วางบึ้ม 12 จุดป่วนเมืองยะลา! ตร.ลุยหาข่าว ปูพรมเร่งจับคนร้ายด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 28 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้รับแจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัย ที่บริเวณหน้าร้านทำกุญแจ ฝั่งตรงข้ามตลาดสดพิมลชัย ถนนสิโรรส โดยมีลักษณะเป็นกล่องสีเหลี่ยม มีแผงวงจรนาฬิกาเชื่อมต่ออยู่ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรยะลา เข้าทำการตรวจสอบ โดยทำการปิดถนนสิโรรส ช่วงหน้าป้อมสิโรรส ถึงถนนหน้าสถานีรถไฟยะลา ก่อนที่จะเข้าทำการเก็บกู้ด้วยการยิงทำลาย พบว่าเป็นระเบิด ที่ใช้ดินดำเป็นส่วนประกอบของระเบิด จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน

ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงระเบิดจำนวนหลายจุด จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เข้าตรวจสอบ พบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นระเบิดชนิดเดียวกัน ซึ่งบางจุดสามารถบันทึกภาพบุคคลต้องสงสัยเอาไว้ได้ รวมทั้งขณะเกิดเหตุระเบิด

มีรายงาน สรุปเหตุการณ์ป่วนเมืองยะลา เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า เกิดเหตุพบวัตถุต้องสงสัย และระเบิด จำนวน 12 จุด สามารถเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดได้จำนวน 3 ลูก จากการตรวจสอบเบื้องต้นมี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายมนูญ อุ่นอก อายุ 59 ปี  โดนสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนข้างซ้าย และขาข้างขวา จากเหตุระเบิดหน้าร้านสะดวกซื้อ บริเวณถนนผังเมือง 4   ส่วน จุดที่ 2 หน้าบ้านเลขที่ 508 ข้างร้านทองซังเต้ง ถนนสิโรรส สามารถเก็บกู้ทำลายได้ จุดที่ 3 ร้านขายต้นไม้ ถนนภูมาชีพ  จุดที่ 4 หน้าศูนย์ราชการ ถนนสิโรรส  จุดที่ 5 หน้าวัดเห้งเจีย ตำบลสะเตงนอก  จุดที่ 6 หน้าบ้านเลขที่ 7 ทางไป เรือนจำกลางยะลา ถนน สิโรสรส  จุดที่ 7 หน้า หจก.สุขาติค้าไม้ ยะลา ถนนผังเมือง 4 จุดที่ 8 หน้ามินิบิ๊กซี ข้างโงพยาบาลสัตว์เมตตายะลา ถนนผังเมือง 4  ระเบิด 2 ลูก เก็บกู้ได้ 1 ลูก จุดที่ 9 ข้างศูนย์การค้าโคลีเชี่ยมยะลา จุดที่ 10 ร้านยะลามหาพานิชการยาง ถนนสิโรรส   จุดที่ 11 เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาบ้านสะเตง  จุดที่ 12 เซเว่น อีเลฟเว่น สาขารัฐปิติ  โดยทั้ง 12 จุด ไม่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดแต่อย่างใด เบื้องต้นสาเหตุ น่าเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2565 พลตำรวจตรีทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกติดตามหาข่าว รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดโดยรอบจุดเกิดเหตุทุกจุด เพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว