตทางการเมือง
จุดตายที่สำคัญอีกประการ คือ ความเชื่อมั่น ชู “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคขึ้นเป็นจุดขายในภาคใต้ แทน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี นับว่าผิดพลาดอย่างมหันต์
เปิดช่องให้คู่ต่อสู้หยิบฉวยความนิยมของ “พล.อ.ประยุทธ์” มาดึงคะแนนเสียงให้ตัวเอง ถึงขนาดจอมเก๋าอย่าง “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ขึ้นปราศรัยใหญ่ในรอบเกือบ 10 ปี เวทีโค้งสุดท้ายที่ชุมพร ยังต้องอวยคนเป็นนายกฯ เลยทีเดียว
“ผมเชื่อว่าลุงตู่ไม่โกง” ไตรรงค์ พูดเสียงดังฟังชัด สะท้อนถึงความเข้าใจบริบทในขณะนี้ของคนใต้ ว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ยังขลัง เพราะมีบทเรียนจากอดีตหัวหน้าพรรค ที่ตัดขาดไร้เยื่อใยกับ “บิ๊กตู่” อย่างสิ้นเชิง ซึ่ง “ธรรมนัส” เลือกแบบนั้น
เรียกได้ว่าสนามเลือกตั้งซ่อม ชุมพร-สงขลา ฝากบทเรียนราคาแพงให้ “ธรรมนัส” อย่างปฏิเสธไม่ได้ การมีพร้อมทั้งปัจจัย อำนาจ อิทธิพล ไม่ได้การันตีความสำเร็จในการเลือกตั้งเสมอไป
ความพ่ายแพ้รวดเดียวทั้ง 2 สนาม อาจทำให้แม่ทัพ “พลังประชารัฐ” เสียศูนย์ เสียความมั่นใจไม่น้อย เพราะสั่นคลอนบารมีและศักดิ์ศรีของ “พล.อ.ประวิตร” อย่างเลี่ยงไม่ได้
บทต้องเจอของจริงเข้าไป “พล.อ.ประวิตร” และ “ธรรมนัส” คงเข้าใจไม่มากก็น้อยว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ หรือเป็นเรื่องง่ายแบบที่คิด ต้องพึ่งพาองค์ประกอบ และอะไรอย่างอื่นอีกมากมาย
ลำพังจะสวมบทฮีโร่ เปิดศึกทุกสารทิศ ไม่ไว้ไมตรีแบบเดิม อาจจะยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้ตัวเองมากขึ้นในวันหน้า
มิตรทางการเมืองจะยิ่งหดหาย สะเทือนภาพใหญ่ในการเลือกตั้งทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัยสำหรับ “พลังประชารัฐ” ถ้ายังไม่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำการเมือง
นาทีนี้ ส.ส.หลายคนในพลังประชารัฐ เตรียมย้ายไปบ้านหลังใหม่กันเป็นแถว นอกเหนือจาก “สุพล ฟองงาม” และ “สันติ กีรนันท์” ที่ชิงไขก๊อก ส.ส.ไปเรียบร้อยแล้ว