"ธีรรัตน์" จี้ "รัฐบาล" ทบทวนเลิกสิทธิรักษาโควิดฉุกเฉิน ชี้ยังไม่เหมาะสม
"ธีรรัตน์" บอก "รัฐบาล" ยึดรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 ให้คนไทยได้รับสิทธิดูแลป้องกันโรคระบาด ย้ำ โควิด-19 ต้องเฝ้าระวัง แนะทบทวนเลิกสิทธิรักษาโควิดฉุกเฉิน
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายในที่ประชุมสภาฯ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ ถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่เชื่อว่าปัจจุบันจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึง 3 หมื่นคน ทั้งนี้ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุว่าได้จัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชนและพูดเหมือนกับมีบุญคุณกับประชาชน แต่ไม่ได้พิจารณาว่าที่ผ่านมามีประชาชนต้องสูญเสียญาติจากโควิด-19 ทั้งนี้ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ทราบว่ารัฐบาลเตรียมปลดโควิด ออกจากการสิทธิรักษาฉุกเฉิน หรือ UCEP ปรับให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ทั้งนี้ขอให้ทบทวน เพราะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
น.ส.ธีรรัตน์ อภิปรายด้วยว่า สถานการณ์โควิด-19 ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะยังไม่มีการรับรองว่าโควิด-19 จะเป็นโรคประจำถิ่น เพราะไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนถึงช่วงการระบาดที่ชัดเจน ความรุนแรงของโรค ทั้งนี้มีข่าวระบุว่าเตียงในโรงพยาบาลของรัฐส่วนใหญ่เต็มแล้ว นอกจากนั้นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับเด็กนักเรียน ตนทราบว่าบางโรงเรียนต่างจังหวัดไม่มีงบประมาณเพื่อจัดซื้อชุดตรวจ ต้องทอดผ้าป่าเพื่อหาเงินซื้อชุดตรวจ แต่บางโรงเรียนพบว่ามีส.ส.นำชุดตรวจเอทีเคไปมอบให้แบบให้เปล่า ซึ่งคนสงสารนักเรียนที่เกิดภาวะความไม่เท่าเทียมดังกล่าว
“รัฐธรรมนูญ มาตรา 47 วรรคสาม กำหนดให้ประชาชนได้รับสิทธิการปกป้องโรคระบาดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดังนั้นรัฐบาลควรดูแลแบบเท่าเทียม ไม่ใช่เอื้อให้พวกพ้องหรือนายทุนเท่านั้น ทำตัวเป็นรัฐบาลมือถือสาก ปากถือศีล หรือทำตัวเป็นคนดีที่ยัดเยียดความสิ้นหวังให้ประชาชนทุกนาที อย่างไรก็ดีหากรัฐบาลจะยุบหรือยกเลิกอะไร ขอเสนอให้ยุบศบค. และเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นคุณประโยชน์กับแผ่นดิน” น.ส.ธีรรัตน์ อภิปราย.