เตรียมจัดงานครบ 30 ปี เหตุการณ์พฤษภา'35 หนุนเรียนรู้ไม่ซ้ำรอยความสูญเสีย
"คณะกรรมการญาติวีรชน-มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม" เตรียมจัดงานครบ 30 ปี เหตุการณ์นองเลือด พ.ค.35 "ปริญญา" แนะทุกฝ่ายเรียนรู้ไม่ซ้ำรอยความสูญเสีย
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตแกนนำนักศึกษาในเหตุการณ์พฤษภา35 ในฐานะกรรมการมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม กล่าวถึงการแถลงข่าวจัดงานครบรอบ 30 ปี รำลึกพฤษภาประชาธรรมในวันที่ 26 ม.ค. ที่ลานอนุสาวรีย์พฤษภาประชาธรรม บริเวณสวนสันติพร ถนนราชดำเนิน โดยคณะกรรมการญาติ 35 ร่วมกับกรรมการมูลนิธิพฤษภาประชาธรรมว่า จะเป็นวันครบรอบเหตุการณ์ความสูญเสียครบรอบ 30 ปีในเดือน พ.ค.นี้ ถึงแม้ว่าจะได้มาซึ่งประชาธิปไตยแต่ก็แลกมาด้วยความสูญเสีย ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ 44 คน แต่ยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคนโดยเชื่อว่าถูกนำไปซ่อนทั้งหมด ดังนั้นเหตุการณ์นองเลือดไม่ควรจะมีอีกแล้ว
นายปริญญา กล่าวต่อว่า ในโอกาสครบรอบ 30 ปีของเหตุการณ์ครั้งนั้นจะจัดขึ้นเพื่อจัดรำลึกเช่นเดียวกับทุกๆ ปี แต่หลังเหตุการณ์ปี2535 กลับยังมีเหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง อาทิ เหตุการณ์ พ.ค.2553 ของกลุ่ม นปช. หรือกรณีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และยิ่งขณะนี้มีความขัดแย้งรอบใหม่กลับมา จึงต้องทำอย่างไรที่จะกลับสู่ประชาธิปไตยโดยไม่เกิดความสูญเสียท่ามกลางความเห็นต่างในสังคม เพื่อไม่ให้เรามาเข่นฆ่ากันอีก
"เป็นสิ่งที่เราตั้งใจจะจัดขึ้น เป็นเป้าของเหตุการณ์ พ.ค.2535 ครบรอบ 30 ปี และต้องพูดไปถึงการเห็นต่างในขอบเขตของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทำอย่างไรให้ความเห็นต่างไม่นำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงและนองเลือดอีก ส่วนการรัฐประหารจะต้องหมดไป ก็เป็นข้อที่ทุกฝ่ายต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์เมื่อ 30 ปีที่แล้วให้เป็นอุทาหรณ์"นายปริญญา กล่าว
นายปริญญา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในเรื่องคนหายเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาก็ต้องพูดอย่างจริงจังว่าศพอยู่ที่ไหน รวมถึงในปีนี้ก็ยังเป็นปีที่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยฯ ครบ 90 ปีอีกเช่นกันในวันที่ 27 มิ.ย.2475 ซึ่งเป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรก หลังจากมีการประกาศวันที่ 24 มิ.ย.2475 มาแล้ว โดยบัญญัติว่าอำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย จึงเป็นจุดกำเนิดของประชาธิปไตยฯ ทำให้ในปีนี้การจัดงานยังไม่จบเพียงแค่ 17 พ.ค.2565 แต่จะไปจบช่วงเดือน มิ.ย.2565 โดยทำอย่างไรประชาธิปไตยล้มลุกคลุกคลานมีเหตุการณ์นองเลือดจะผ่านไป และกลับไปสู่ประชาธิปไตยฯ ไม่ให้นองเลือดและไม่ล้มเหลวอีกในวาระ30 ปีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องมาเรียนรู้ในเรื่องนี้