"พปชร."เล็งปรับกลยุทธ์ หลังพ่ายยับ พัฒนานวัตกรรม ดิจิทัล อัพเลเวลลูกหลาน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม. เขตหลักสี่-จตุจักร ว่าต้องแสดงความยินดีกับ ส.ส.คนใหม่ที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนในเขตหลักสี่และจตุจักร ส่วนพปชร.เคารพเสียงประชาชน ขอบคุณประชาชนทั้งสองเขตที่ลงคะแนนให้ แม้ครั้งนี้จะไม่ชนะ แต่พปชร.จะลงพื้นที่สำรวจความเห็นประชาชนในสิ่งที่อยากให้พรรคดำเนินการในเรื่องต่างๆ และในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค พปชร. จะทำให้สิ่งที่ประชาชนทั้งสองเขตมาศึกษาให้ได้รับทราบความต้องการของประชาชนว่าอยากให้เราทำอะไรบ้าง เพื่อจะได้นั่งอยู่ในใจประชาชนส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ไม่ได้พูดอะไรแต่ผู้บริหารพรรคทุกคนมีหน้าที่ปรับกลยุทธ์ให้สอดรับความต้องการประชาชนให้เกิดความไว้ใจ

นายสันติ กล่าวว่า มั่นใจว่าจะปรับกระบวนการวิธีการทำงาน แบ่งงานให้ ส.ส. และทีมงานลงพื้นที่ไปรับฟังความต้องการของประชาชนว่าอยากให้ผลักดันนโยบายในเรื่องใด ทั้งลดค่าครองชีพของประชาชนใน กทม.ชนบท การพัฒนาเศรษฐกิจในแต่ละภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนทุกคน รวมทั้ง ปรับกลยุทธ์การทำงานของพรรค เวลานี้โลกพัฒนาไปมาก จึงตั้งใจว่าจะยกระดับและพัฒนานวัตกรรมและดิจิทัล และเพิ่มศักยภาพของลูกหลานในด้านภาษาต่างประเทศ เพื่อให้สามารถแข่งขัน รับไม้ต่อ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ เพิ่มการลงทุนให้องค์กรและบริษัทให้สามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้

นายสันติ กล่าวว่า ส่วนผลคะแนนนั้น จากการที่ดูมาจากหลายส่วน จะนำเอาสิ่งที่ประชาชนชี้แนะในการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อไปสร้างความพึงพอใจให้ประชาชนต่อไป

เมื่อถามว่า ความพ่ายแพ้ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งของพรรค อาจถูกมองได้ว่าเป็นช่วงขาลงของ พปชร. และพล.อ.ประวิตร รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายสันติ กล่าวว่า นายกฯ ทุ่มเททำงานในภาวะวิกฤติมากว่า 7 ปี และอยู่ภายใต้มรสุมมาตลอด แต่รักษาคุณภาพการลงทุนและเศรษฐกิจอย่างดีเยี่ยม และเวลานี้เกิดโควิด-19 มา 2 ปี ยังดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ดี ตนชื่นชมความตั้งใจและทุ่มเทของนายกฯที่คิดทุกอย่างเพื่อพัฒนาประเทศ

เมื่อถามว่า ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะขายไม่ได้แล้ว นายสันติ กล่าวว่า เป็นคนละประเด็นนายกฯ ทุ่มเททำงานให้ประชาชน แต่เรื่องแพ้ชนะเป็นเรื่องพรรคที่จะต้องปรับปรุงการบริหารจัดการและสร้างผลงานให้ตรงใจประชาชนในความต้องการแต่ละยุคสมัย และ พล.อ.ประวิตรในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เลือกตนมารักษาการเลขาธิการพรรค ต่อนี้ไปจะผลักดันนโยบายและเชื่อมต่อกับรัฐบาลให้ได้ เพื่อนำนโยบายลงไปถึงประชาชน แม้ว่าต่อไปเราจะปิดทองหลังพระ แต่จะผลักดันเกิดศักยภาพในประเทศ  

เมื่อถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรค พปชร. โพสต์เฟซบุ๊คให้ความเห็นหลังการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ว่า ศัตรูของศัตรูคือมิตร นายสันติ กล่าวว่า พรรคการเมืองมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุข พัฒนานโยบาย  

เมื่อถามย้ำว่า ร.อ.ธรรมนัส ให้ความเห็นหลังจากออกจากบ้านเก่าไปแล้วถือว่าเหมาะสมหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ยังไม่ได้ยิน แต่จะพูดอย่างไรเราก็ควรรับฟัง แต่ตนมีความปรารถนาดีกับทุกคน ถ้าติจะนำมาตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ถ้าจริงจะแก้ไข ถ้าชมจะขอบคุณ